เรื่อง ธีรนาฏ มีนุ่น
ยิ่งใกล้เวลาของการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเข้าไปทุกขณะ ดูเหมือนว่าสถาบันสอนภาษาจะยิ่งทวีบทบาทมากขึ้นทุกวัน ด้วยภาษาจะเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างโอกาสให้กับผู้ใช้ภาษาอังกฤษ รวมถึงภาษาอื่นๆในประเทศอาเซียนเป็นอย่างมากมาย ในทางกลับกัน ก็สามารถกลายเป็นอุปสรรค์อันยิ่งใหญ่ ให้กับผู้ที่ไม่มีความรู้ภาษาเหล่านั้น แฟรนไชส์สถาบันภาษา จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับใครก็ตามที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ ในยามที่ทุกคนต่างตื่นตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับ AEC ที่กำลังจะมาถึง
“ธุรกิจการศึกษายังเป็นธุรกิจที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยภาพรวมตลาดที่มีมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาทและยิ่งบวกกับกระแสเปิดตลาดอาเซียนด้วยแล้วถือได้ว่าธุรกิจการศึกษามีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะสถาบันสอนภาษาถือได้ว่าเป็นธุรกิจดาวจรัสแสงแห่งอนาคต เพราะโลกยุคใหม่จะถูกขับเคลื่อนด้วยภาษาอังกฤษและภาษาจีนอย่างแน่นอน”
“วัลลภา เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสถาบันภาษายูนิเซิร์ช” เปิดเผยถึงภาพรวม และโอกาสอันน่าสนใจของธุรกิจการศึกษาในปัจจุบัน ทั้งนี้สถาบันภาษายูนิเซิร์ชถือเป็นต้นแบบแฟรนไชส์สอนภาษาอังกฤษและภาษาจีน สำหรับเด็ก 3-16 ปี โดดเด่นด้วยวิธีการเรียนการสอนตามแนวทฤษฎีใหม่ M.T.A.L. (Multifaceted Teaching methods through Active Learning) เน้นการปูพื้นฐานทักษะด้านภาษาผ่านกระบวนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์และเป็นธรรมชาติ พร้อมสนุกกับกิจกรรมหรรษาเสริมทักษะหลากมิติ ศิลปะ ดนตรี เกมส์และนิทาน ซึ่งจากการทุ่มเทและพัฒนาหลักสูตรและวิธีการสอนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับปรุงระบบแฟรนไชส์ให้ดีขึ้น จึงทำให้ได้รับ 4 รางวัลคุณภาพมาตรฐานในประเทศไทย อีกทั้งได้รับความไว้วางใจจากผู้ปกครองและผู้ประกอบการมากขึ้นทุกๆ ปี
นอกจากระบบอันมีมาตรฐาน สิ่งที่วัลลภาให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ การดูแลแฟรนไชส์ซีในฐานะ “ยูนิเซิร์ชพาร์ทเนอร์” ด้วยมุ่งเน้นความสำเร็จของผู้ลงทุนอย่างแท้จริง ให้ความยืดหยุ่นสูงทั้งด้านรูปแบบ และงบประมาณการตกแต่งสถานที่ รวมถึงอิสรภาพด้านการตลาด การบริหารสาขา ซึ่งเธอเชื่อว่าการดูแลในลักษณะนี้ จะช่วยให้แฟรนไชส์ซีได้รับประโยชน์และผลตอบแทนสูงสุด
“เรากำหนดรูปแบบการลงทุนไว้ 2 แบบคือ Full License ครอบคลุมทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษและภาษาจีนหรือเลือกลงทุนแบบ Partial License เลือกเพียงหลักสูตรใดหลักสูตรหนึ่งค่าธรรมเนียมสิทธิ์หลักสูตรละ 290,000 บาท ตลอดอายุสัญญา 7 ปี โดยเราเชื่อมั่นว่า หากแฟรนไชส์ซีเป็นผู้ที่เปิดโรงเรียน หรือสถาบันอยู่แล้ว และนำยูนิเซิร์ชไปเป็นส่วนเสริม ไม่ต้องลงทุนมาก จะคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ส่วนผู้ลงทุนใหม่ อาจต้องใช้เวลานานขึ้น แต่รับรองได้ว่าความจำเป็นของภาษาในโลกยุคใหม่ จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคงทำให้ผู้ลงทุนรอไม่นานอย่างแน่นอน ”
ทั้งนี้ ผู้บริหารสาวฝากไปถึงผู้ที่สนใจแฟรนไชส์ว่า คุณสมบัติพื้นฐานจะต้องมีความรัก และเข้าใจด้านการศึกษา มีทัศนคติที่ดีในการบริหาร มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทเวลาให้กับสถาบันอย่างเต็มที่ สำคัญคือต้องพัฒนาความรู้ความสามารถของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อความสำเร็จของตนเองในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ด้วยความต้องการรักษาระดับคุณภาพของสถาบันฯ และสามารถดูแลนักลงทุนได้อย่างทั่วถึง ในปี 2556 จึงมีการกำหนดกรอบการรับแฟรนไชส์ซีไว้เพียง 20 รายต่อปี ดังนั้น หากใครมั่นใจว่ามีความพร้อมก็จงอย่ารอช้า สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.unisearchthailand.com หรือโทร. 0-2477-9344