“K SME Matching Day 2019” ติดปีกสินค้า SME ไทย สู่เวทีขายระดับโลก




Main Idea
 
  • จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 แล้ว สำหรับงาน “K SME Matching Day” โดยธนาคารกสิกรไทย เพื่อช่วยต่อยอดให้ SME สามารถขยายตลาดให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากพันธมิตรภาครัฐและเอกชน รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ
 
  • สำหรับในปีนี้ 2562 ก็ได้มีการจัดขึ้นอย่างเข้มข้นเหมือนเช่นเดิม โดยมี SME สนใจสมัครเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 807 บริษัท และผ่านการคัดเลือกในรอบแรกได้เข้าร่วม Matching กว่า 525 บริษัท ซึ่งประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประกอบการที่มาเจรจาธุรกิจในวันงานสามารถเจรจาได้สำเร็จในเบื้องต้น


     ส่งมอบรอยยิ้มให้กับผู้ประกอบการ SME ไทยไปอย่างสวยงามกับการจัดงาน “K SME Matching Day 2019” ซึ่งนับถึงวันนี้ดำเนินมาได้ 5 ปีต่อเนื่อง ถือเป็นงานหนึ่งที่ต้องบอกว่า SME ตั้งตารอ เพื่อต่อยอดธุรกิจโดยเฉพาะด้านช่องทางจัดจำหน่ายขยายตลาดให้กว้างขึ้น
               




      และในปีนี้ ธนาคารกสิกรไทย อีกหนึ่งสถาบันการเงินที่มุ่งมั่นกับการส่งเสริม SME ไทย ที่ไม่เพียงเฉพาะด้านเงินทุน แต่ยังสนับสนุนองค์ความรู้ พร้อมสร้างโอกาสดีๆ ให้กับผู้ประกอบการได้ก้าวเดินบนเส้นทางธุรกิจอย่างเติบโตและมั่นคง โดยการจับมือร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และอีกกว่า 20 บริษัทช่องทางจำหน่าย เพื่อพร้อมใจผลักดันให้ผู้ประกอบการ SME ต่อยอดสินค้าสู่ความยั่งยืนทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
               




      K SME Matching Day 2019 ถือเป็นงานที่ส่งเสริมด้านโอกาสให้ผู้ประกอบการได้พบกับช่องทางจำหน่ายมากที่สุดและรวดเร็วที่สุด ซึ่งในปีนี้มีให้เลือกกว่า 20 ช่องทาง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.ช่องทางค้าปลีกค้าส่ง 2.ช่องทางออนไลน์ และ3.ช่องทางต่างประเทศ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีความฝันและต้องการขับเคลื่อนสินค้าโกอินเตอร์ งานนี้จึงเสมือนโอกาสทองให้เข้ามาประลองสนามมองหาคู่เพื่อเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าของตนเอง ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์
               

      แต่หากถามถึงช่องทางที่ผู้ประกอบการ SME ถวิลหามากที่สุด ยังคงอยู่กับค้าปลีกค้าส่ง ด้วยเหตุผลที่ว่า หากต้องเดินหน้าดำเนินการด้วยตนเอง ยากจะเข้าถึง เพราะมีกระบวนการขั้นตอนซับซ้อนพอสมควร อีกทั้งต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะรู้ผลลัพธ์ แต่การมางานนี้เพียงวันเดียว สามารถหาคำตอบได้ทันที
 




      เชื่อมต่อโอกาสช่องทางใหม่ เพิ่มเติมความรู้ธุรกิจแม่นยำ
               

       ในแต่ละปีของการจัดงานจับคู่ธุรกิจ จะพบว่ามีผู้สนใจร่วมงานในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก และยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในปีนี้มี SME สมัครเข้ามาถึง 807 บริษัท และผ่านการคัดเลือกรอบ Pre screen กว่า 525 บริษัท ซึ่งประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประกอบการที่มาเจรจาธุรกิจในงาน สามารถเจรจาธุรกิจกับช่องทางจำหน่ายสำเร็จในเบื้องต้น โดยประเภทสินค้าหลักให้ความสนใจเข้าร่วมงาน ได้แก่ สินค้าเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งที่เป็นหมายปองของช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางค้าปลีกค้าส่ง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของใช้ดูแลตัวเอง และสินค้าประเภทยา เวชภัณฑ์ และอาหารเสริม ก็เนื้อหอมเป็นที่หมายปองจากช่องทางจัดจำหน่ายต่างๆ เช่นกัน





      จากการจับคู่ธุรกิจ นอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการได้เปิดตลาดกับช่องทางขายใหม่ๆ ยังส่งผลให้เกิดความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมในตัวสินค้าของตนเองด้วย ดังเช่นที่ สุดารัตน์ วรกิจ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีบีดี คอนซัลแทนซี เซอร์วิสเซส จำกัด ผู้ผลิตจำหน่ายเส้นขนมจีนอบแห้ง ภายใต้แบรนด์ “ไจแอ้นท์” เล่าว่า แต่เดิมจำหน่ายสินค้าเพียงช่องทางออนไลน์เท่านั้น แต่หลังจากได้ร่วมงาน K SME Matching Day 2018 ที่ผ่านมา ทำให้ได้รับโอกาสขยายตลาดผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด ซึ่งนอกจากช่องทางขายจะเพิ่ม ฝ่ายจัดซื้อของโมเดิร์นเทรดชี้ให้เห็นโอกาสกับการขยายกลุ่มผู้บริโภคไปยังกลุ่มผู้รับประทานอาหารเจ และมังสวิรัติ ด้วยเพราะผลิตภัณฑ์ทำจากแป้งข้าวเจ้าร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ จึงเป็นโอกาสที่ดีเพราะแต่ก่อนไม่เคยคิดถึงกลุ่มเป้าหมายนี้มาก่อน


      ความสำเร็จของการเจรจานั้นเกิดได้ด้วยการเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดีของผู้ประกอบการ และจากรายชื่อผู้สมัครพบว่าหลายรายผิดหวังมาจากปีก่อน แต่ทว่าได้กลับไปพัฒนา แก้ไข ปรับปรุง ตามคำแนะนำของทางธนาคาร จากช่องทางจำหน่าย รวมไปถึงกูรูผู้เข้าร่วมให้ความรู้ภายในงาน จึงทำให้ในปีนี้ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก และประสบความสำเร็จกับการจับคู่ธุรกิจได้ช่องทางตรงกับสินค้าของตนเอง ซึ่งถือว่าบรรลุเป้าหมายกับการทุ่มเทแรงกายแรงใจ
 




      เล็งเห็นทุกปัญหา เสริมแกร่ง SME โตรอบด้าน
               

      สำหรับผู้ไม่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกสู่ช่องทางจัดจำหน่าย พบปัญหาหลักๆ ด้วยเรื่องความไม่เข้าใจสินค้าดีพอ ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงกับช่องทางจำหน่าย ไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้าของช่องทางจำหน่ายนั้นๆ บรรจุภัณฑ์ยังไม่เหมาะสมหรือไม่เข้าตา รวมไปถึงขนาดของสินค้า และราคาที่อาจจะตั้งไว้สูงเกินไป





      จากปัญหาดังกล่าวมานี้ ธนาคารเล็งเห็นมาโดยตลอด ทุกปีจึงให้ความสำคัญกับการมอบองค์ความรู้ ผ่านกิจกรรมสัมมนา เพื่อเสริมความแกร่งให้ผู้ประกอบการ SME ได้นำไปปรับใช้และพัฒนาธุรกิจของตนเอง 

               



      และปีนี้ก็เช่นกัน K SME Matching Day 2019 เติมเต็มด้วยหัวข้อสัมมนาตลอดทั้งวันรวม 4 หัวข้อหลักอย่างจุใจ อัดแน่นเนื้อหาเน้นหนักกับการทำการค้าทั้งในและต่างประเทศ ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ ที่ต้องบอกว่าในยุคดิจิทัล e-Commerce ถือว่ามาแรงจนผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และฉกฉวยโอกาสไว้ โดยเฉพาะตลาดจีนที่ถือเป็นตลาดใหญ่ และพร้อมอ้าแขนรับสินค้าคุณภาพดีของไทย
                 

     ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการบุกตลาดจีน เชื่อว่าการได้ฟังสัมมนาในงานนี้จะส่งสะท้อนให้ภาพฝันของ SME ไทยชัดเจนขึ้น สามารถนำกลับไปปรับใช้เพื่อเตรียมบุกนำสินค้าและบริการให้ได้ตรงจุดและโดนใจชาวจีน ซึ่งในวันนี้ต้องบอกว่าประเทศจีนเติบโตมากเรื่องการค้าแบบออนไลน์ ประชากรของจีนให้ความสำคัญกับการซื้อขายผ่านช่องทาง e-Commerce ที่แทบจะมากกว่าออฟไลน์ด้วยซ้ำ





      ส่วนกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน CLMV ก็ถือเป็นกลุ่มประเทศที่ยังคงน่าลงทุน ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ ประชากรของเขานิยมสินค้าไทยมาก จึงถือเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยก้าวเข้าไปยืน ส่วนจะทำอย่างไรให้ยืนได้อย่างมั่นคง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าต้องเลือกเข้าใจในสินค้าของตนเองไปพร้อมกับเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายในเชิงลึก เพื่อสุดท้ายจะได้เลือกช่องทางจำหน่ายได้อย่างตรงจุด
               

      หัวข้อสัมมนาสำคัญอีกหัวข้อหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้ คือ ระบบขนส่ง ช่องทางที่จะนำสินค้าไปให้ถึงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ กฎหมาย ข้อบังคับ ต่างๆ ซึ่งภายในงานได้จัดมอบความรู้ไว้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งในประเทศ และต่างประเทศ
 




      สร้างคู่แท้ธุรกิจ ส่งไม้ต่อ SME ไกลกว่าฝั่ง
               

     ความสำเร็จของการจับคู่ธุรกิจจะเกิดขึ้นได้ หัวใจสำคัญ คือ สินค้าต้องโดนใจช่องทางจัดจำหน่ายและโดนใจลูกค้าของช่องทางจำหน่ายนั้นๆ ทำเช่นไรให้เพียงแค่แรกเห็นสินค้าก็เป็นที่หมายตาของช่องทางจำหน่ายแล้ว
               

      การสร้างเรื่องราวความเป็นมาผ่านการบอกเล่าจากบรรจุภัณฑ์และการสร้างแบรนด์ คือ อีกหนึ่งเทคนิคพิชิตช่องทางจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์

              
     แม้งาน K SME Matching Day 2019 จะจบลงไปพร้อมกับความสมหวังของผู้ประกอบการ SME หลายร้อยคน ส่วนผู้ที่ผิดหวังเพราะยังหาคู่ไม่เจอ ต้องบอกว่าอย่าท้อ เพราะการมาครั้งนี้ไม่มีคำว่าคว้าน้ำเหลว ไม่ได้คู่ ก็นำความรู้ที่ได้รับ บวกคำแนะนำดีๆ ที่มีให้ ไปปรับใช้และพัฒนา เชื่อว่าปีหน้าจะมี SME  อีกหลายร้อยรายได้ยิ้มกว้าง เพราะพบคู่แท้ในเส้นทางธุรกิจของตน


      โดยหัวใจสำคัญของการจับคู่ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ SME ต้องมุ่งมั่นตั้งใจจริง เตรียมพร้อมทั้งในส่วนของตัวผู้ประกอบการ ข้อมูล และสินค้า ที่จะนำมาเสนอ ต้องโดนตาโดนใจช่องทางจัดจำหน่ายต่างๆ ไม่ว่าจะแบบออฟไลน์ หรือออนไลน์ ทั้งในและต่างประเทศนั่นเอง


     ติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ที่สนับสนุนธุรกิจ SME ของธนาคารกสิกรไทย ได้ที่ Facebook K SME
 



 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: FINANCE

หมัดเด็ด วิธีเอาชนะเงินเฟ้อ ฉบับคุณปู่ Warren Buffett ที่ใครก็ใช้ได้

หนึ่งในปัญหาของคนทำธุีกิจวันนี้คือ “ภาวะเงินเฟ้อ” เงินเท่าเดิม แต่กลับซื้อสินค้าและวัตถุดิบได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แถมขายของก็ไม่ได้ดีเหมือนเก่า เลยชวนมาดูเคล็ดลับบริหารการเงินและลงทุนในภาวะเงินเฟ้อ จาก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เจ้าพ่อนักลงทุนกัน

รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ช่วยลดภาระหนี้ ธุรกิจไม่สะดุด

ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และวิกฤตที่รุมเร้าเข้ามา อาจทำให้ธุรกิจต้องสะดุด ขาดสภาพคล่องเลยอยากชวนมารีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ อย่างน้อยเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใช้หนี้ออกไป ช่วยลดดอกเบี้ย ไปจนถึงอาจได้เงินอีกสักก้อนมาช่วยหมุนเวียนในธุรกิจ

ขายดีอย่างไรไม่ให้มีความเสี่ยง 5 เคล็ดลับบริหารสภาพคล่องจาก บสย.

อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเอสเอ็มอีต้องสะดุดหยุดชะงักหรือไปต่อได้ไม่สุด คือ เงินทุนที่มีอยู่จำกัดจำเขี่ย ต่อให้ขายดีเพียงใด ถ้าไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็กู้เงินจากธนาคารไม่ได้