PHOTO : SME Thailand
Main Idea
เรื่องมหัศจรรย์ของน้ำแข็งละลายช้า
- ลงทุนเดินทางไกลข้ามน้ำข้ามทะเลจากญี่ปุ่น เพื่อมาทำตลาดในไทย
- ยอมขายขาดทุนต่ำกว่าราคาจริง เพื่อให้ผู้บริโภคกล้าทดลองใช้
- นำนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อสร้างความแตกต่าง
- รักษาคุณภาพมาตรฐานของแบรนด์ แม้ผู้บริโภคจะบอกว่าแพง แต่วันหนึ่งพิสูจน์แล้วด้วยคุณภาพ
อากาศหนาวเริ่มมาเยือนแล้ว วันนี้เลยอยากลองหาเรื่องเล่าอะไรเย็นๆ มาฝากกัน ซึ่งถ้าพูดถึงสินค้าที่มีความเย็นที่สุดคงหนีไม่พ้น “น้ำแข็ง” แน่นอน โดยนอกจากประวัติความเป็นมาของน้ำแข็งโลกที่ว่ากันว่ามีใช้มานานนับพันปีจากชาวจีนแผ่นดินใหญ่ จนนำเข้ามาในไทยเมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 เรายังพบเรื่องราวที่น่าสนใจของน้ำแข็งอีกยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งหากเอ่ยชื่อมาย่อมต้องร้องอ๋อเป็นแน่ โดยน้ำแข็งที่เรากำลังพูดถึง ก็คือ “Rock Ice” ต้นตำรับน้ำแข็งละลายช้าที่เข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนนั่นเอง
เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลจากญี่ปุ่น
Rock Ice เข้ามาทำตลาดในไทยเมื่อเกือบยี่สิบปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นขึ้นจากการนำเข้าน้ำแข็งใส่เรือบรรจุอยู่ในห้องเย็นเดินทางมาจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ในช่วงแรกนั้นเป็นการจำหน่ายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตและใช้กันในร้านอาหารญี่ปุ่นไม่กี่แห่งเท่านั้น โดยจะซื้อขายกันเป็นกิโล ไม่ได้บรรจุใส่ถุงสำเร็จรูปเหมือนเช่นปัจจุบัน ราคาเฉลี่ยประมาณกิโลกรัมละ 45 บาท ซึ่งว่ากันว่ายอมขายขาดทุนลดราคาลงจากปกติที่ขายในประเทศญี่ปุ่นกิโลกรัมละ 85 บาท เพื่อให้คนไทยได้รู้จักมากขึ้น
กระทั่งในปี 2548 จึงได้มีการเปิดโรงงานผลิตขึ้นในเมืองไทยที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้ชื่อบริษัท โคคุโบะ ร็อกไอซ์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยผลิตออกมาจำหน่ายเป็นน้ำแข็งถุงสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ “ร็อกไอซ์” ในราคาเริ่มต้นถุงละ 12 บาท
โดยผู้ก่อตั้งและคิดค้นน้ำแข็งร็อกไอซ์ขึ้นมา คือ “Yoshi Kokubo” ก่อตั้งขึ้นมาภายใต้ชื่อบริษัท โคคุโบะ ไอซ์ จำกัด เมื่อประมาณปี 2516 ว่ากันว่าเป็นบริษัทผลิตน้ำแข็งที่ถือส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ในตลาดญี่ปุ่นในยุคนั้น โดยมีโรงงานผลิตน้ำแข็งเป็นของตัวเองมากกว่า 17 แห่งด้วยกัน
ละลายช้า เพราะใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย
หากไม่นับเรื่องราคาที่แพงกว่าน้ำแข็งถุงสำเร็จรูปทั่วไปอยู่ 1 -2 เท่า จุดเด่นที่ทำให้ใครต่างรู้จักร็อกไอซ์กันดี ก็คือ การเป็นน้ำแข็งจอมอึดที่ละลายช้า ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหนึ่งก็ได้ที่ทำให้มีราคาแพงกว่าน้ำแข็งอื่น โดยน้ำแข็งยุนิตปกติทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 9 บาท ขณะที่ร็อกไอซ์ขายอยู่ที่ 18 บาท
โดยว่ากันว่าเหตุผลที่น้ำแข็งร็อกไอซ์ละลายช้านั้น มาจากนวัตกรรมการผลิตที่คิดค้นมาอย่างดี ไปจนถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เก็บความเย็นได้ดีเป็นพิเศษทีเดียว เริ่มจากกระบวนการผลิตมีการควบคุมคุณภาพและนำหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ครบทุกด้าน ตั้งแต่ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา โดยความแข็งของน้ำแข็งร็อกไอซ์เกิดจากการควบคุมอุณหภูมิในการผลิตที่ต่ำกว่าการผลิตน้ำแข็งทั่วไปถึง 3 เท่า จึงทำให้มีมวลหนาแน่นมากกว่า ลักษณะก้อนน้ำแข็งที่ได้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมตัน ใส สะอาด ไม่ขุ่น ไม่มีกลิ่นคลอรีนตกค้าง ทำให้ละลายช้ากว่าน้ำแข็งปกติทั่วไป ขณะเดียวกันถุงพลาสติกที่ใช้ใส่เป็นถุงลามิเนต 2 ชั้น และเป็นฟู้ดเกรดจึงทำให้ปกป้องการรั่วซึมและการเข้าของอากาศภายนอกได้ดีกว่า
น้ำแข็งอร่อย จนเชลล์ (ยัง) ชวนชิม
จากการใส่ใจคุณภาพการผลิตที่ทั้งสะอาด ปลอดภัย ละลายช้า จึงใช้ใส่เครื่องดื่มทำให้ได้รสชาติอร่อยเต็มๆ มากกว่า จึงทำให้ร็อกไอซ์กลายเป็นน้ำแข็งในไม่กี่แบรนด์ที่ได้รับการการันตีจากหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ จนถึงขั้นยกตราเชลล์ชวนชิมให้เลยทีเดียว
ปัจจุบันนอกจากการผลิตน้ำแข็งถุงสำเร็จรูปขายบริษัท โคคุโบะ ยังมีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ออกมาอีกหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ร้านคาเฟ่น้ำแข็งใสชื่อ K-Lab อีกหนึ่งผลพวงที่ได้จากการผลิตน้ำแข็งคุณภาพป้อนเข้าสู่ตลาด
และนี่คือ เรื่องราวที่มาทั้งหมดของ Rock Ice น้ำแข็งพันธุ์อึดจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทยในทุกวันนี้แล้ว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี