เมื่อโอกาสการเข้าถึงช่องทางการขายของผู้ประกอบการตัวเล็กอย่าง SME นั้นมีอยู่อย่างจำกัด กระทรวงพาณิชย์ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR และ SME Development Bank จึงจับมือร่วมกันเปิด “โครงการการปรับเปลี่ยนเพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนในสถานีบริการ PTT Station” หรือ โครงการ “ไทยเด็ด” ณ สถานีบริการน้ำมัน PTT Station สาขาสยามด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสร้างโอกาส เพิ่มรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับวิสาหกิจชุมชนของประเทศไทย
วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวความคิดของโครงการ “ไทยเด็ด” เกิดจากการที่รัฐบาลต้องการช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น เกษตรกร ที่ผลิตสินค้าหรือทำการเกษตรแต่ไม่มีที่จำหน่ายหรือหาช่องทางจำหน่ายไม่ได้ เพื่อยกระดับและเพิ่มรายได้ให้กับคนกลุ่มนี้ รวมทั้งเป็นการตอบโจทย์นโยบายอย่างการท่องเที่ยวเมืองรองซึ่งสถานีบริการน้ำมัน PTT Station นับเป็นจุดสำหรับการพักผ่อนระหว่างการเดินทางจากจังหวัดหนึ่งไปยังจังหวัดหนึ่ง
“โดยมีโครงการนำร่องที่สถานีด่านขุนทด เป็นต้นแบบในทุกๆ ภูมิภาคเพื่อขยายช่องทางการตลาดให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยและกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมไปถึงเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกอีกด้วย”
นอกจากนี้ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มองด้วยว่าเพื่อความสะดวกของลูกค้า ควรมีการทำแอปพลิเคชันไทยเด็ดใช้งานได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งรวบรวมของดีของเด็ดและข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของทุกจังหวัดขึ้นมา
“เราควรทำแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อรองรับคนที่มาเที่ยวและซื้อของกลับไป แล้วเกิดติดใจแต่ไม่รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน ให้สามารถค้นหาข้อมูลและสั่งซื้อได้ผ่านทางมือถือ ซึ่งจะเป็นการยกระดับช่องทางการขายให้กับชาวบ้านอีกทางหนึ่ง โดยเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตชุมชนให้ดีขึ้นและทำให้ประเทศไทยพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้”
ด้าน จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR กล่าวเสริมว่า โครงการนี้ถือเป็นการขยายโอกาสให้ชุมชนได้มีโอกาสในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพและสร้างงาน ซึ่งจะทำให้เกิดการผูกพันและสามัคคีกันมากขึ้นระหว่างภาครัฐ เอกชนและชุมชน
“อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศเรานั้นเป็นสังคมเกษตรกรรม โดย 70 เปอร์เซ็นต์ของบ้านเรานั้นมีอาชีพเป็นเกษตรกร ดังนั้น ทาง PTTOR จึงให้การสนับสนุนคนกลุ่มนี้มาอย่างต่อเนื่องและเป็นอีกช่องทางที่เกษตรกรสามารถนำสินค้ามาวางจำหน่ายให้กับผู้บริโภคได้โดยตรงในสถานีบริการ PTT Station โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และในโครงการ “ไทยเด็ด” ในครั้งนี้ มีผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน PTT Station เข้าร่วม 14 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจนเป็น 100 แห่งในปีหน้า”
ขณะที่ มงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME Development Bank เพิ่มเติมอีกว่า แม้ว่าความรู้คู่ทุนนั้นจะสามารถเป็นภูมิคุ้มกันหรือไม้ค้ำยันให้กับผู้ประกอบการได้ แต่การจะเติบโตให้ได้นั้นต้องมีเครือข่ายการตลาดที่แข็งแรงด้วย
“การเริ่มต้นที่สถานบริการน้ำมัน PTT Station สาขาสยาม ด่านขุนทด ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดใหญ่และเป็นเครือข่ายที่แข็งแรงของภาคอีสาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางตลาดแก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยถูกพิเศษ สามารถยื่นกู้ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลาด้วยแอปพลิเคชัน SME D Bank เพื่อช่วยให้ SME มีเงินทุนใช้พัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด และเหมาะที่จะวางขายในมุม “ไทยเด็ด” รวมถึง สนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ให้นำไปใช้ปรับปรุงสถานที่ รองรับการเป็นศูนย์กลางบริการครบวงจรเพื่อชุมชน”
ส่วน ธารินี สุทธิปริญญานนท์ อุปนายกสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย กล่าวต่อว่า นับเป็นโอกาสของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีโครงการนี้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยสร้างโอกาส สร้างอาชีพให้แก่ชุมชนและสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม อีกทั้งยังเป็นการช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเกิดการตื่นตัวและเห็นถึงความสำคัญของการช่วยเหลือสังคมที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานีน้ำมันของตัวเองให้มีความแข็งแรง
“ความร่วมมือที่จะผลักดันและสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในครั้งนี้ จะช่วยตอกย้ำให้ภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันเป็นพื้นที่ในการสร้างโอกาสที่เกิดจากการ ร่วมมือกันระหว่าง PTT Station และชุมชน และเป็นการสนับสนุนสังคมชุมชนให้มีรายได้ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการช่วยพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้มีมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีสม่ำเสมอเทียบเคียงกันทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการตลาดของชุมชนให้สูงยิ่งขึ้น”
และ ปิยะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการนี้ไม่ใช่แค่เป็นอีกแรงของการสนับสนุนผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชนหรือช่วยให้ธุรกิจสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้เท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องของการจ้างงาน การซื้อวัตถุดิบและการต่อยอดผลิตภัณฑ์ในชุมชน ซึ่งหากมีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ มาตรฐานสินค้ารวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายก็จะเป็นการสร้างโอกาสให้สินค้าเหล่านั้นได้มีโอกาสรับความนิยมจากผู้บริโภคในเวลาอันรวดเร็ว
“การผลักดันจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในครั้งนี้ได้มุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแรง เสริมสร้างศักยภาพทางการค้าและการขายทั้งภายในและต่างประเทศ ในส่วนของสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ในปัจจุบันถือว่ามีความสำคัญสำหรับชุมชน เนื่องจากไม่ได้เป็นเพียงจุดบริการน้ำมันเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานีที่ให้บริการความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ตู้ ATM ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกและของฝากต่างๆที่ทำให้เป็นจุดสำคัญของชุมชน โดยชาวต่างถิ่นได้มาแวะพักในระหว่างเดินทาง ดังนั้นการเปิดโอกาสให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนในพื้นที่เข้ามาจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการผลักดันให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนได้มีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเพื่อสร้างรายได้ให้ตนเอง ครอบครัวและชุมชน”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี