การหาแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการ SME จะแบ่งออกเป็น 2 แนวทางหลัก คือ การกู้เงินผ่านช่องทางของตลาดเงิน และการระดมทุนผ่านช่องทางตลาดทุน ซึ่ง 2 แนวทางนี้มีความแตกต่างกัน และมีข้อดีข้อเสียที่ไม่เหมือนกัน มาดูกันว่าแนวทางใดที่เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจของเราที่สุด
ช่องทางการกู้เงินมีเยอะกว่าแต่ต้นทุนสูง
ปัจจุบันได้มีสถาบันการเงินที่ให้บริการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SME จำนวนมาก ทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ทั้งวิธีการกู้แบบต้องมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน นอกจากนี้ขั้นตอนการพิจารณาเงินกู้ยังใช้เวลาที่รวดเร็วกว่าการระดมทุนซึ่งมีปัจจัยต้องพิจารณาเยอะกว่า ข้อนี้การกู้เงินจะได้เปรียบการระดมทุน
อย่างไรก็ตามการกู้เงินจะทำให้เกิดต้นทุนสำคัญกับผู้ประกอบการนั่นคือ “ดอกเบี้ย” ที่อาจจะสูงถึงระดับเลข 2 หลักซึ่งต่างจากการระดมทุนที่มีเพียงต้นทุนเรื่องของค่าที่ปรึกษาและค่าธรรมเนียมที่ไม่เกิน 2-3 เปอร์เซ็นต์
ระดมทุนแล้วไม่จบยังมีพันธะผูกพัน
การกู้เงินจะทำให้เกิดข้อผูกพันระหว่างสถาบันการเงินและผู้กู้เฉพาะช่วงเวลาที่อยู่ในการชำระเงินกู้เท่านั้น เช่น สินทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันอาจจะต้องอยู่ในการดูแลของธนาคารไปก่อน แต่เมื่อสิ้นสุดการชำระเงินกู้แล้วข้อผูกพันกับสถาบันการเงินก็จะจบไป
แต่การระดมทุนจะทำให้เกิดข้อผูกพันกับผู้ระดมทุนในระยะเวลาที่นานกว่า หากผลของการรระดมทุนยังไม่เกิดผลตอบรับ เช่น ยังไม่สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้หรือผลประกอบการยังขาดทุน และการที่บริษัทฯ ยังไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทำให้การเปลี่ยนมือของผู้ถือหุ้นเกิดขึ้นได้ยาก
ประเด็นนี้ผู้ประกอบการจะต้องชั่งน้ำหนักว่าต้องการจะครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียวหรือกลุ่มเดียวหรือไม่ หากเลือกข้อนี้การหาเงินทุนด้วยการกู้เงินอาจจะเป็นทางเลือก แต่ถ้าเปิดทางให้มีผู้ถือหุ้นอื่นโดยอาจจะเข้ามายุ่งเกี่ยวในการบริหารก็เลือกทางของการระดมทุน
เงินกู้มีความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ย
ใช่ว่าการกู้เงินจะทำให้เรามีต้นทุนคงที่เพราะมีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยอาจจะเพิ่มสูงขึ้นตามแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลาง ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ยกเว้นแต่ทำสัญญาเงินกู้รูปแบบที่คงอัตราดอกเบี้ยคงที่ หรือใช้วิธีของการเช่าซื้อ (Leasing) ซึ่งจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดอายุสัญญา ส่วนการระดมทุนนั้นจะมีต้นทุนคงที่ และเสียเพียงครั้งเดียวในช่วงแรกของการระดมทุนในรูปแบบของค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาทางการเงิน
หุ้นกู้แปลงสภาพจุดตรงการระหว่างการกู้และระดมทุน
ถ้าหากผู้ประกอบการที่เลือกไม่ได้ว่าจะหาแหล่งทุนแบบใด หรือต้องการทั้ง 2 แบบสามารถเลือกแนวทางแบบผสมผสานก็คือ หุ้นกู้แปลงสภาพ ก็ได้ โดยมีหลักการคือผู้ประกอบการเสนอขายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนโดยให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้สามารถแปลงส่วนของหนี้ที่ถืออยู่ให้กลายเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นได้ ตามเงื่อนไขและสัดส่วนตามที่กำหนด
ทั้งนี้ส่วนของผู้ถือหุ้นอาจจะถูกกำหนดให้แยกออกจากส่วนของผู้ถือหุ้นเดิม โดยผู้ถือหน่วยไม่ได้รับสิทธิในการเป็นคณะกรรมการ แต่จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลแทน เป็นทางออกสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนแต่ไม่ต้องการให้มีผู้ถือหุ้นอื่นมาร่วมในการบริหาร
ไม่ว่าจะกู้เงินหรือระดมทุนต่างมีข้อดีข้อเสียและข้อแตกต่างกัน ผู้ประกอบการจึงควรมองหาแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี