Text: Neung Cch.
PHOTO : วรดา สอนซ้าย
ใครจะคิดว่าสาวน้อยที่มีความฝันอยากเป็นเกษตรกรจะสามารถย่นระยะเวลาความสำเร็จได้ถึง 20 ปี
นี่คือเรื่องราวของ วรดา สอนซ้าย หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่สามารถปลดหนี้ให้พ่อแม่ จากการโพสต์คลิปตอนกิ่งฝรั่งลง TikTok จนกลายเป็นไวรัล ทำให้เธอมองเห็นลู่ทางและเปลี่ยนความคิดจากอาชีพทำนาสู่บ้านสวนวรดา เกษตรแนวอินทรีย์จนได้รับรางวัล young smart farmer 2024 ของจังหวัดมหาสารคาม กับบทพิสูจน์ว่าอาชีพเกษตรก็สามารถเลี้ยงครอบครัวได้และอาชีพนี้จะยิ่งมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในอนาคต
ถ้าไม่ลงมือทำก็ไม่มีวันสำเร็จ
ความไม่พร้อมของต้นทุนชีวิตบางทีก็อาจเป็นข้อดีที่เป็นแรงผลักเพิ่มพลังให้กับหลายๆ คนที่ไม่ท้อต่อโชคชะตา เหมือนวรดา ในช่วงวัย 19 ที่มีเงินติดตัวเพียง 300 บาทกับการต้องใช้ชีวิตฝึกงานที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม ทำให้สาวน้อยคนนี้ ตั้งใจที่จะสร้างอนาคตที่ดีกว่าคิดหาวิธีหารายได้เสริมโดยไม่ต้องรบกวนทางบ้าน
นั่นทำให้เธอเริ่มเปิดหูเปิดตา กอปรกับการได้สัมผัสกับโลกของการเกษตรที่กว้างใหญ่กว่าที่เคยรู้จัก ทำให้เปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับอาชีพเกษตรกรที่ต่างไปจากการทำนาที่เธอคุ้นเคยมาตลอดชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การขยายพันธุ์พืช การปลูกผลไม้แปลกใหม่ พันธุ์ฝรั่งหงเป่าสือจากไต้หวัน ที่เธอได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติของฝรั่ง และรู้สึกประทับใจในรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ จึงเกิดไอเดียที่จะนำไปต่อยอด จึงขอนุญาตผู้จัดการสวนและเจ้าของคลิปถ่ายทำคลิปวิดีโอภายในสวน และนำไปเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย คลิปหนึ่งใน TikTok ได้รับความสนใจจากผู้ชมเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นไวรัล และมีลูกค้าจำนวนมากติดต่อเข้ามาสั่งซื้อกิ่งพันธุ์และผลไม้
“คลิปที่ทำตอนนั้นเป็นวิธีตอนกิ่งฝรั่งแล้วเราก็อธิบายวิธีทำ บอกว่าฝรั่งเป่าหงสือรสชาติดี มาจากไต้หวันรสชาติไม่เหมือนบ้านเราเลย ในช่วง 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นหากินยาก เราบอกว่ามันจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของไทย คืนนั้นเป็นคืนแรกจากที่มีเงิน 300 บาทก็มีเงินเข้าบัญชีเป็นแสน”
ไม่ปล่อยโอกาสให้สูญเปล่า
ความสำเร็จในครั้งนั้น เปรียบเสมือนจุดประกายให้วรดาก้าวเข้าสู่เส้นทางของเกษตรกรยุคใหม่ พร้อมกับปรึกษาพ่อกับแม่ขอเปลี่ยนจากการทำนา ซึ่งมีปัญหาน้ำท่วมและแล้งสลับกันไป ทำให้การทำนาไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ และเป็นภาระหนี้สินของครอบครัวมาโดยตลอด ให้มาปลูกฝรั่งแทน
ด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิจึงทำให้พ่อแม่ไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและผลงานที่ผ่านมาจึงทำให้พ่อกับแม่เชื่อใจ
“มีคนเอาคลิปหนูให้พ่อกับแม่ดู บอกว่าลูกสาวเจ้าเป็นคนดัง แม่ก็เลยพอมีความมั่นใจมาสัก 50% ก็เลยอนุญาตให้ทำ เราก็เลยเอาพันธุ์ฝรั่งพร้อมกับสอนพ่อกับแม่ช่วยดูแลระหว่างที่เราฝึกงาน”
ผ่านไปประมาณ 10 เดือนวรดา ก็เสร็จจากการฝึกงานพร้อมกับฝรั่งเริ่มออกดอก และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของบ้านสวนวรดา
ชีวิตเกษตรไม่ได้สวยหรู
เมื่อลงมือทำสวนอย่างจริงจริงวรดา ยอมรับว่ามีอุปสรรคบ้าง ด้วยความที่เป็นมือใหม่ บวกกับคามร้อนวิชาทำให้เกิดปัญหาหลายๆ อย่างตามมา อาทิ เอาดินที่ก้นสระซึ่งเป็นดินที่ไม่มีแร่ธาตุ พอเอาต้นไม้ไปลงปลูกทำให้ต้นไม้แคระแกน สารอาหารไม่เพียงพอ ดินแน่น รากเดินไม่ได้ทำให้ต้นไม้ตาย หรือปัญหาการส่งต้นไม้ให้ลูกค้าที่เกิดการเสียหาย
“ต้องเรียนรู้ปรับตัวไปอย่างเรื่องดินทำให้หนูคิดหาวิธี อย่างดินไม่มีแร่ธาตุก็เติมให้มันเลยสิ ก็ไปศึกษาการทำปุ๋ย โบกาฉิ ปุ๋ยปรับดินของญี่ปุ่น เป็นปุ๋ยอินทรีย์ หมักขี้วัว มาใส่เพื่อล่อไส้เดือนปรับปรุงดินให้ เราจะได้ขี้เดือนปรับดินให้เราด้วย ปัญหาเรื่องการขนส่งต้นไม้ให้ลูกค้า ปรับวิธีแพ็กไม่ให้ต้นไม้เสียหาย”
นอกจากนี้บ้านสวนวรดา ยังเน้นการทำเกษตรแบบ BCG
ก้าวสู่ young smart farmer
จากประสบการณ์ที่เห็นการทำนาของพ่อแม่ที่ไม่ได้ทำกำไร เธอจึงปรับเปลี่ยนวิธีการทำเกษตรแล้วยังปรับเปลี่ยนวิธีการทำตลาด นอกจากเน้นผลิตคลิปวิดีโอที่น่าสนใจ บอกเล่าเรื่องราวของสวนฝรั่ง การดูแลต้นไม้ และแบ่งปันความรู้ต่างๆ ให้กับผู้ติดตาม ทำให้เธอได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าแล้ว ที่บ้านสวนวรดายังเป็นการทำสวนตามแนวคิด BCG
“เด็กๆ เราเห็นพ่อต้องรับจ้างฉีดยาฆ่าแมลง ก็รู้สึกห่วงใยต่อสุขภาพของพ่อ ทำให้ดิฉันตัดสินใจที่จะหันมาทำเกษตรอินทรีย์ เอาผลไม้เน่ามาหมักเป็นปุ๋ยใช้ในสวน พวกเศษหญ้าหมักทำปุ๋ย น้ำที่ใช้เอาไก่พันธ์ไข่เลี้ยง ปล่อยมูลลงสระให้ปลากินพอถ่ายน้ำนั้นก็มีจุลินทรีย์ ดูดน้ำในสระมารดน้ำต้นไม้ในสวน ใช้ระบบมินิสปริงเกอร์ ไฟใช้โซลล่าเซลล์ แม้การทำเกษตรไร้สารเคมีจะเหนื่อยและต้องขยันแต่ในระยะยาวก็ส่งผลดีมากกว่าทั้งกับดินและผลผลิตต่างๆ ที่ให้ความหวานเป็นธรรมชาติ”
ทำเกษตรแล้วไม่รวย?
แม้จะเห็นอาชีพเกษตรกรที่ไม่ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่เด็ก แต่วรดากลับไม่ได้มีภาพจำอย่างนั้นเพราะเธอมองว่าทกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีการ ถ้าเทียบกับสถานการณ์โลกตอนนี้ ที่มีทั้งสงคราม ปัญหาการขาดแคลนแหล่งอาหาร ต่อไปภาคเกษตรมีความต้องการมากที่สุด
“ถ้าเรารู้แล้วว่าทำนามีแต่เป็นหนี้กับเป็นหนี้ ทำไมไม่ปรับเปลี่ยนวิธีการ บางคนทำนาก็รวยได้ เพราะเขาปรับเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีการทำ ซึ่งในส่วนของหนูเองหนูปรับใหม่หมดเลย มันขึ้นอยู่กับปรับวิธีคิด วิธีทำแค่นั้นเลย” นี่คือคำทิ้งท้ายของ young smart farmer 2024 ของจังหวัดมหาสารคามที่เธอเคยคิดว่าจะสามารถยึดอาชีพเกษตรได้ตอนวัย 40 แต่วันนี้ฝันของเธอได้กลายเป็นจริงแล้วเหลือแค่รักษาให้ฝันนี้อยู่กับเธอได้ตลอดไป
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี