โอกาสของผู้ส่งออกไทย EU ปรับลด VAT ขั้นต่ำจาก 15% เหลือ 5% เพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อม

 

 

     สิ่งแวดล้อมยังเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปได้เดินหน้าในการในเรื่องการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) อย่างต่อเนื่อง ตามแผน European Green Deal นอกเหนือจากมาตรการจัดเก็บภาษีคาร์บอนสำหรับสินค้าข้ามแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) สำหรับกลุ่มสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2566

     ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 64 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ได้ตกลงร่วมกันในการปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับสินค้าและบริการในสหภาพยุโรปที่จะช่วยในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate change เพื่อส่งเสริมและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคของพลเมืองในประเทศ ซึ่งนอกจากจะปรับลด VAT สำหรับสินค้าที่ส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังได้มีการปรับลด VAT สำหรับสินค้าและบริการที่ส่งเสริมการรักษาสุขภาพและสินค้าและบริการที่เปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลด้วย โดยคาดว่าอัตราภาษีใหม่ จะเริ่มใช้ได้หลังจากที่สภายุโรปพิจารณาให้ความเห็นชอบในช่วงมีนาคมของปีหน้านี้

     ทั้งนี้ อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มขั้นต่ำในสหภาพยุโรปนั้น ปัจจุบันอยู่ที่ 15% และจะมีการยกเว้นให้กับสินค้าและบริการที่ต้องการส่งเสริม โดยจะปรับลด VAT ขั้นต่ำลงมาอยู่ที่ 5% ซึ่งประเทศสมาชิกสามารถลดอัตราภาษีมากกว่าที่ตกลงได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้หมวดสินค้าและบริการที่กำหนด และไม่กระทบการดำเนินการของแผน European Green Deal

สินค้าและบริการด้านสิ่งแวดล้อมที่จะได้รับการปรับลดอัตราภาษี

     จักรยาน/จักรยานไฟฟ้าและบริการที่เกี่ยวข้อง ระบบทำความร้อน/ความเย็น/พลังงานไฟฟ้าและก๊าซชีวมวลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์สำหรับใช้ในบ้านและอาคาร

     ขณะเดียวกัน ยังมีการทำข้อตกลงเพื่อการยกเลิกการจัดเก็บ VAT ในอัตราที่ต่ำสำหรับสินค้าปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลง ซึ่งจะเริ่มในปี 2032 เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยมีเวลาในการปรับตัว

     สำหรับสินค้าด้านสุขอนามัย ที่จะได้รับการปรับลด VAT ได้แก่ เวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัย และสินค้าที่จำเป็นสำหรับผู้พิการ เป็นต้น ขณะที่สินค้าและบริการด้านการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่จะได้รับการปรับลด VAT ได้แก่ การให้บริการอินเตอร์เน็ต รวมถึงบริการสื่อถ่ายทอดสด (live streaming) สำหรับการจัดงานกีฬาและวัฒนธรรม เป็นต้น

ผลดีต่อผู้ส่งออกไทย

     จากการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า นโยบายดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมและกระตุ้นความต้องการใช้สินค้าพลังงานทดแทนและสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในสหภาพยุโรปเพิ่มมากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อผู้ส่งออกไทย โดยเฉพาะผู้ส่งออกรถจักรยานและส่วนประกอบรถจักรยาน แม้ว่าตลาดรถจักรยานส่งออกไปต่างประเทศจะไม่ใหญ่มาก แต่ตลาดสหภาพยุโรปถือเป็นตลาดหลักในการส่งออกรถจักรยานและส่วนประกอบของไทย โดยมีสัดส่วนมูลค่าการส่งออกถึงร้อยละ 49.7 ของมูลค่าการส่งออกรถจักรยานและส่วนประกอบรวมของไทย ซึ่งในช่วง ม.ค. – ต.ค. 64 มีมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรปกว่า 1,600 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าการส่งออกในปี 2563 ตลอดทั้งปี ถึงร้อยละ 59 ประกอบกับหลายๆ ประเทศในสหภาพยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ ได้มีนโยบายปรับเปลี่ยนเมืองที่เป็นมิตรต่อการปั่นจักรยานเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นคาดว่านโยบายในการลด VAT ที่จะเริ่มขึ้นในปีหน้านี้ จะช่วยกระตุ้นการส่งออกจักรยานและส่วนประกอบให้เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในปี 2565

     นอกจากนี้ สินค้าส่งออกของไทยที่คาดว่าจะมีการปรับตัวดีขึ้นเพิ่มเติม ได้แก่ การส่งออกสินค้าอุปกรณ์ทำความเย็นที่มีเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ซึ่งปัจจุบันไทยมีมูลค่าการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป เป็นสัดส่วนร้อยละ 21.5 ของมูลค่าการส่งออกเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบรวมของไทย โดยในช่วง ม.ค. – ต.ค. 64 มีมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรปแล้วกว่า 35,879 ล้านบาท ดังนั้น คาดว่า ความต้องการในสินค้าเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากนโยบายดังกล่าว ขณะที่สินค้าในหมวดเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ จะยังคงมีความต้องการสูงอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดส่งออกเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีมูลค่าคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.3 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทย ซึ่งในช่วงสิบเดือนแรกของปี 64 นี้ ไทยได้ส่งออกเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไปสหภาพยุโรปแล้วเป็นมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 4,483 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะทำให้ยอดส่งออกในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากมาตรการลด VAT และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในสหภาพยุโรปช่วงปลายปี 2564 นี้

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ขายแค่มาม่า ก็ยืนหนึ่ง! มาม่าฟ้าธานี ธุรกิจเล็กที่สร้างตำนานได้

แม้ว่าจะขายเพียง "มาม่า" ซึ่งเป็นสินค้าธรรมดาเพียงอย่างเดียว แต่ "มาม่าฟ้าธานี" กลับได้รับที่นิยม และประสบความสำเร็จอย่างมาก ความสำเร็จนี้สามารถวิเคราะห์ได้จากหลายปัจจัยที่น่าสนใจ

แผ่นดินไหววงการอาหารไทย 2025 SME รับมือยังไง? แบรนด์ใหญ่บุกตลาดแมส

จากกลยุทธ์สงครามราคาของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ที่แข่งขันชิงส่วนแบ่งตลาดแมส ในยุคเศรษฐกิจไม่แน่นอนเช่นนี้ ผู้ประกอบการรายย่อย จะเรียนรู้และรับมืออย่างไร?