EXIM BANK ลดดอกเบี้ย “ต่ำสุดในระบบ” เหลือ 5.75 % ต่อปี


 



     EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR MLR และ MRR เหลือเพียง 5.75 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งต่ำที่สุดในระบบธนาคาร มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศได้อย่างไม่สะดุด มีสภาพคล่องทางการเงินและต้นทุนดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง
 

     พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK พร้อมนำร่องปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate : MOR) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (Minimum Loan Rate : MLR) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate : MRR)  จากเดิม 5.985 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดแล้วในระบบให้เหลือเพียง 5.75เปอร์เซ็นต์ต่อปี ต่ำที่สุดในระบบธนาคารปัจจุบันโดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างไม่สะดุด มีต้นทุนต่ำลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
 

     นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมีมาตรการพักชำระหนี้ ลดภาระผู้ส่งออกสู้ภัยไวรัสโคโรนา พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน ลดภาระลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อระยะยาวและระยะสั้นที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรค COVID-19 พร้อมขยายความคุ้มครองผู้ส่งออกที่มีการส่งออกแล้วหรืออยู่ระหว่างเตรียมส่งออกไปจีน รวมทั้งโปรแกรมสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยพิเศษต่ำกว่า MLR และ MRR สำหรับผู้ประกอบการทุกกลุ่มอุตสาหกรรมและทุกขนาด
 

     อาทิ มาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นสินเชื่อระยะยาวเพื่อให้ผู้ประกอบการทุกกลุ่มอุตสาหกรรมใช้ซื้อหรือปรับปรุงเครื่องจักรและอุปกรณ์ หรือต่อเติมปรับปรุงโรงงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้าส่งออก อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 2 เปอร์เซ็นต์ต่อปี, มาตรการ EXIM เสริมสภาพคล่องผู้ส่งออก เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นผู้ส่งออก ผู้นำเข้าเพื่อผู้ผลิตในการส่งออก และผู้ผลิตเพื่อผู้ส่งออก สามารถเลือกใช้วงเงินกู้ระยะยาวหรือวงเงินกู้ระยะสั้นไปลดภาระการชำระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องกิจการให้มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับส่งออกหรือปรับปรุงเครื่องจักร โรงงาน เทคโนโลยีการผลิต อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก 3.99 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
 

     “EXIM BANK นำร่องลดดอกเบี้ยครั้งนี้ เพื่อร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนพยุงเศรษฐกิจและภาคการส่งออกของไทยให้ผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากนี้ไปให้ได้ ช่วยให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME มีเงินทุนดำเนินธุรกิจในต้นทุนที่ต่ำลง สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและส่งผลกระทบเป็นวงกว้างและรุนแรงมากยิ่งขึ้นทุกขณะได้ โดย EXIM BANK จะประเมินสถานการณ์และหารูปแบบสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยให้สามารถรับมือกับผลกระทบและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในและระหว่างประเทศต่อไป” พิศิษฐ์กล่าว
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: FINANCE

หมัดเด็ด วิธีเอาชนะเงินเฟ้อ ฉบับคุณปู่ Warren Buffett ที่ใครก็ใช้ได้

หนึ่งในปัญหาของคนทำธุีกิจวันนี้คือ “ภาวะเงินเฟ้อ” เงินเท่าเดิม แต่กลับซื้อสินค้าและวัตถุดิบได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แถมขายของก็ไม่ได้ดีเหมือนเก่า เลยชวนมาดูเคล็ดลับบริหารการเงินและลงทุนในภาวะเงินเฟ้อ จาก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เจ้าพ่อนักลงทุนกัน

รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ช่วยลดภาระหนี้ ธุรกิจไม่สะดุด

ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และวิกฤตที่รุมเร้าเข้ามา อาจทำให้ธุรกิจต้องสะดุด ขาดสภาพคล่องเลยอยากชวนมารีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ อย่างน้อยเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใช้หนี้ออกไป ช่วยลดดอกเบี้ย ไปจนถึงอาจได้เงินอีกสักก้อนมาช่วยหมุนเวียนในธุรกิจ

ขายดีอย่างไรไม่ให้มีความเสี่ยง 5 เคล็ดลับบริหารสภาพคล่องจาก บสย.

อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเอสเอ็มอีต้องสะดุดหยุดชะงักหรือไปต่อได้ไม่สุด คือ เงินทุนที่มีอยู่จำกัดจำเขี่ย ต่อให้ขายดีเพียงใด ถ้าไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็กู้เงินจากธนาคารไม่ได้