Text : numnim
Photo : Otto
จากการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศของธุรกิจตัวแรกเกี่ยวกับอุปกรณ์ Gadget ทำให้ วสุ วชิรปราการสกุล หรือ จั่ง ก็มองเห็นโอกาสของธุรกิจตัวใหม่ และกลายเป็นโอกาสที่ทำให้เขาเปลี่ยนหันมาทำธุรกิจเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัว จากเจ้าปลาหมึกตัวโตที่เขายืนต่อคิวรอซื้ออยู่เป็นนานสองนาน
“มันเริ่มมาจากที่เราบินไปดูงานที่จีน เกี่ยวกับอุปกรณ์ Gadget ซึ่งเป็นธุรกิจตัวแรกที่ทำกันอยู่ และมีโอกาสได้ไปเห็นร้านขายปลาหมึกชุปแป้งทอดร้านหนึ่ง คนยืนต่อคิวรอซื้อยาวเลย กลิ่นมันหอมรัญจวนใจมาก ผมกับเพื่อนก็เลยลองไปต่อคิวซื้อมากันคนละไม้ ระหว่างนั้นเราก็เดินช้อปปิ้งดูของไปด้วย เผอิญเพื่อนแวะไปดูเสื้อผ้าร้านหนึ่ง เขาไม่ให้เอาของกินเข้าไป เลยฝากผมถือ ปรากฏว่าพอเขาเดินออกมา ผมกินไปหมดสองไม้เลย อย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้ตัว คือมันอร่อยมาก ก็เลยต้องไปต่อคิวซื้อกันใหม่ กลับมาเมืองไทยยังติดใจในรสชาติ เลยลองทำดู แต่ทำยังไงก็ไม่อร่อยเหมือนเขา พอทดลองมากๆ เข้า จากแค่อยากกินก็เลยกลายเป็นมองเห็นโอกาสว่า ถ้าเราติดต่อนำเข้ามาขายในเมืองไทยบ้างน่าจะดี”
ด้วยติดใจในรสชาติแสนความอร่อยที่ยังหาซื้อไม่ได้ในเมืองไทย ทำให้วสุ และเพื่อนอีก 2 คน อุ้ม-มณี แซ่เล้า และ แนน-สาธิมา มณีสถิต ปรึกษาหารือกันว่า อย่างไรเสียต้องนำเข้ามาให้คนไทยได้ลิ้มลองให้ได้ จึงเริ่มต้นจากการติดต่อไปที่เจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งเขาเล่าว่าเป็นแฟรนไชส์ของไต้หวันที่ไม่เคยแม้แต่จะขายแฟรนไชส์ไปต่างประเทศไกลๆ อย่างมากก็แค่ประเทศจีน และเมื่อตกลงสัญญาธุรกิจกันได้ เขาใช้เวลาร่วมเดือนไปเรียนรู้สูตรการทำ ซึ่งทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่สามารถทำเองได้ในตอนแรก
“มีความพิถีพิถันมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ จนถึงการลงมือประกอบอาหาร ตัวปลาหมึก ซอสหมัก ผงโรยเพิ่มรสชาติ เรานำเข้ามาจากที่ไต้หวันหมด ระหว่างนั้นเราก็ติดต่อเซ็นทรัล เวิล์ด และสยามพารากอนไว้ด้วย ซึ่งใช้เวลานานพอสมควร ที่เลือกห้างระดับไฮเอ็นด์ เพราะเราต้องการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ดี เพราะราคาค่อนข้างสูง ถ้าเป็นชิ้นๆ ขายกล่องละ 89 บาท เป็นตัวเสียบไม้ 169 บาท”
จากการทดลองขายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน Giant Squid ก็ได้รับผลตอบรับดีเกินคาด แม้จะเป็นเพียงป๊อบอัพสโตร์เล็กๆ แต่ปรากฏการณ์คนยืนรอต่อคิวยาว โดยการถ่ายภาพแล้วแชร์ไปในโลกอินเทอร์เน็ตมีผลมากที่ทำให้ Giant Squid เป็นที่รู้จักได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งหากมองกลับกันในอีกมุมหนึ่งหลายคนอาจคิดว่า Giant Squid เป็นเพียงกระแสแปลกใหม่ นานวันไปอาจเสื่อมความนิยมลง แต่เขาบอกกับเราว่า หากเพียง Giant Squid มีเพียงแค่ปลาหมึกตัวโตๆ เพียงอย่างเดียว เขาคงไม่เลือกที่จะนำมาทุ่มทุนสร้างเป็นธุรกิจใหม่อย่างแน่นอน
“ปลาหมึกเป็นแค่ซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นตัวดึงดูดลูกค้า แต่เรายังมีอาหารทะเลอีกประมาณ 30-40 เมนู เป็นซีฟูดชุปแป้งทอด ในอนาคตต้นปีหน้าเราจะทำเป็นร้านประจำด้วย มีให้นั่งกินที่ร้าน รวมถึงเรื่องแฟรนไชส์ รวมกันแล้วน่าจะประมาณ 10 สาขา เพราะที่เลือกทำธุรกิจตัวนี้เรามองระยะยาวด้วยว่า สามารถต่อยอดธุรกิจต่อไปได้ มีโปรดักต์ไลน์ให้ลูกค้าลองได้เยอะๆ ไม่เบื่อ”
FB : GiantsquideTH
IG : GIANTSQUIDTH
โทร. 09-6609-6669
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจเอสเอ็มอี (SME)
