จีนเป็นประเทศหนึ่งที่ได้โอบรับกระแส cashless society หรือสังคมไร้เงินสดรวดเร็วจนน่าทึ่งจนได้ชื่อว่าล้ำเกินประเทศแถบตะวันตกเสียอีก หาบเร่แผงลอยข้างทาง หรือกระทั่งขอทานในจีนยังมี QR code ให้สแกนจ่ายจนกลายเป็นไวรัลในสังคมโซเชียลมาแล้ว ล่าสุด ดูเหมือนจีนจะก้าวไปอีกขั้นกับการทำให้สังคมไร้เงินสดเต็มขั้นเมื่อธนาคารเอกชน 2 แห่งของจีนในมณฑลเหลียวหนิง และในกรุงปักกิ่งประกาศยกเลิกทุกบริการและธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับธนบัตรและเหรียญ
ธนาคารแรกคือ Zhongguancun Bank ในปักกิ่งประกาศยกเลิกการฝาก-ถอนเงินสดที่หน้าเคาน์เตอร์ รวมถึงการฝากถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มด้วย โดยเริ่มตั้งแต่เดือนเมย. 2565 นี้เป็นต้นไป ด้านธนาคาร NewUp Bank of Liaoning ในมณฑลเหลียวหนิงก็เตรียมยกเลิกบริการแบบเดียวกันในเดือนมีค.ปีนี้ ความเคลื่อนไหวของ 2 ธนาคารดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าสถาบันการเงินของจีนกำลังเปลี่ยนไปสู่ยุค digital banking
สอดคล้องกับการแจ้งเกิดของแอปพลิเคชันเพื่อการทำธุรกรรมทางการเงิน อาทิ WeChatPay และ Alipay ที่กำลังใช้งานแพร่หลายในประเทศ ในส่วนของรัฐบาลก็นำร่องแนะนำสกุลเงิน “E-Yuan” ซึ่งเป็นเงินหยวนในรูปแบบดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางจีน สามารถชำระหนี้ได้เสมือนเงินสด โดยขณะนี้มีประชาชนดาวน์โหลดแอปกระเป๋าตังค์ของรัฐบาลเพื่อใช้งานแล้วมากกว่า 261 ล้านคน
ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา พบว่าธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ บริการเดลิเวอรี่ทั้งหลายแหล่ หรือร้านค้าทั่วไปต่างเพิ่มช่องทางในการรับชำระค่าสินค้าและบริการด้วยเงิน E-Yuan เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคมากขึ้น การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล สอดรับแพลตฟอร์มดิจิทัลมากมายในชีวิตประจำวัน ธนาคารต่าง ๆ โดยเฉพาะธนาคารกลางของจีนเองจึงจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อรองรับสังคมดิจิทัลที่เกิดขึ้น
ถ้ามัวช้าและไม่ปรับตัว อาจตกม้าตายก่อนจะถึงที่หมาย
TEXT: วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี