TEXT: ภัทร เถื่อนศิริ
เคยสังเกตไหมว่าธุรกิจที่เติบโตแบบยั่งยืนและเป็นเบอร์หนึ่งในวงการ ไม่ว่าจะเป็น Starbucks, Airbnb, Patagonia นั้นจะมีหนึ่งอย่างที่เหมือนๆ กัน นั่นคือ Contributive Strategy กลยุทธ์การมีส่วนร่วม เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า พนักงาน ชุมชน และสังคม โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการเติบโตของธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่ความยั่งยืนในระยะยาว ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วยกลยุทธ์นี้ มักจะได้รับความไว้วางใจและสนับสนุนจากลูกค้าและสังคม
ในโลกปัจจุบันที่การแข่งขันทางธุรกิจมีความรุนแรงมากขึ้น การให้ความสำคัญเพียงกลยุทธ์การแข่งขันอย่างเดียวอาจทำให้องค์กรประสบความสำเร็จในระยะสั้น ไม่สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว เนื่องจากโลกปัจจุบันกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ความเป็นธรรม และความยั่งยืนมากขึ้น โดยมีแนวโน้มที่จะมีกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ที่เข้มงวดขึ้นในการควบคุมการดำเนินธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม องค์กรที่ไม่ปรับตัวอาจต้องเผชิญกับการถูกลงโทษทางการค้า ถูกเรียกเก็บภาษีสูง หรืออาจไม่สามารถเติบโตและสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อีกต่อไป
ในทางกลับกัน องค์กรที่จะประสบความสำเร็จและก้าวสู่การเป็น "Great Player" ในโลกยุคใหม่นั้น จะต้องให้ความสำคัญกับ "กลยุทธ์การมีส่วนร่วม (Contributive Strategy)" มากขึ้นด้วย
การใช้กลยุทธ์นี้มักเน้นการสื่อสารแบบสองทาง การรับฟังความคิดเห็น และการเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจและดำเนินการ ซึ่งจะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกันและเพิ่มแรงจูงใจในการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงโดยไม่ได้มุ่งเน้นที่ผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการสร้างผลลัพธ์ที่ดี (Positive Outcomes) ความเท่าเทียม ความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน และความยั่งยืน นอกจากนี้ยังคำนึงถึงการสร้างผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด (Minimum Harm) เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว
การนำกลยุทธ์นี้มาใช้จะช่วยให้องค์กรมีคาแรกเตอร์ (Character) ที่โดดเด่น เช่น ความใส่ใจ ความมุ่งมั่น และความกล้าหาญ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจและการมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ชุมชน รวมถึงสังคมโดยรวม
การนำกลยุทธ์การมีส่วนร่วมมาใช้จะช่วยสร้างโอกาสและช่องทางการทำธุรกิจใหม่ๆ ได้ ยกตัวอย่างเช่น การมีความหลากหลายทางเพศในคณะผู้บริหารจะนำมาซึ่งมุมมองและการตัดสินใจที่หลากหลายมิติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจและผลกำไรในระยะยาว นอกจากนี้ การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอาจนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้
ภาพรวมคือ ธุรกิจที่จะก้าวสู่การเป็น Great Player ในโลกยุคใหม่นั้น จะต้องไม่มุ่งเน้นที่การสร้างผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การมีส่วนร่วมควบคู่กันไป เพื่อสร้างคุณค่าและผลลัพธ์ที่ดีให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับการคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม การผสมผสานกลยุทธ์ทั้งสองอย่างได้อย่างลงตัวจะนำพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนและประสบความสำเร็จในยุคใหม่นี้
ตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จด้วย Contributive Strategy:
- Patagonia:
แบรนด์เสื้อผ้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างสูง Patagonia ไม่เพียงแต่ผลิตเสื้อผ้าคุณภาพดี แต่ยังส่งเสริมให้ลูกค้านำเสื้อผ้าเก่ามาซ่อมแซมหรือรีไซเคิล นอกจากนี้ บริษัทยังบริจาคเงินให้กับองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ Patagonia กลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- The Body Shop:
บริษัทเครื่องสำอางที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติและไม่ทดลองกับสัตว์ The Body Shop สนับสนุนสิทธิสตรีและความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงรณรงค์ให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม
- TOMS:
บริษัทผู้ผลิตรองเท้าที่มอบรองเท้าให้กับเด็กที่ขาดแคลนทุกครั้งที่ขายรองเท้าไปหนึ่งคู่ TOMS สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม
- Starbucks:
ร้านกาแฟรายใหญ่ระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับการสร้างชุมชน Starbucks สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเองในร้านกาแฟ และสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ
- Airbnb:
แพลตฟอร์มให้เช่าที่พักที่ช่วยให้ผู้คนสามารถแบ่งปันที่พักของตนเองกับนักท่องเที่ยว Airbnb สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับเจ้าของที่พัก และส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
การนำกลยุทธ์ Contributive มาใช้จะช่วยให้ธุรกิจ SME สร้างความแตกต่าง และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและสังคม ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี