ทีเอ็มบีและธนชาต รุกช่วย SME บุคคลธรรมดา เปิดตัว 2 สินเชื่อใหม่ หนุนธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น

 
   

     ทีเอ็มบีและธนชาต สนับสนุนเอสเอ็มอีให้เติบโตอย่างมั่นคง ส่งสินเชื่อเจาะกลุ่มเอสเอ็มอีที่เป็นบุคคลธรรมดา ด้วย “สินเชื่อ SME ไม่มีสะดุด” (SME So Smooth) มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นของหลักฐานแสดงรายได้ ช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ให้เงินทุนเสริมสภาพคล่องในธุรกิจตั้งแต่ 3 แสนถึงสูงสุด 3 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 10 ปี และ “สินเชื่อ SME ก้าวกระโดด” (SME Step Up) รองรับธุรกิจที่ต้องการเงินทุนก้อนใหญ่ขึ้น เพื่อขยายกิจการ ให้วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุดถึง 20 ปี มาพร้อมแพ็กเกจผลิตภัณฑ์เสริมให้ลูกค้าเลือกใช้ได้ตามต้องการ
 
 
     จเร เจียรธนะกานนท์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กและกลาง หรือเอสเอ็มอีที่เป็นบุคคลธรรมดา (ไม่ได้จดทะเบียนนิติบุคคล) มีอยู่จำนวนมากที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทีเอ็มบีและธนชาต จึงได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ สินเชื่อ SME ไม่มีสะดุด และ สินเชื่อ SME ก้าวกระโดด ซึ่งเหมาะสมกับความต้องการในการดำเนินธุรกิจของกิจการเอสเอ็มอีทั้งขนาดเล็กและขนาดกลาง
 
 
      สินเชื่อ SME ไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเงินทุนในการดำเนินกิจการและเงินหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อให้กิจการสามารถขับเคลื่อนได้อย่างราบรื่น มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นของหลักฐานแสดงรายได้ เพียงแค่สามารถพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจมีความน่าเชื่อถือและมีอยู่จริง เช่น รูปถ่ายกิจการ บิลซื้อขาย สัญญาจ้าง สมุดบันทึกรายการซื้อ-ขาย หลักฐานการเดินบัญชีกับธนาคาร เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมามักเป็นข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินทุนของธุรกิจขนาดเล็ก เช่นเดียวกับหลักประกันที่มีทางเลือกค่อนข้างหลากหลาย เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง อาคารชุด ตึกแถว ที่ดินเปล่า ที่ดินเพื่อการเกษตร ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ส่วนวงเงินกู้เริ่มต้นที่ 3 แสนบาทถึง 3 ล้านบาท ให้ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดถึง 10 ปี  โดยเอสเอ็มอีที่สามารถยื่นกู้ “SME ไม่มีสะดุด” นั้น ต้องมีประสบการณ์ในธุรกิจอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป
 
 
     ส่วน สินเชื่อ SME ก้าวกระโดด สามารถตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการเงินทุนมากขึ้น รวมถึงการขยายกิจการที่มีความมั่นคงระดับหนึ่งแล้วให้ไปสู่ขนาดธุรกิจที่ใหญ่ขึ้นและรองรับการเติบโตในระยะยาว  ทำให้ธุรกิจสามารถก้าวไปอีกขั้นได้ไกลกว่า ด้วยวงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 20 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 20 ปี มีหลักฐานแสดงรายได้ เช่น หลักฐานการเดินบัญชีกับธนาคาร  ภพ. 30 หรือ ภงด. 90 เป็นต้น สินเชื่อดังกล่าว สามารถตอบโจทย์เอสเอ็มอี ทั้งการขยายกิจการ เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ หรือเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในการดำเนินกิจการของบริษัท กรณีสร้างหรือซื้อโรงงาน โกดังสินค้า ผ่อนชำระภายใน 12 ปี กรณีซื้อหลักทรัพย์ของบริษัท เช่น ที่ทำการบริษัท สำนักงาน ผ่อนชำระภายใน 20 ปี ส่วนหลักประกันในการยื่นกู้ สามารถใช้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง อาคารชุด ตึกแถว หรือสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน นส. 3 ก. อาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ อาคารสำนักงาน โกดัง โรงงาน หรือสถานประกอบการ เหมาะกับเจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีประสบการณ์ในธุรกิจ 2 ปีขึ้นไป
 
 
     สำหรับสินเชื่อทั้ง 2 แบบดังกล่าวจะมีทั้งประเภทเงินกู้ระยะยาว และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมที่มอบสิทธิพิเศษให้ผู้กู้มีความมั่นคงทางการเงินและความปลอดภัยในทรัพย์สินทางธุรกิจ เช่น ประกันชีวิต และประกันภัยสำหรับธุรกิจครบวงจรตลอดอายุสัญญาเงินกู้
 
 
      “กลุ่มเป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อทั้ง 2 ประเภท เป็นเอสเอ็มอีเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่เป็นบุคคลธรรมดา แต่มีความต้องการเงินกู้ต่างกัน โดยสินเชื่อ SME ไม่มีสะดุด จะเป็นกลุ่มที่เพิ่งทำธุรกิจมาไม่นาน มีประสบการณ์ในธุรกิจ 1 ปีขึ้นไป ซึ่งจะได้รับความสะดวก ไม่วุ่นวายเรื่องเอกสารชี้แจงรายได้ รวมถึงรองรับหลักทรัพย์ค้ำประกันที่หลากหลาย ผู้ประกอบการจึงมีทางเลือกมากขึ้น ขณะที่ สินเชื่อ SME ก้าวกระโดด เหมาะกับกลุ่มเจ้าของกิจการที่มีประสบการณ์มากขึ้นตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป และต้องการเงินทุนเพื่อขยายกิจการ และที่พิเศษสำหรับสินเชื่อทั้ง 2 ประเภท ลูกค้าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษยิ่งขึ้น เมื่อใช้สินเชื่อคู่กับบริการเสริมที่ธนาคารกำหนด โดยได้ออกแบบเป็นแพ็กเกจให้ลูกค้าเลือกใช้ได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้รับบริการทางการเงินที่ครอบคลุม และป้องกันความเสี่ยงอย่างเหมาะสม หนุนเอสเอ็มอีในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง”
 
 
 



 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอส

RECCOMMEND: FINANCE

หมัดเด็ด วิธีเอาชนะเงินเฟ้อ ฉบับคุณปู่ Warren Buffett ที่ใครก็ใช้ได้

หนึ่งในปัญหาของคนทำธุีกิจวันนี้คือ “ภาวะเงินเฟ้อ” เงินเท่าเดิม แต่กลับซื้อสินค้าและวัตถุดิบได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แถมขายของก็ไม่ได้ดีเหมือนเก่า เลยชวนมาดูเคล็ดลับบริหารการเงินและลงทุนในภาวะเงินเฟ้อ จาก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เจ้าพ่อนักลงทุนกัน

รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ช่วยลดภาระหนี้ ธุรกิจไม่สะดุด

ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และวิกฤตที่รุมเร้าเข้ามา อาจทำให้ธุรกิจต้องสะดุด ขาดสภาพคล่องเลยอยากชวนมารีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ อย่างน้อยเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใช้หนี้ออกไป ช่วยลดดอกเบี้ย ไปจนถึงอาจได้เงินอีกสักก้อนมาช่วยหมุนเวียนในธุรกิจ

ขายดีอย่างไรไม่ให้มีความเสี่ยง 5 เคล็ดลับบริหารสภาพคล่องจาก บสย.

อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเอสเอ็มอีต้องสะดุดหยุดชะงักหรือไปต่อได้ไม่สุด คือ เงินทุนที่มีอยู่จำกัดจำเขี่ย ต่อให้ขายดีเพียงใด ถ้าไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็กู้เงินจากธนาคารไม่ได้