TEXT : กองบรรณาธิการ
Main Idea
- ว่ากันว่า 70% ของธุรกิจที่ทำมานานกว่า 10 ปีมีโอกาสที่จะล้มเหลวสูง
- ปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งมักมาจากการขาดการนำข้อมูลทางการเงินของธุรกิจมาคิดวิเคราะห์ เพื่อวางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ
จริงอยู่ว่าในการดำเนินธุรกิจ หรือจะตัดสินใจลงมือทำอะไรสักอย่าง เราอาจใช้สัญชาตญาณเป็นขับเคลื่อน แต่สุดท้ายแล้วเพื่อให้ธุรกิจเติบโตไปต่อได้ข้อมูลก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน โดยเฉพาะข้อมูลทางการเงิน ซึ่งมีสถิติกล่าวไว้ว่าบริษัทที่ทำธุรกิจมา 10 ปี มีโอกาสที่จะล้มเหลวลงได้ถึง 70% ทีเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นวันนี้จึงชวนมาเรียนรู้วิธีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลทางการเงินให้เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจของคุณมีประสิทธิภาพและเติบโตได้ประสบความสำเร็จกัน
1) เก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็น แยกประเภทรายรับ-รายจ่ายให้ถูกต้อง
เป้าหมายแรกที่คุณจะต้องทำก่อน เพื่อเตรียมตัวป้องกันวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า ก็คือ การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นระเบียบ ซึ่งแน่นอนว่าต้องไม่ใช่แค่การโยนใบเสร็จหรือเอกสารการเงินลงในลิ้นชักหรือกล่องขนาดใหญ่เอาไว้เฉยๆ แต่คุณต้องเริ่มแยกตั้งแต่แรกว่าค่าใช้จ่ายหรือรายได้ต่างๆ นั้นอยู่ในบัญชีการเงินประเภทไหน โดยอาจใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ตอนนี้มีผลิตออกมาให้เลือกมากมายเป็นตัวช่วย ยอมเสียเวลานิดหน่อยตั้งแต่ทีแรก เพื่อไม่ให้มาปวดหัวภายหลังจะดีกว่า
2) อ่านข้อมูลให้เป็น วิเคราะห์แนวโน้ม ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อเก็บข้อมูลอย่างถูกต้องแล้ว ข้อต่อมาที่จะทำให้ข้อมูลของคุณมีประโยชน์กับธุรกิจ ก็คือ การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ในตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ร้านอาหารของคุณขายดีที่สุดในช่วง 3 เดือน คือ กรกฏาคม - กันยายน สิ่งที่คุณสามารถนำใช้ประโยชน์ได้จากข้อมูลนี้ ก็คือ นอกจากจะหาเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไรแล้ว ก่อนที่ช่วงพีคจะวนกลับมาอีกรอบ คุณยังสามารถวางแผนเตรียมตัวจ้างคนเพิ่มเพื่อให้มาช่วยได้, กันเงินเอาไว้บางส่วน เพื่อลงทุนเพิ่มในช่วงเวลานั้นๆ หรือดีไม่ดีอาจวางแผนซื้อวัตถุดิบเอาไว้ล่วงหน้าในช่วงที่ราคาต่ำ เพื่อนำมาใช้ในเวลานั้นก็ได้
3) งบการเงินที่ต้องรู้ให้เป็น
นอกจากการเก็บรวบรวมข้อมูลทางการเงินให้ถูกต้องแล้ว ลองเพิ่มความแอดวานซ์ขึ้นมาอีกหน่อย ด้วยการทำงบการเงิน 3 ฉบับนี้ ว่าแต่ละอย่างช่วยบ่งบอก
- งบกำไรขาดทุน - เพื่อตรวจสอบสถานะการเงินของบริษัทว่าอยู่ในเกณฑ์ใด คือ การรายงานเกี่ยวกับรายได้, ค่าใช้จ่าย กำไร และขาดทุนในแต่ละรอบบัญชี มีสูตรการคำนวณ คือ รายได้สุทธิ = (รายได้รวม + กำไร) - (ค่าใช้จ่ายทั้งหมด + ขาดทุน) โดยหากผลลัพธ์ออกมาบวก แสดงว่ากิจการของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
- งบกระแสเงินสด – ช่วยตรวจเช็กศักยภาพวางแผนการเงินล่วงหน้า โดยงบกระแสเงินสด คือ การรายงานให้เห็นว่าธุรกิจของคุณมีเงินสดไหลเวียนเข้า-ออกอย่างไรบ้าง มากจากทางไหน หรือนำไปใช้อะไรบ้าง โดยหากสามารถรู้ข้อมูลได้ทั้งหมดจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนล่วงหน้าได้ถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น หากมีลูกหนี้บางคนที่อาจจ่ายช้า คุณจะรู้ได้ทันทีว่านั่นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจคุณหรือไม่ หรือคุณสามารถที่จะมีเงินสดพอซัพพอตไปก่อน
- งบดุล - ช่วยบอกว่า ณ เวลานั้นกิจการของเรามีทรัพย์สินความมั่งคั่งมากน้อยแค่ไหน ชื่ออย่างเป็นทางการ คือ งบแสดงฐานะการเงิน เป็นเครื่องมือที่ สูตรคำนวณ คืออ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ (หรือการลงทุนในธุรกิจ) ซึ่งทั้งสองฝั่งจะต้องเท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการเปิดร้านต้องใช้สินทรัพย์ทั้งหมด 400,000 บาท มีเงินลงทุนอยู่ 250,000 บาท ไม่พอ จึงต้องกู้เพิ่มอีก 150,000 บาท
https://www.entrepreneur.com/starting-a-business/the-true-failure-rate-of-small-businesses/361350
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี