TEXT: Momiin
Main Idea
- จ้างงานแบบเงียบ (Quiet hiring) เป็นศัพท์ใหม่ของเทรนด์การทำงานปี 2023 มีความหมาย คือ การที่บริษัทหรือองค์กรเพิ่มทักษะและเติมช่องว่างในที่ทำงานได้โดยไม่ต้องจ้างพนักงานเข้ามาใหม่
- และจะดีต่อ องค์กร และ พนักงาน อย่างไร
ในปี 2022 ที่ผ่านมามีคำศัพท์ในที่ทำงานเกิดขึ้นมากมาย เช่น การลาออกแบบเงียบ (Quiet quitting) การเลิกจ้างอย่างเงียบ (Quiet Firing) และการลาออกเร็ว (Fast Quitting) และในปี 2023 นี้ก็มีศัพท์ใหม่ที่เกิดจากแนวโน้มการจ้างงานเช่นกัน นั่นก็คือ “การจ้างงานแบบเงียบ (Quiet hiring)” วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปรู้จักเทรนด์การจ้างงานแบบเงียบกันว่า คือ อะไร จะมีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร และพนักงานจะได้อะไรในการจ้างงานแบบนี้ ตามมาดูกันเลย
ต้องบอกก่อนว่า การจ้างงานแบบเงียบ (Quiet hiring) เป็นการพลิกผันมากจากการลาออกแบบเงียบ (Quiet quitting) ที่ไม่ได้แปลว่าลาออกจริงๆ แต่ทำงานตามหน้าที่ที่วางไว้ นั่นก็หมายความว่าจะไม่มีการทำงานเกินหน้าที่นั่นเอง โดยเป็นเทรนด์ที่มาจากฝั่งนายจ้าง
จ้างงานแบบเงียบ (Quiet hiring) คือ การที่บริษัทหรือองค์กรเพิ่มทักษะและเติมช่องว่างในที่ทำงานโดยไม่ต้องจ้างพนักงานเข้ามาใหม่ ซึ่งแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
- การจ้างงานเงียบภายใน - เป็นการที่บริษัทให้พนักงานย้ายไปทำหน้าที่ในส่วนอื่นๆ ชั่วคราว ซึ่งเป็นงานที่ไม่ได้รับหมอบหมายไว้ก่อนหน้านี้
- การจ้างงานเงียบภายนอก – เป็นการจ้างงานระยะสั้น เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ โดยไม่ต้องรับพนักงานเพิ่ม เช่น จ้างเพื่อทำโปรเจกต์ต่างๆ ของบริษัท เป็นต้น
จ้างงานแบบเงียบ ส่งผลอย่างไรต่อพนักงาน และบริษัทบ้าง
- ข้อดีต่อพนักงาน
พนักงานอาจมองว่านี่เป็นความท้าทายหรือโอกาสในการต่อรองผลตอบแทนที่เขาจะได้รับจากการถูกจ้างงานแบบเงียบ โดยเฉพาะสำหรับพนักงานที่ไม่ต้องการเปลี่ยนสายงานใหม่ แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับกลุ่มอื่นๆ เพราะพวกเขาอาจคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลในการที่ให้พวกเขาทำงานเกินหน้าที่ ซึ่งวิธีจูงใจสำหรับกลุ่มนี้ คือ อาจจะมีค่าตอบแทนในการทำในที่ได้รับหมอบหมายส่วนอื่นที่ตนไม่ได้รับผิดชอบ เพื่อทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่ได้ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง
จากการสำรวจจาก Monster Jobs ชี้ให้เห็นว่า 80% ของคนงานที่ได้รับการจ้างงานแบบเงียบ ซึ่งตรงกับการสำรวจของ JobSage เช่นกัน ระบุว่า 78% ของคนงานในสหรัฐฯ ได้รับการ “เลื่อนตำแหน่ง” อย่างลับๆ ในการจ้างงานแบบเงียบ แต่ก็มี 57% มองว่าเป็นการถูกเอารัดเอาเปรียบในการจ้างงานแบบเงียบ
- ข้อดีและข้อควรระวังต่อบริษัท
Emily Rose McRae ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยของ Gartner เตือนว่าหากไม่มีความโปร่งใสเพียงพอเกี่ยวกับเหตุผลในการจ้างงานแบบนี้ จะทำให้พนักงานบางคนมีทัศนคติในการทำงานที่เปลี่ยนไปจากเดิม หรืออาจเริ่มมองหาโอกาสอื่นในการทำงาน เช่น การเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ เป็นต้น
แม้ว่าการจ้างงานแบบเงียบๆ อาจเป็นทางออกที่ดีสำหรับนายจ้างในการทำให้องค์กรหรือบริษัททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยลดต้นทุนในการจ้างพนักงานเพิ่ม แต่มันจะสำเร็จหรือล้มเหลวนั้นก็ขึ้นอยู่กับการสื่อสารของบริษัท เพราะว่าการจ้างงานแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อพนักงาน ถ้าไม่ทำการสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจอย่างโจ่งแจ้ง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี