แฟชั่น นับเป็นธุรกิจระดับโลก โดยมูลค่าของธุรกิจด้านนี้มีสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และดูเหมือนว่า จะอยู่ในทิศทางการเติบโตเป็นทวีคูณในยุคดิจิตอล ดังนั้น หากคุณเป็นผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นที่พร้อมจะเดินหน้าไปอีกขั้นในการจัดหาวัตถุดิบ หรือขายสินค้าในต่างประเทศ นี่คือเคล็ดลับจาก “เฟดเอ็กซ์” ที่จะช่วยทำให้สินค้าแฟชั่นผ่านด่านศุลกากรได้อย่างสะดวก เพราะการทำความเข้าใจกฎระเบียบทางศุลกากรก่อนที่คุณจะกระโจนเข้าสู่การจัดหาวัตถุดิบจากทั่วโลกนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไม่ยุ่งยาก
1. ตรวจสอบโควตาสิ่งทอและข้อกำหนดการออกใบอนุญาต
อุตสาหกรรมสิ่งทอ นับเป็นหัวข้อเรื่องในการเจรจาบนเวทีการค้าโลกมาเป็นเวลานาน ในปี 2503 มีระบบโควตาที่ซับซ้อนทั่วโลก แต่ก็ถูกยกเลิกนับตั้งแต่นั้นมา แต่บางประเทศก็ยังคงรักษาโควตา (Select Quotas) เช่น คอสตาริกา ซึ่งยังควบคุมการค้าผ้าขนสัตว์บางชนิด ตลาดในเม็กซิโกต้องการผู้นำเข้าสิ่งทอหรือวัตถุดิบจะต้องมีใบอนุญาตหรือวีซ่า
2. ตรวจสอบรายชื่อสารเคมีต้องห้ามหรือจำกัดการนำเข้า
สิ่งทอและวัตถุดิบหลายชนิดที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสินค้าแฟชั่นประกอบด้วย พลาสติก หรือสารเคมีซึ่งถูกห้าม หรือจำกัด เช่น ห้ามค้าสิ่งทอที่มีฟอร์มาลดีไฮด์ในยุโรป หารายชื่อสารเคมีต้องห้ามได้จากหน่วยงานท้องถิ่น และตรวจสอบกับผู้จำหน่ายสิ่งทอและวัตถุดิบที่ผ่านการทดสอบก่อนที่จะซื้อ
3. แน่ใจว่าการประเมินมูลค่ามีความถูกต้องและสินค้ามีฉลากระบุรายละเอียดไว้ชัดเจน
ในการนำเข้าหรือส่งออกสินค้า คุณต้องแน่ใจว่ามีการประเมินมูลค่าที่ถูกต้องเพื่อการคำนวณภาษี พร้อมกับคำอธิบายรายละเอียดสิ่งของที่จัดส่ง ตัวอย่างเช่น แทนที่จะระบุเพียง “ชุดผ้าไหม” คำอธิบายควรเขียนว่า “ชุดผ้าไหมสีฟ้าที่มีการปักลาย” รายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรคำนวณภาษีและอากรที่จะต้องจ่ายในการจัดส่ง
4. ตรวจสอบว่าสินค้าเป็นของแท้และรายงานสินค้าปลอมใดๆ
จากการประมาณการพบว่า ปัจจุบันมีการขายสินค้าปลอมมากถึงร้อยละ 10 ของการค้าขายสินค้าแฟชั่น โดยสินค้าปลอมในปัจจุบันตรวจสอบได้ยากมากขึ้น ทั้งนี้ คุณอาจไม่ได้ตั้งใจเมื่อพบว่าตนเองจัดหา หรือเป็นผู้นำเข้าสินค้าปลอม
5.ทำความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในอนุสัญญาและกฎระเบียบท้องถิ่นที่ห้าม หรือจำกัดการค้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์บางชนิด
อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (CITES) เป็นข้อตกลงระหว่างประเทศของรัฐบาลในการห้ามการค้าสัตว์ป่า นอกจากนี้ หลายประเทศมีกฎหมายที่ควบคุมการเพิ่มเติมการค้าผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่แตกต่างกันในตลาด ยกตัวอย่างเช่น การนำเข้าขนสุนัขหรือขนแมวบ้านไปยุโรป ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ก็ได้รับอนุญาตในบางประเทศในเอเชีย
6.ขอใบรับรองเมื่อมีความจำเป็น
ในบางกรณี จะต้องมีใบรับรองเพิ่มเติมเพื่อนำเข้าสินค้า
www.smethailandclub.com
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)