หลังจากที่ธนาคารกลางทั่วโลกได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่ำเป็นประวัติการณ์มาตั้งแต่วิกฤติโควิด แต่หลังจากที่การแพร่ระบาดเริ่มลดความรุนแรงลงก็ถึงเวลาที่ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มเตรียมตัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่จะเอาชนะกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นรวมถึงประเทศไทยด้วย
สำหรับภาคธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยต่ำมาได้เกือบสองปีน่าจะถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวรับมือกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มสูงขึ้นได้แล้วโดยมีแนวทางในการบริหารจัดการการเงินดังนี้
ชะลอการสร้างหนี้ใหม่
การที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มขาขึ้นย่อมทำให้ธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามไปด้วยซึ่งจะทำให้ต้นทุนของดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นไปด้วย ถ้าหากเป็นไปได้ควรที่จะมองหาแหล่งเงินทุนใหม่นอกเหนือไปจากการกู้เงินซึ่งมีต้นทุนผันแปรไปใช้แหล่งเงินทุนรูปแบบอื่นที่ไม่มีต้นทุนเช่นการระดมทุน Crowd Funding
เจรจาอัตราดอกเบี้ยกับสถาบันการเงิน
ถ้าหากภาระเงินกู้ของเรามีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขาขึ้น เราอาจจะพอเข้าไปเจรจากับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ในการปรับโครงสร้างหนี้ได้โดยมีหลายรูปแบบตั้งแต่การเร่งปิดหนี้ในส่วนของดอกเบี้ยไปก่อนและทะยอยจ่ายเฉพาะเงินต้นหรืออาจจะปรับวงเงินชำระหนี้ต่องวดให้มากขึ้นเพื่อที่จะปิดบัญชีหนี้ก่อนเวลาในกรณีที่ไม่มีภาระทางการเงิน
หุ้นกู้สำหรับเอสเอ็มอี
เครื่องมือทางการเงินรูปแบบหนึ่งที่สามารถทดแทนการกู้ยืมเงินจากธนาคารได้นั่นคือการออกหุ้นกู้ซึ่งมีการจ่ายดอกเบี้ยเหมือนกับสินเชื่อแต่อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในรูปแบบของอัตราคงที่ไม่ผันแปรไปตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยอัตราการจ่ายดอกเบี้ยจะคำนวนตามความน่าเชื่อถือของกิจการรวมถึงสถานะทางการเงิน โดยกิจการที่มีความน่าเชื่อถือสูงก็จะจ่ายอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ส่วนกิจการที่มีความเสี่ยงสูงก็จะมีต้นทุนกู้ยืมในระดับสูงทั่วไปแล้วหุ้นกู้จะออกได้เฉพาะกับบริษัทจดทะเบียนเท่านั้นแต่ปัจจุบันเอสเอ็มอีก็สามารถออกหุ้นกู้ได้แล้วผ่านแพลตฟอร์ม Debt Crowd Funding
ใช้สินเชื่อเช่าซื้อ
หากต้องการที่จะระดมทุนเพื่อใช้ในธุรกิจแต่กังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยก็อาจจะพิจารณาสินเชื่อประเภทเช่าซื้อหรือว่า Leasing เนื่องจากเป็นสินเชื่อประเภทที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลาการปล่อยกู้ซึ่งจะช่วยปิดความเสี่ยงเรื่องของต้นทุนการกู้ที่สูงขึ้นได้
แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้แต่ดูจากแนวโน้มของธนาคารกลางขนาดใหญ่แล้วมีความเป็นไปได้สูงว่าท้ายที่สุดดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยก็ต้องกลับมาเป็นขาขึ้นเช่นกัน ผู้ประกอบธุรกิจจึงต้องเริ่มหาแนวทางการจัดการหนี้ของกิจการเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้
Text: นเรศ เหล่าพรรณราย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี