​เปิดเคล็ดลับทำธุรกิจให้สำเร็จ สไตล์ Happy Mompreneur






               
     หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า Entrepreneur ที่แปลว่าผู้ประกอบการกันมาบ้างแล้วใช่มั้ย แต่สำหรับคำว่า Mompreneur บางคนอาจยังไม่ชินหูสักเท่าไหร่ โดยคำนี้ก็มาจากคำง่ายๆ อย่าง Mom+Entrepreneur หรือคุณแม่ที่เป็นผู้ประกอบการยังไงล่ะ ถ้าลองคิดดูดีๆ การจะเป็นคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงลูกไปด้วย แล้วยังต้องทำธุรกิจไปด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งเป็นอย่างมาก บางคนเริ่มต้นธุรกิจมาจากการที่เธอต้องเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องหาเงินเลี้ยงลูกตัวคนเดียว บางคนเริ่มต้นธุรกิจเพราะได้รับอินสไปเรชั่นมาจากลูกๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น อย่างแบรนด์ที่น่าสนใจต่อไปนี้ที่เกิดจากเหล่าคุณแม่สร้างสรรค์ธุรกิจจนประสบความสำเร็จ
 




Bumkins

     แบรนด์แรกคือ Bumkins ที่ขายสินค้าและของใช้กระจุกกระจิกสำหรับเด็กๆ โดยผู้ก่อตั้งคือแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดแกร่งที่ต้องดูแลลูกๆ ถึง 4 คนชื่อว่า Jakki Liberman เธอเริ่มต้นธุรกิจนี้มาจากการที่เธอต้องการของใช้ที่มันดูสนุก มีสีสันและน่ารักๆ สำหรับลูกๆ ของเธอ หลังจากที่ธุรกิจไปได้สวยตอนนี้เธอได้จับมือกับองค์กรดังระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Disney, DC Comics เพื่อออกสินค้าลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ที่โดนใจกลุ่มเด็กๆ มากขึ้น


 

Mommi

     หากว่าคุณเป็นคุณแม่ที่รักสุขภาพ ชอบการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ มีการทานอาหารเสริมเพิ่มกล้ามเนื้อเป็นประจำ แต่เมื่อคุณท้องคุณอาจจะต้องหยุดเพราะไม่รู้ว่าใน Whey ที่คุณกินจะมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อเด็กไหม ด้วยจุดนี้เลยทำให้ Erin Schurtz ได้ก่อตั้งแบรนด์ Mommi ขึ้นเพื่อผลิตอาหารเสริมที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์
 




SafetyTat

     หลายครั้งแวลาที่คุณแม่พาลูกๆ ออกไปนอกบ้านที่คนเยอะๆ อาจจะเกิดความกระวนกระวายใจ กลัวลูกหาย บางคนก็ทำป้ายติดเสื้อ ติดกระเป๋า แต่จะเก๋กว่าไหมถ้ามี Tattoo สุดน่ารักที่เป็นชื่อและเบอร์ติดต่อเอาไว้ติดกับตัวลูกของคุณได้เลย โดยไอเดียนี้เริ่มต้นโดย Michele Welsh ที่เธอก็เคยประสบปัญหาเรื่องความกังวลเหมือนกับคุณแม่และคุณพ่อท่านอื่นๆ จนกลายมาเป็นธุรกิจของ SaftyTat ในที่สุด
 


Cr: unsplash



     แน่นอนว่าเมื่อแม่ๆ ต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างไปพร้อมกัน ความยากจึงเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นหากว่าคุณเป็นคุณแม่ที่ต้องทำธุรกิจไปด้วย แม้ว่าจะเหนื่อยแสนเหนื่อยแต่แค่ได้เห็นรอยยิ้มลูกๆ ก็ชื่นใจ เราเลยมีเคล็ดลับการบริหารจัดการชีวิตของ Mompreneur ให้ง่ายและมีความสุขมากขึ้นมาฝากกัน
 

1.วางแผนธุรกิจให้แข็งแกร่ง 
 
     แม้ว่าชีวิตคุณแม่อย่างคุณจะ Busy แค่ไหน แต่ธุรกิจก็ต้องไปต่อ คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยการวางแผนธุรกิจให้สตรอง วางกลยุทธ์ กำหนดเป้าหมายเอาไว้ให้ชัด ที่สำคัญควรวางคนให้ถูกกับงาน แล้วชีวิตของคุณจะง่ายขึ้น
 

2.กำหนดเวลาให้ยืดหยุ่น 
 
     ใครจะรู้ว่าคุณต้องไปรับลูกอย่างกะทันหันหรือมีเรื่องด่วนที่โรงเรียน ไหนจะประชุมด่วนอีก คุณต้องกำหนดเวลาชีวิตให้ยืดหยุ่น พร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ ให้ดี นอกจากนี้อย่าลืมหาผู้ช่วยมือดีที่จะคอยสลับสับเปลี่ยนตารางชีวิตกับคุณได้อยู่เสมอ
 

3.เตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่กลางคืน 
 
     ในทุกเช้าของคุณจะยุ่งมาก ทั้งต้องเตรียมตัวลูกๆ ไปโรงเรียน ต้องเตรียมเอกสารประชุม ไปส่งลูก ทำอาหาร นี่ยังไม่ได้นับเวลาการดูแลตัวเอง คุณอาจจะต้องวางแผนทุกอย่างเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเข้านอน เตรียมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ลด To do list ของวันรุ่งขึ้น เตรียมวัตถุดิบทำอาหารให้พร้อม อย่ารอให้ถึงตอนเช้าแล้วค่อยทำทุกอย่างไปพร้อมกัน อาจจะทำให้วันของคุณนั้นวุ่นวายสุดๆ
 

4.ทำให้ชีวิตบาลานซ์ 
 
     หลายคนทำงานหนักจนลืมลูก หลายคนต้องเทคแคร์ลูกจนงานพัง อย่าลืมให้สองสิ่งนี้ไปด้วยกันแบบมีความสุข เช่นการแบ่งตารางงาน เก็บเสาร์อาทิตย์ไว้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างเต็มที่ อย่าพูดเรื่องงานบนโต๊ะอาหาร ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของลูกๆ เป็นประจำ
 

5.อย่าลืมดูแลตัวเอง 
 
     Mompreneur ส่วนใหญ่มักจะหัวหมุนกับเรื่องของคนอื่น จนลืมดูแลตัวเอง ลืมทำในสิ่งที่เคยชอบทำจนความสุขหดหาย คุณจะต้องแบ่งเวลาสักวันละชั่วโมงทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้าง ออกกำลังกายบ้าง หาเวลาไปสังสรรค์กับแก๊งคุณแม่บ้าง 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

รวม 3 แบรนด์มะขาม รายได้ 100 ล้าน

พาไปส่อง 3 แบรนด์มะขามดัง ทั้งมะขามสารัช บ้านมะขาม และจี๊ดจ๊าด ที่บอกเลยว่ารายได้ไม่ธรรมดา เพราะเติบโตจนมีรายได้หลัก 100 ล้านบาท

ทำร้านเบเกอรี่ยังไงให้เนื้อหอม? SmoreBite ชลบุรี แค่ 2 เดือนมีห้างดังรุมจีบ

 แค่ 2 เดือน “เซฟ-ปัณฑา ลอออรรถพงศ์” หนุ่มน้อยวัย 24 ปี ก็พา SmoreBite ร้านเบเกอรี่ในชลบุรี ปังจนห้างดังอย่างพารากอนและเดอะมอลล์ต้องมาจีบ ... เขาทำได้อย่างไร

The Bus Collective เปลี่ยนรถบัสเก่าเป็นโรงแรมสุดชิค ผสานดีไซน์ล้ำกับการท่องเที่ยวยั่งยืนอย่างลงตัว

โมเดลธุรกิจที่เปลี่ยนรถบัสปลดระวางให้กลายเป็น “ที่พักระดับพรีเมียม” โปรเจกต์นี้ไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าใหม่จากทรัพยากรที่หมดอายุการใช้งาน แต่ยังตอบโจทย์เทรนด์ การท่องเที่ยวยั่งยืนที่กำลังเป็นกระแสไปทั่วโลก