บุกร้าน ‘ไอศกรีมทิพย์รส’ ส่องวิธีต่อยอดรสชาติในตำนาน ให้ไปต่อด้วยพลังครีเอทิฟ

TEXT : รุจรดา วัฒนาโกศัย
 


 

Main Idea
 
  • ร้านไอศกรีมทิพย์รส คือ ตำนานร้านไอศกรีมโฮมเมดรสชาติไทยๆ ในย่านเตาปูน ที่อยู่มานานเกือบ 50 ปี ด้วยรสชาติไอศกรีมเข้มข้นที่ทุกคนบอกกันปากต่อปาก จนร้านแน่นขนัดและกลายเป็นสถานที่แห่งความทรงจำจากรุ่นสู่รุ่น
 
  • วันนี้ถึงเวลาเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้บริหารรุ่นใหม่ได้ใช้ความครีเอทิฟทั้งเรื่องภาพลักษณ์และเมนูใหม่ๆ ให้กลายเป็นแบรนด์ไอศกรีมไทยที่สดใสและหวานฉ่ำยิ่งกว่าเดิม
 
  • เมื่อแบรนด์พร้อม โปรดักต์พร้อม ก็ถึงเวลาพาไอศกรีมในตำนาน ไปลงสนามในห้างสรรพสินค้าที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือดแล้วล่ะ
 

 
              
     ในวันที่ในห้างสรรพสินค้ามีคาเฟ่ขนมหวานทั้งแบรนด์ไทยแบรนด์เทศกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด ร้านไอศกรีมสไตล์ไทยแท้อย่าง “ทิพย์รส” ที่สร้างตำนานในย่านเตาปูนมานานถึง 50 ปี ก็ขอก้าวออกจากเซฟโซน พาแบรนด์เก๋าในภาพลักษณ์ใหม่มาลงสนามใหญ่กับเขาบ้าง นี่นับเป็นก้าวสำคัญตามแผนธุรกิจที่วางไว้พร้อมกับการรีแบรนด์ในปี 2562 ที่ผ่านมา
               





 
  • สร้าง "ความแตกต่าง" ให้ไอศกรีมในตำนานเข้าถึงคนยุคใหม่

     หากพูดถึงไอศกรีมสไตล์ไทยๆ เรามักนึกถึงไอศกรีมกะทิรวมมิตรราดท็อปปิงอย่าง ลูกชิด ถั่วลิสง ขนุน หรือไอศกรีมไข่แข็ง หรือไอศกรีมซันเดย์แบบไทยๆ ใช่แล้ว! ร้านไอศกรีมทิพย์รสเสิร์ฟไอศกรีมที่เราคุ้นชินแบบนั้นมานานเกือบ 50 ปี ผู้คนต่างแวะเวียนเข้ามาลิ้มรสความหวานอร่อยแล้วบอกกันปากต่อปากโดยไม่ต้องใช้การโฆษณาโปรโมทแม้แต่นิดเดียว


     เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน ร้านไอศกรีมทิพย์รสถูกส่งต่อมาถึงมือรุ่นที่ 3 จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ มาร่วมทุนพัฒนาแบรนด์ไอศกรีมทิพย์รสให้สดใสยิ่งกว่าเดิม






     “เมื่อก่อนเราจะได้ยินคนพูดว่านี่เป็นไอศกรีมในตำนานนะ เราเลยเอาคอนเซ็ปต์ความเป็นตำนานมาต่อยอด พัฒนาเป็นเมนูใหม่ๆ สินค้าใหม่ๆ แต่อะไรที่ดีอยู่แล้วเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน ต้องปรับ ขนาดโลโก้เรายังใช้ของเดิม” 


     “ตรีทศพล วิจิตรกุล” หนึ่งในหุ้นส่วนร้านไอศกรีมทิพย์รสบอกแนวคิดในการรีแบรนด์

 
  • เสริมความแกร่งให้รสชาติแบบดั้งเดิม

     ความแข็งแกร่งของไอศกรีมทิพย์รส คือ รสชาติของไอศกรีม ตรีทศพล บอกว่าที่ธุรกิจยืนยงมาได้เพราะโปรดักต์ล้วนๆ เริ่มต้นจากรสแรกคือ กะทิ จนปัจจุบันมีถึง 19 รสชาติ ดั้งนั้น การรีแบรนด์ของพวกเขาจึงเป็นการทำให้อัตลักษณ์ของไอศกรีมชัดขึ้นกว่าเดิม





     “เราไม่ได้แตะรสชาติไอศกรีมเลย ไม่ได้ให้เชฟทำรสชาติให้เราใหม่ แต่คิดค้นเมนูที่ไม่ใช่แค่การมิกซ์รสชาติของไอศกรีมกับท็อปปิงเท่านั้น เราทำซอสมาราดไอศกรีม ทำพุดดิงนมสด ร้านอื่นลูกค้าอาจจะได้กินภายใน 5 นาที แต่เรามีการปรุง มีครัวร้อน พอลูกค้ากินเข้าไปแล้วเขาบอกว่าอร่อยคุ้มค่าการรอ ซึ่งดีกว่าที่เขาได้กินเร็วๆ เหมือนเจ้าอื่นแล้วเจอรสชาติเฉยๆ เขาก็จะไม่กลับมากินอีก แต่ถ้าเขารอสักนิดแล้วได้กินของอร่อยก็จะเกิดการซื้อซ้ำ”


     พวกเขาพัฒนาเมนูใหม่ๆ ที่เอาเสน่ห์ของขนมไทยอื่นๆ มาประกอบ ไม่ว่าจะเป็น เมนูถังทอง ที่นำไอศกรีม 3 รสเสิร์ฟพร้อมกับขนมถังแตกที่ทำกันสดๆ ในครัว หรือไอศกรีมที่เสิร์ฟพร้อมเค้กกล้วยหอมโบราณ หรือแม้กระทั่งการนำเมนูระดับตำนานอย่าง ไอศกรีมไข่แข็ง มาพัฒนาเมนูใหม่กลายเป็น ทิพย์รสไข่แข็ง ๒๕๖๓







     “ไข่แข็งเมื่อก่อนเป็นไข่แดงที่น็อกความเย็นในอุณหภูมิของเรา กินคู่กับไอศกรีมกะทิ แล้วก็ราดซุปข้าวโพด ซึ่งมันเป็นนวัตกรรมสมัยก่อน แต่ถ้ามาเป็นมุมมองของคนยุคนี้ 50 ปีผ่านไป ทิพย์รสไข่แข็งมันจะออกมาเป็นรูปแบบไหน ก็เลยคิดเอาไข่ไปเคลือบไอศกรีมอีกที แล้วกินคู่กับซุปข้าวโพด ข้าวโพดหวานแล้วก็เบิร์นไฟให้มันมีกลิ่นหอม”


     ถ้าใครลองกินไอศกรีมไข่แข็ง ๒๕๑๓ เทียบกับทิพย์รสไข่แข็ง ๒๕๖๓ จะรับรู้ได้ถึงความต่างทั้งในแง่ความซับซ้อนของรสชาติและหน้าตา ซึ่งแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน
 



 
  • จากร้านสู่ห้างฯ เสิร์ฟความอร่อยให้ผู้คนเข้าถึงได้

     หลังการรีแบรนด์สาขาแรกที่เตาปูนได้เพียงปีเดียว ก็ถึงเวลาก้าวต่อไปในแผนธุรกิจ ไอศกรีมทิพย์รสเติบโตขึ้นอีกขั้นด้วยการขยายสาขาเข้าไปอยู่ในห้างสรรพสินค้า พาตัวเองเข้าไปอยู่กลางสนามรบที่มีร้านขนมหวานเรียงรายเต็มไปหมด


     “ตอนแรกก็กลัว แต่ความเสี่ยงเป็นหนึ่งในทุนที่เราต้องลงไป ถ้าผมไม่ทำตรงนี้ก็จะไม่รู้ว่ามันดีไหม พฤติกรรมในการบริโภคของลูกค้าเราเป็นอย่างไรเมื่อมาอยู่ในรีเทล ข้อมูลพวกนี้ส่งผลในการเดินทางไปต่อของเราในอนาคต ในการก้าวต่อไปในการดำเนินธุรกิจของเรา”





     พวกเขาเลือกเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เป็นทำเลขยายสาขาที่ 2 เป็นการก้าวออกไปไม่ไกลจากถิ่นเดิมนัก ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ กลุ่มแฟนคลับ ที่นับเป็นหนึ่งจุดแข็งของธุรกิจ


     หลังจากปรับภาพลักษณ์ที่เตาปูนก็มีหลายห้างที่ให้ความสนใจแบรนด์ แต่ที่กลางเมืองยังเป็นสนามรบที่เรายังไม่คุ้นชิน ลูกค้าของเราจะเป็นกลุ่มที่รู้จักแบรนด์เราอยู่แล้ว เขาอยู่ในพื้นที่แถบนี้ เป็นชาวนนทบุรี ซึ่งพวกเราน่าจะมีแฟนคลับเป็นกลุ่มเล็กๆ เราจึงไม่ทำอะไรที่เอิกเกริก การก้าวครั้งนี้เหมือนการซ้อมรบบนชัยภูมิที่คุ้นเคย ซึ่งในอนาคตก็ต้องค่อยๆ เติบโตไปในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งพวกเขาก็อาจลองขยายสาขาในรูปแบบอื่นที่นอกเหนือไปจากนี้อย่างการเปิดขายเฉพาะ Take Away บ้างก็ได้





     “เราหวังที่จะเติบโต ให้ธุรกิจเราขยายตัวไป บนจุดประสงค์และเป้าหมายที่เรากำหนดไว้ เราเห็นแล้วล่ะว่าไอศกรีมทิพย์รสมีศักยภาพสูง ทั้งด้วยตัวสินค้าเอง ด้วยตัวแฟนคลับของทิพย์รส แล้วก็ด้วยสตอรี่ที่แบรนด์มี ผมว่ามันเป็นแก่นที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง มันมีช่องทางที่จะโตไปได้อีก เราเลยพยายามพัฒนา วางแผนที่จะทำให้เป็นอย่างทุกวันนี้ แล้วก็แผนที่จะทำต่อยอดไปเรื่อยๆ
 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย

วิธีเปลี่ยนไอเดีย “ตัน” เป็น “มันส์” แบบ Matty Benedetto ยอดนักประดิษฐ์จอมกวน  

เพราะคำว่า “ไม่จำเป็น” ≠ “ไม่มีประโยชน์” ชิ้นงานแสนฮาของ Matty Benedetto “อัจฉริยะผู้ชั่วร้าย” จึงเป็นตัวอย่างชั้นดีให้กับผู้ประกอบการที่ตกอยู่ในอาการไอเดียตัน คิดอยากทำผลิตภัณฑ์ใหม่หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมได้ลองมาเรียนรู้กัน