เราเชื่อว่าสาวกชานมไข่มุกทั้งหลายคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชานมไข่มุกจิ๋วที่ขายแก้วละ 2 บาท เพราะว่าเป็นที่พูดถึงกันมากบนโลกโซเชียล ทำให้เหล่ายูทูปเบอร์หลายๆ คนตามไปรีวิว ยิ่งทำให้ BLK.BOBA แบรนด์ชานมไข่มุกจากชลบุรีเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูว่าวิธีการสร้างแบรนด์ชามนมไข่มุก BLK.BOBA ที่ไม่ใช่แค่กระแสไวรัลเท่านั้น แต่ยังมีแฟรนไชส์มากถึง 80 สาขาภายใน 4 ปี
ก่อนที่จะไปดูว่าร้าน BLK.BOBA มีวิธียังไงที่ทำให้ธุรกิจอยู่ได้นานและยั่งยืน เราจะพาไปทำความรู้จักกับเจ้าของร้าน BLK.BOBA กันก่อนว่าเขาเป็นใคร
บอล ธชายุธ ปั้นทอง อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน BLK.BOBA เรียนจบปริญญาโทเกี่ยวกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดร้านอาหารญี่ปุ่นควบคู่ไปกับการเปิดร้านชานมไข่มุก แต่ด้วยที่ธุรกิจชานไข่มุกเติบโตได้ดีและเร็วกว่าร้านอาหารญี่ปุ่น จึงตัดสินใจหยุดธุรกิจนั้นไปเพื่อมาโฟกัสกับ BLK.BOBA ให้มากขึ้น ปัจจุบันนี้ธุรกิจได้ดำเนินมา 4 ปีแล้ว มีผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วถึง 80 สาขา
8 วิธีทำแบรนด์ชานมไข่มุกให้ดังและปัง
1. แก้ไข Pain Point ให้กับลูกค้า
ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อนผู้คนก็ต้องการทานของเย็นๆ หวานๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย แต่ปัญหาของการทานน้ำชงหรือชานมไข่มุกเข้าไปเยอะๆ ก็จะเริ่มควบคุมน้ำหนักไม่ได้ สาเหตุเกิดจากสารที่อยู่ในตัวของเครื่องดื่ม เช่น ครีมเทียม นมข้นหวาน นมข้นจืด มีแคลอรี่ที่ค่อนข้างสูง
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทาง BLK.BOBA พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กับคนเหล่านี้ และตอบรับกับเทรนด์ดูแลสุขภาพกำลังมาแรง
2. มีจุดยืนที่แข็งแรง
จากจุดยืนของร้านต้องการทำชานมไข่มุกที่ไม่ทำลายสุขภาพ บางครั้งอาจจะทำให้ได้รับการวิจารณ์เรื่องรสชาติบ้างว่าอาจไม่เหมือนชานมปกติ ในเรื่องนี้บอล ธชายุธ มองว่าถ้าร้านมีจุดยืนที่เข้มแข็งมากพอธุรกิจจะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป็นแฟนคลับของเรา
“เราคงไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกคน ทำตามทุกอย่างได้ แต่เราสามารถเลือกแนวทางของเราเพื่อพัฒนาให้ดีและเหมาะกับกลุ่มลูกค้าของเรามากขึ้น”
3. รสชาติมีมาตรฐาน
โดยปกติร้านชานมไข่มุกในท้องตลาดทั่วไปมักไม่มีความแน่นอนหรือรสชาติที่สม่ำเสมอ เช่น ถ้าต้องการรสชาติหวานน้อย คุณก็จะไม่รู้ว่าหวานน้อยของแต่ละร้านคือหวานแค่ไหน ซึ่งที่ร้าน BLK.BOBA มีความหวานที่แบ่งเป็นระดับให้ลูกค้าได้เลือกได้ว่าต้องการหวานมากน้อยแค่ไหนหรือต้องการหวาน 0 เปอร์เซ็นต์
4. บริการต้องเลิศพนักงานต้องเยี่ยม
- นอกจากเรื่องรสชาติแล้ว การบริการก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ายอมจ่าย ดังนั้นบริษัทจึงเทรนด์พนักงานทุกคนให้มีใจรักในงานบริการ
- พนักงานต้องเข้าใจสินค้าสามารถอธิบายได้ว่าไข่มุกแต่ละตัวหรือชาแต่ละตัวมีคุณสมบัติจุดเด่นอย่างไร
- ภาชนะหรือเครื่องจักรต่างๆ ต้องสะอาด
5. มีมาตรฐานอย่างชัดเจน
นอกจากนี้ทางร้านจะทำไข่มุกวันต่อวัน ที่พิเศษกว่านั้นคือได้ว่าจ้างบริษัทแป้งขนาดใหญ่ให้ผลิตแป้งทำชานมไข่มุกเป็นสูตรเฉพาะของร้าน BLK.BOBA ร้านเดียว และจะไม่ใส่สารกันบูดหรือสารเสริมที่ส่งผลต่อสุขภาพ ไม่ใส่น้ำตาล มีให้เลือกหลายหลายรสชาติ เช่น ไข่มุกรสมันม่วง คาราเมล ชาเขียว เป็นต้น
“เราจะมีสูตรที่ตายตัว แม้ว่าเปลี่ยนคนชงรสชาติก็ยังคงเดิม แล้วร้านจะชงแบบแก้วต่อแก้ว เพราะฉะนั้นในการทำแต่ละแก้วต้องใช้เวลา ร้านส่วนใหญ่เขาจะหลีกเหลี่ยงความยุ่งยากในการทำโดยการชงไว้ก่อน เพราะไม่งั้นมันจะควบคุมเวลาได้ค่อนข้างยาก มีความยุ่งยากในการเตรียมวัตถุดิบ ต้องใช้คนที่มีความเชี่ยวชาญค่อนข้างสูง”
6. ไม่เข้าไปแข่งขันกับตลาดส่วนใหญ่
ตลาดของ BLK.BOBA ค่อนข้างจะเป็น Niche Market ก็คือเป็นผู้บริโภคที่ดูแลสุขภาพ ซึ่งมีแค่ 20% ของตลาดทั้งหมด อีก 80% เป็นร้านที่อยู่ตามตลาดทั่วไป
7. ไม่หยุดนิ่งพัฒนาแบรนด์ตลอด
ตลอดเวลาที่ทำแบรนด์มาทางร้านอัปเดตเรื่องวัตถุดิบอยู่เสมอ พยายามหาวัตถุดิบที่ดี และออกสินค้าใหม่ทุกเดือน มีเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ หรือไข่มุกตามกระแส เพื่ออัปเดตให้ลูกค้าว่าร้านมีสินค้าที่ไม่จำเจ ในส่วนของแฟรนไชส์ก็มีสินค้าใหม่ๆ เพิ่มให้ของลูกค้าตลอด
8. ทำการตลาดออนไลน์
แม้ร้านจะเป็นที่รู้จักในชลบุรีแต่ถ้าแบรนด์ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกออนไลน์ ลูกค้าอาจจะลืมหรืออาจจะหายไปหาแบรนด์อื่นๆ เพราะปัจจุบันลูกค้ามีทางเลือกใหม่มากมาย BLK.BOBA จึงคิดแคมเปญชานมไข่มุกจิ๋วขึ้นมา สาเหตุเกิดจากที่ลูกค้ามาทานชานมไข่มุกแล้วทานไม่หมด และด้วยลูกค้าประจำที่ร้านส่วนใหญ่เป็นคนที่รักสุขภาพและชอบออกกำลังกายก็เลยคิดแคมเปญนี้ออกมาให้ลูกค้าได้ร่วมสนุกกัน เขาก็เลยลองทำชานมไข่มุกแก้วเล็กๆ ให้ลูกค้าได้ทานแก้อยากดู เพราะว่าลูกค้าบางคนเขาต้องการควบคุมอาหารหรือแคลอรี่
และนี่คือวิธีทำให้ธุรกิจอยู่ได้นานและยั่งยืนของร้าน BLK.BOBA
TEXT : Momo
PHOTO : BLK.BOBA
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี