อยากทำธุรกิจแฟรนไชส์ต้องรู้! กฎใหม่คุมเข้มเอาเปรียบรายย่อยมีผลบังคับใช้แล้ว




Main Idea
 
  • ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นอีกหนึ่งโมเดลการทำธุรกิจ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่สนใจเข้าสู่วงจรธุรกิจแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น
 
  • ทว่ามีแฟรนไชส์บางราย ที่ดำเนินการในรูปแบบที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งกระทบต่อผู้ลงทุนรายย่อย นั่นเองที่ทำให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) ออกประกาศแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้น ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้การประกอบธุรกิจแฟรนไชส์แข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมขึ้น 




     ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นอีกหนึ่งโมเดลการทำธุรกิจ ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สำหรับคนที่อยากลงทุนทำกิจการแต่อยากใช้ทางลัด โดยเอาประสบการณ์และความสำเร็จที่ถูกพิสูจน์มาแล้วของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นระบบการผลิต ระบบการขาย และระบบการบริหารการตลาด  ในรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน มาต่อยอดความสำเร็จให้กับตัวเอง
               




     อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีแฟรนไชส์บางราย ที่ดำเนินการในรูปแบบที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งกระทบต่อผู้ลงทุนรายย่อย นั่นเองที่ทำให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) ออกประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่องแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้น ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้การประกอบธุรกิจแฟรนไชส์แข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
               




     “สมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์” เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า(กขค.) เปิดเผยว่า แฟรนไชส์เป็นธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยม โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายใหม่จำนวนมาก ที่สนใจเข้าสู่วงจรธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟ เป็นต้น


     นั่นเองที่ทำให้ กขค. ได้จัดทำแนวปฏิบัติเพื่อสร้างมาตรฐานทางการค้าระหว่างผู้ให้สิทธิในการประกอบธุรกิจ แฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า “แฟรนไชส์ซอร์” (Franchisor)  และผู้รับสิทธิในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งเรียกว่า “แฟรนไชส์ซี” (Franchisee)  โดยให้ออกประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่องแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งมีแนวทางพิจารณาดังต่อไปนี้
 
               




     1.การกำหนดเงื่อนไขที่จำกัดสิทธิแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ให้แฟรนไชส์ซีต้องซื้อสินค้าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าแฟรนไชส์ หรือต้องซื้อวัตถุดิบในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการใช้จริง


     2.การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมหลังทำสัญญา โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น ให้แฟรนไชส์ซีซื้อสินค้านอกเหนือจากที่กำหนดไว้


     3.การให้แฟรนไชส์ซีซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ผลิต ผู้จำหน่าย หรือผู้ให้บริการอื่น โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร


     4.การห้ามแฟรนไชส์ซีขายลดราคาสินค้าที่เน่าเสียง่าย โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร


     5.การกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างระหว่างแฟรนไชส์ซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และนำไปสู่การเลือกปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม


     6. การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ นอกเหนือจากการรักษาคุณภาพและมาตรฐานตามสัญญา
 


     สำหรับบทลงโทษ ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์รายใดกระทำการฝ่าฝืนแนวปฏิบัติทางการค้าที่กำหนดฯ มีโทษปรับสูงสุดถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด
 




     ทั้งนี้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนธุรกิจแฟรนไชส์ขึ้น หากผู้ประกอบธุรกิจรายใดถูกเอารัดเอาเปรียบได้รับความไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า อาคารจอดรถ 5 ชั้น (BC) ชั้น 5 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-2199-5444 หรือค้นหาข้อมูลได้ทางเว็บไซต์ www.otcc.or.th ได้อีกด้วย
 


     ทุกการทำธุรกิจมีความเสี่ยง SME ที่อยากลงทุนจึงต้องศึกษาให้ดี ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็สามารถเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ เพื่อปกป้องสิทธิของตนเอง และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้
 



 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: FRANCHISE

เปิดเทรนด์ 4 Franchise ตัวท้อป! น่าลงทุนปี 2025

ธุรกิจแฟรนไชส์มีมูลค่าตลาดสูงถึง 3 แสนล้านบาท ไม่รวมร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่ จึงยังเป็นทางเลือกของการลงทุน แล้วมีแฟรนไชส์อะไรในปี 2025 ที่ควรค่าแก่การลงทุน ไปอัปเดตกันเลย

มัดรวม 4 แฟรนไชส์ตู้กด เทรนด์แรง น่าลงทุน

ธุรกิจตู้กด มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด หันไปทางไหนก็เจอ หลายธุรกิจหันมาขยายสู่โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ แต่เปลี่ยนจากหน้าร้านใหญ่โต ย่อส่วนลงมาให้เหลือเพียงตู้กด แต่จะมีแฟรนไชส์ไหนที่น่าลงทุนบ้าง เราได้รวบรวมแฟรนไชส์ตู้กดเจ๋งๆ มาให้ดูกัน

ระวังลูกค้าหนี แบรนด์พัง คู่แข่งแซงหน้า ถ้า SME ยังไม่ปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว

ท่ามกลางอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทุกปี คาดว่าปี 2567 จะร้อนยิ่งกว่าปี 2566  ประเทศไทยของเราต้องเผชิญกับทั้งอากาศร้อนจัดและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ท่ามกลางวิกฤต ยังมีโอกาส! เมื่อเศรษฐกิจสีเขียว กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว