เรื่อง เจษฎา ปุรนิทวรกุล
การที่บริษัทแห่งหนึ่งจะดำเนินธุรกิจไปได้ยาวนาน 30-40 ปี นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องมีการวางแผนบริหารจัดการในด้านต่างๆ ที่ดีและยังต้องมีรากฐานที่สำคัญ โดยเฉพาะวัฒนธรรมองค์กรซึ่งจะเป็นสิ่งที่ปลูกฝังแนวคิด ทัศนคติ จนกลายเป็นการยึดถือปฏิบัติของพนักงานในองค์กร ดังนั้น หากใครต้องการสร้างธุรกิจและองค์กรให้อยู่รอดในระยะยาว ต้องคำนึงถึง 4 เรื่องหลักๆ ตามนี้
1. วัฒนธรรมเป็นรากฐานที่สำคัญ
หากไม่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ก็ยากที่องค์กรแห่งหนึ่งจะยืนหยัดอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เราเป็นเจ้าของธุรกิจที่ตรงต่อเวลาและเข้มงวดเรื่องการมาทำงานตามเวลาที่กำหนดมากๆ หรือการยกมือไหว้ผู้สูงอายุ เป็นต้น ดังนั้น หากเราสร้างวัฒนธรรมดังกล่าวเอาไว้อย่างเข้มแข็ง พนักงานในรุ่นต่อๆ ไปย่อมต้องปฏิบัติตาม
ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจ การปลูกฝังและสร้างค่านิยมรวมถึงวัฒนธรรมองค์กรให้กับบริษัท จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และสร้างแนวปฏิบัติที่ดีให้กับพนักงานทุกๆ คนด้วย
2. เริ่มจากพนักงานเป็นอันดับแรก
พนักงานเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในการทำธุรกิจ เพราะเราไม่สามารถทำธุรกิจได้ด้วยตัวคนเดียว (ยกเว้นว่าเราจะเป็น Freelance หรือผู้ประกอบการรายเล็กมากๆ) ดังนั้น ต้องปฏิบัติต่อทุกคนให้มีความเหมาะสมและเท่าเทียมกัน การปลูกฝังจากสิ่งเล็กๆ นี้ จะทำให้พนักงานปฏิบัติต่อกันด้วยดี และนำสิ่งนี้ไปปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยเช่นกัน
3. เรียนรู้พนักงาน
จะเป็นเรื่องที่ดี หากเราใช้เวลาเรียนรู้พนักงานแต่ละคน เช่น ชีวิตความเป็นอยู่ ครอบครัว กิจกรรมยามว่าง งานอดิเรก สิ่งที่สำคัญและเป้าหมายในชีวิต
จำไว้เสมอว่า อย่าเรียนรู้พนักงานเพราะเป็นหน้าที่ของหัวหน้าองค์กร เพราะพวกเขาจะสัมผัสได้ถึงความไม่จริงใจ แต่ให้เรียนรู้พนักงานด้วยความจริงใจและความคิดที่ว่า พนักงานทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน โดยวิธีนี้จะช่วยให้เราสามารถสร้างพนักงานกลุ่มแรกในบริษัทซึ่งจะเป็นคนที่ร่วมสร้างธุรกิจ รากฐาน และวัฒนธรรมองค์กรไปได้พร้อมๆ กัน
4. ดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีเหมือนเขาเป็นลูกค้าเพียงคนเดียวของเรา
เป็นเรื่องง่ายมากๆ ที่เราจะลืมเลือนความรู้สึกเมื่อครั้งเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ลืมความรู้สึกที่มีลูกค้าคนแรกเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูล หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ไปใช้ ลูกค้าคนแรกคือความสำคัญ เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา เราจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขและกลับมาซื้อสินค้าของเราอีกครั้ง เมื่อลูกค้ามีความสุข เขาอาจแนะนำสินค้าของเราให้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวด้วย
แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น อาจเป็น 3-4 ปี ผ่านไป เราอาจค่อยๆ ลืมเลือนการให้ความสำคัญกับลูกค้าแบบเดิมๆ เพราะจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น และไม่มีเวลาดูแลลูกค้าทุกคนหรือเห็นว่าบางรายไม่น่าสนใจพอที่จะเสียเวลาสร้างความสัมพันธ์อีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร อย่าเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอันขาด การทำธุรกิจเปรียบเสมือนการสร้างชื่อเสียง ชื่อเสียงจะกลายเป็นแบรนด์ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้ารายใหญ่ หรือรายเล็ก หากลูกค้ามีความสุข เขาย่อมกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการของเรา รวมถึงแนะนำคนอื่นๆ อีกอย่างแน่นอน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี