- TEXT : รุจรดา วัฒนาโกศัย
Main Idea
- การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจอย่างรุนแรง บริษัท ห้างร้าน พ่อค้า แม่ค้า ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ บางธุรกิจต้องปิดกิจการลงชั่วคราวจนรายได้หดหาย และขาดสภาพคล่อง จนต้องหันหน้าเข้าหาสถาบันการเงิน
- อย่างไรก็ตาม แม้ภาครัฐคลายล็อกดาวน์ให้ธุรกิจกลับมาดำเนินการได้เป็นปกติแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เต็มที่และยังต้องการความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่อง
- “พัชร สมะลาภา” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย แนะนำผู้ประกอบการในมุมของผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินว่าทำอย่างไรจึงจะเป็นลูกหนี้นิสัยดีที่ธนาคารรักและยินดีให้ความช่วยเหลือจนกว่าธุรกิจจะกลับมาแข็งแรง
นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์จนทำให้ธุรกิจต่างๆ ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ จนขาดรายได้มาหล่อเลี้ยงองค์กรและพนักงาน ซึ่งระหว่างทางสถาบันการเงินยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการต่างๆ ทั้งการพักชำระหนี้ หรือกระทั่งการให้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง แต่นั่นยังไม่เพียงพอ เพราะแม้รัฐบาลจะประกาศคลายล็อกดาวน์แต่หลายธุรกิจยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เต็มที่และยังคงต้องการความช่วยเหลือทางการเงินอย่างต่อเนื่องอยู่
- SME ต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่าง
ต่อให้เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพมาตลอดหลายปีก็ยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือธุรกิจได้อย่างทันการณ์ ผ่าน 5 ทางเลือก คือ
- การยืดระยะเวลาผ่อนชำระหนี้
- พักชำระเงินต้น
- ลดดอกเบี้ยเงินกู้
- เพิ่มสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน (อนุมัติสินเชื่อระยะสั้น)
- เปลี่ยนแปลงประเภทหนี้จากสินเชื่อดอกเบี้ยสูงเป็นสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า
ภายใต้ทางเลือกเหล่านั้น ธนาคารและผู้ประกอบการแต่ละรายต้องมาทำความเข้าใจร่วมกันว่าควรจะให้ความช่วยเหลือแต่ละธุรกิจด้วยมาตรการใดและเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งการ “พักชำระเงินต้น” เป็นมาตรการเบื้องต้นที่ธนาคารจะนำเสนอให้กับธุรกิจระหว่างการเจรจารายละเอียดอื่นๆ
ยกตัวอย่าง ธนาคารกสิกรไทยได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ด้วยการพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจและให้เงินทุนเพิ่มเพื่อเสริมสภาพคล่องสำหรับลูกค้าธุรกิจ โดยที่ปัจจุบันธนาคารยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องสำหรับลูกค้าที่ยังเดือดร้อนให้สามารถดำเนินธุรกิจอยู่รอดต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งในภาวะปัจจุบันยังคาดการณ์ได้ยากว่าอีก 6 เดือน ธุรกิจจะฟื้นตัวกลับมาได้หรือไม่
- ลดจำนวนกองหนี้คือหนทางรอด
แม้ว่าธนาคารจะยื่นข้อเสนอ “พักชำระหนี้” โดยยังไม่ต้องจ่ายคืนเงินต้นในระยะเวลาหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องยอมรับคือดอกเบี้ยยังคงวิ่งไปทุกวัน “พัชร สมะลาภา” กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ได้ให้คำแนะนำว่า หากมีเงินอยู่ในมือควรจ่ายหนี้ก่อน และหากมีหนี้อยู่หลายกองควรจ่ายสินเชื่อที่มีดอกสูงอย่าง บัตรเครดิตเป็นอันดับแรกเพราะสินเชื่อบุคคลจะมีดอกเบี้ยสูงที่สุด เพื่อเก็บวงเงินสินเชื่อและสร้างเครดิตเอาไว้ หากภายหลังต้องการเงินจะสามารถนำเครดิตจำนวนนี้มาใช้ได้
- ลูกหนี้นิสัยดี
ในความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันการเงินกับลูกหนี้ ความเชื่อใจซึ่งกันและกันเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกๆ ลูกค้านิสัยดีของธนาคารจึงหมายถึง ลูกค้าที่นำเงินที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารไปใช้ได้ตรงจุดประสงค์ของสินเชื่อ เช่น ใช้สำหรับพยุงธุรกิจหรือเสริมสภาพคล่องของธุรกิจ ไม่ใช่นำไปซื้อของใช้ส่วนตัว
ปัจจุบันการเก็บข้อมูลของธนาคารยังไปไม่ถึงขั้นที่สามารถบอกได้ว่าลูกค้ารายใดนิสัยดีหรือไม่ แต่บอกได้เพียงลูกหนี้ชำระเงินตรงเวลาหรือไม่ ซึ่งมีกรณีที่มีคนชำระไม่ตรงเวลาเพราะธุรกิจกำลังมีปัญหาอยู่จริงจำนวนไม่น้อย แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเป็นลูกหนี้นิสัยไม่ดี หากเดินเข้าหาธนาคารและทำความเข้าใจเพื่อหาทางไปต่อกันได้ในอนาคต
แม้ในช่วงวิกฤตที่ธุรกิจต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่หากผู้ประกอบการยังมีวินัยทางการเงินและมีการชำระหนี้ตรงเวลาก็จะฝ่าวิกฤตไปได้อย่างแน่นอน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี