"Lekise" ทางเลือกคนงบน้อย อยากเป็นเถ้าแก่

 

 
 
เรื่อง : ธีรนาฎ มีนุ่น
ภาพ : ปิยชาติ ไตรถาวร 
 
 
ในภาวะข้าวยากหมากแพงอย่างเช่นปัจจุบัน เชื่อว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วทุกหย่อมหญ้า ซึ่งอาจทำให้รายรับไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับรายจ่าย หรือแม้แต่ก่อให้เกิดปัญหาว่างงานเป็นจำนวนมาก จากปัญหานี้จึงเป็นที่มาให้ “เลคิเซ่ (Lekise)” ภายใต้การนำของ ดร.รัฐวิไล รังสีสิงห์พิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลี้กิจเจริญแสง จำกัด มีความตั้งใจมอบแสงสว่างให้แก่สังคม ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหลอดไฟประหยัดพลังงานมากว่า 40 ปี แตกไลน์ธุรกิจเปิดขายแฟรนไชส์หลอดไฟ ภายใต้ชื่อโครงการ “Lekise สว๊าง สว่าง สร้างทางรวย” เพื่อสร้างโอกาสให้แก่ผู้ที่กำลังว่างงาน หรือผู้ต้องการเป็นเจ้าของกิจการภายในวงเงินที่ไม่สูง 
 
 
ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของเลคิเซ่เปิดเผยว่า การเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ขายหลอดไฟเป็นภารกิจหนึ่งของกิจกรรม CSR เพื่อช่วยเหลือสังคม สนับสนุนให้คนได้เป็นเจ้าของธุรกิจด้วยเงินทุนไม่มาก และอีกส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายของบริษัท เนื่องจากเล็งเห็นถึงช่องว่างทางการตลาดในการเพิ่มพูนรายได้แก่ประชาชน ด้วยกลยุทธ์การขายในเชิงรุก โดยใช้รถคีออส (Kiosk) เป็นเครื่องมือวิ่งเข้าไปหาลูกค้า ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขยายตลาด และประชาสัมพันธ์แบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าโดยตรง 
 
 
ทั้งนี้ แฟรนไชส์เลคิเซ่ ใช้เงินลงทุนเพียง 40,000 บาท โดยจะมีการแถมรถเข็นคีออสให้ฟรีหนึ่งคัน มูลค่าเกือบ 40,000 บาทเช่นกัน หากสั่งสินค้าเพิ่มเติมในแต่ละครั้งเป็นราคา 40,000 บาท ติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน ในเดือนที่ 5 จะมีการคืนเงินต้นให้ทั้งหมด เท่ากับว่าสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจโดยไม่ต้องมีเงินลงทุน 
 
 
“โปรโมชั่นพิเศษในการสั่งซื้อสินค้าตัวนี้ จุดประสงค์ของเราก็คือ ต้องการให้เขาทำธุรกิจแบบจริงจัง ซึ่งเขาต้องมีความขยัน และอีกอย่างคือทางฝ่ายขายของบริษัทจะมีติดปลายนวมเพิ่มให้อีกว่า ถ้าสั่งซื้อสินค้าในวงเงิน 40,000 บาทครบ 12 เดือน ทางเราจะมีทองคำให้ 1 บาท เป็นเหมือนรางวัล เพื่อกระตุ้นให้เขาอยากจะขายต่อไป”
 
 
        ผู้บริหารสาวเล่าต่อว่า สเตปต่อไปของแฟรนไชส์เลคิเซ่ คือ การต่อพ่วงรถเข็นคีออสเข้ากับรถจักรยานยนต์บริการขายแบบดิลิเวอรี ซึ่งวางแผนไว้ว่าจะทดลองใช้ 10 คันแรก โดยให้ทีมงานของบริษัทขับแห่ไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างกระแส ซึ่งเธอมองว่ากลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์นี้จะช่วยให้แฟรนไชส์คีออสสามารถเติบโตได้ 
 
 
  “สินค้าที่เราใส่ไว้ในรถคีออสนั้น ไม่ใช่การจัดใส่แบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่เราทำการเทสต์ตลาดมาแล้ว ศึกษาความต้องการของผู้บริโภคมาเป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น การออกงานธงฟ้า สิบวันที่เราไปวางขาย รายได้เกือบหนึ่งแสนบาท เราจึงยกข้อมูลนี้มาใส่ในคีออส เป้าที่เราตั้งไว้คือ 40,000 บาท เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะใช้เวลาถึงหนึ่งเดือนในการขาย”
 
 
ขณะที่ ดร.พิทยาธร นิมมานวรวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บริษัท ลี้กิจเจริญแสง จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์นั้น จะได้รับการอบรมใน 2 หัวข้อ ได้แก่ ความรู้ในตัวสินค้า และเทคนิคการขาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำธุรกิจต่อไป ซึ่งทางทีมงานด้านการตลาดของเลคิเซ่ จะทำหน้าที่ช่วยสำรวจทำเลการขาย นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแคตตาล็อก รวมถึงรายการโปรโมชั่นของแถมให้แก่แฟรนไชซี อันจะช่วยให้การทำงานง่ายยิ่งขึ้น 
 
 
“คิดว่าไม่น่าจะเกิน 6 เดือนก็สามารถคืนทุนได้ ขึ้นอยู่กับความขยันของแต่ละคน เพราะเราเองซัพพอร์ตเรื่องเครื่องมือการตลาดช่วยทุกอย่าง เพราะลงทุนเพียง 40,000 บาทเท่านั้น อีกอย่างเรามอบผลตอบแทนที่สูงกว่า 35 เปอร์เซ็นต์แก่ผู้ลงทุน ซึ่งถือว่าเป็นเปอร์เซ็นต์กำไรที่สูงมาก” 
 
 
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดกล่าวว่า ในปีแรกที่เปิดแฟรนไชส์จะเน้นขยายไปยังกรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน เมื่อเริ่มย่างปีที่สองจึงจะเน้นขยายไปยังต่างจังหวัด อย่างไรก็ตาม หากคนที่สนใจเปิดแฟรนไชส์ในปีแรกนี้เป็นคนต่างจังหวัด ทางบริษัทเองก็มีความพร้อมในการให้บริการ ด้วยเลคิเซ่มีศูนย์กระจายสินค้าครอบคลุมทั่วประเทศ รวมทั้งได้ร่วมมือกับไปรษณีย์ไทยในการจัดส่ง ทำให้เกิดความสะดวกสบาย 
 
 
“จุดแข็งของเรา หนึ่งคือ ลงทุนน้อย สองคือ รถเข็นนี้เราสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด ราคารถกว่า 40,000 บาท อีกอย่างคือสินค้าตัวที่เราจัดใส่ในรถเข็นคีออส จะเป็นนวัตกรรมใหม่ คือ DIY หรือ Do It Yourself ลูกค้าสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องจ้างช่างไฟ นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถช่วยให้ลูกค้าที่ซื้อจากรถเรา ประหยัดค่าไฟได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นโครงการ CSR ของเรา ได้ทั้ง ช่วยชาติ ช่วยคนขายให้มีงานทำ ช่วยลูกค้าประหยัดค่าไฟ ถ้าลูกค้ามีปัญหาอะไรก็สามารถเดินมาถามที่คีออสได้ ซึ่งทางเราจะมีทีมคอยให้คำปรึกษา หากถามว่าฉีกแนวหรือไม่ ตอบว่าเราอยากจะฉีกแนว และเราทดสอบตลาดแล้วว่าขายได้” 
 
 
 
งบการลงทุน : 40,000 บาท 
 
เงื่อนไขการลงทุน :
 
1. ต้องทำสัญญาอย่างน้อย 1 ปี (ถ้าไม่ครบทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการขอคืนรถคีออส) 
 
2. ห้ามนำสินค้าชนิดอื่น หรือแบรนด์อื่นๆ มาวางขายโดยเด็ดขาด 
 
3. สั่งสินค้าเพิ่มเติมในครั้งต่อไป ขั้นต่ำ 5,000 บาท 
 
สิ่งที่ผู้ลงทุนได้รับ 
 
1.รถเข็นคีออส มูลค่า 37,500 บาท ฟรี 
 
2. สินค้าที่ขาย 
 
3. เข้ารับการอบรมความรู้เรื่องสินค้า ฟรี ใช้เวลา 1 วัน 
 
4. แคตตาล็อก สินค้าทุกชนิด 
 
5. รายการโปรโมชั่น ของแถม 
 
6. รายการสะสมเป้ารายปี 
 
 

RECCOMMEND: FRANCHISE

เปิดเทรนด์ 4 Franchise ตัวท้อป! น่าลงทุนปี 2025

ธุรกิจแฟรนไชส์มีมูลค่าตลาดสูงถึง 3 แสนล้านบาท ไม่รวมร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ จึงยังเป็นทางเลือกของการลงทุน แล้วมีแฟรนไชส์อะไรในปี 2025 ที่ควรค่าแก่การลงทุน ไปอัปเดตกันเลย

มัดรวม 4 แฟรนไชส์ตู้กด เทรนด์แรง น่าลงทุน

ธุรกิจตู้กด มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หันไปทางไหนก็เจอ หลายธุรกิจหันมาขยายสู่โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ แต่เปลี่ยนจากหน้าร้านใหญ่โต ย่อส่วนลงมาให้เหลือเพียงตู้กด แต่จะมีแฟรนไชส์ไหนที่น่าลงทุนบ้าง เราได้รวบรวมแฟรนไชส์ตู้กดเจ๋งๆ มาให้ดูกัน

ระวังลูกค้าหนี แบรนด์พัง คู่แข่งแซงหน้า ถ้า SME ยังไม่ปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว

ท่ามกลางอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทุกปี คาดว่าปี 2567 จะร้อนยิ่งกว่าปี 2566  ประเทศไทยของเราต้องเผชิญกับทั้งอากาศร้อนจัดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ท่ามกลางวิกฤต ยังมีโอกาส! เมื่อเศรษฐกิจสีเขียว กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว