ธพว. เดินหน้า “สินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน”ดอกเบี้ย 1 เปอร์เซ็นต์




     ธพว. พร้อมคิกออฟ “สินเชื่อ SMEโตไว ไทยยั่งยืน” วงเงิน  3,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ในวันที่ 15 พ.ย. นี้ ณ  สอจ. ทั่วประเทศ  คาดหนุนเอสเอ็มอีได้มากกว่า 1,500 ราย  เงินสะพัด 13,800 ล้านบาท รักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 7,500 คน
 

      กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank   เผยว่า จากที่ธนาคารได้รับมอบหมายจากรัฐบาล โดยกระทรวงอุตสาหกรรม  ให้เป็นผู้ดำเนินการอนุมัติสินเชื่อโครงการกองทุน “สินเชื่อ SMEโตไว ไทยยั่งยืน” วงเงิน  3,000 ล้านบาท  อัตราดอกเบี้ย 1 เปอร์เซ็นต์ ต่อปีตลอดอายุสัญญา วงเงินกู้สูงสุด  3 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี ปลอดเงินต้น สูงสุด 1 ปี โดยจะเปิดรับคำขอกู้พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562 นี้ ณ สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ หรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.)  ทั่วประเทศ
 

      ขณะนี้ ธพว. เตรียมความพร้อมการให้บริการทุกขั้นตอนแล้ว  เบื้องต้น นัดเข้าประชุมหารือร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ทั่วประเทศ เพื่อประสานความร่วมมือให้หลังจากเปิดรับคำขอกู้ในวันที่ 15 พ.ย. นี้ จะสามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ทันทีโดยไร้รอยต่อ  โดยหลังจาก สอจ. พิจารณาคุณสมบัติเสร็จเรียบร้อยและส่งต่อมาให้ ธพว.แล้ว  ทางเจ้าหน้าที่  ธพว. จะเข้าตรวจเยี่ยม และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการทันที  ตั้งเป้า พิจารณาอนุมัติและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันทำการ หลังได้รับคำขอกู้จาก สอจ.  และคาดว่าจะสามารถอนุมัติและเบิกจ่าย เต็มวงเงิน 3,000 ล้านบาท ภายในเวลา 3 เดือน
 

     “จากที่ผมได้รับมอบนโยบายจากท่านรองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ให้เร่งอนุมัติสินเชื่อดังกล่าว ให้ถึงมือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานราก  ผมจึงสั่งการให้  ธพว. เตรียมการล่วงหน้าต่างๆ ไว้ให้พร้อม และหลังจากได้รับคำขอกู้จาก สอจ.มาแล้ว    ดำเนินการขั้นตอนต่างๆ อย่างเร่งด่วน เพื่อจะอนุมัติและเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเวลา 15 วันทำการ” นายกอบชัย กล่าว  
 

     ทั้งนี้จากโครงการกองทุน “สินเชื่อ SMEโตไว ไทยยั่งยืน”  จะสนับสนุน SME กลุ่มนิติบุคคล ได้มากกว่า 1,500 ราย โดยเฉลี่ยวงเงินอนุมัติประมาณ 2 ล้านบาทต่อราย  ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบได้ไม่ต่ำกว่า 13,800 ล้านบาท และรักษาการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 7,500 คน
 

      สำหรับสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน  กำหนดคุณสมบัติต้องเป็นผู้ประกอบการนิติบุคคล  ประเภทผลิต บริการ ค้าส่ง ค้าปลีก  และไม่เคยได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนดอกเบี้ยพิเศษจากกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 
 

     วัตถุประสงค์ของสินเชื่อดังกล่าว เพื่อนำไปใช้เป็นเงินลงทุน ปรับปรุงกิจการ หรือลงทุนและเป็นเงินทุนหมุนเวียน  กำหนดธุรกิจเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม ธุรกิจเกษตรแปรรูป (Agro Industry) ประเภทอาหารและไม่ใช่อาหาร  2.อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (Creative Industry) ธุรกิจเพื่อสุขภาพ เช่น กีฬา นันทนาการ การแพทย์ และสปา  ธุรกิจภาพยนตร์ วีดีทัศน์ และทัศนศิลป์  ธุรกิจการกระจายเสียงและดนตรี  ธุรกิจแฟชั่น เช่น สิ่งทอ เครื่องหนัง อัญมณี และเครื่องประดับ  ธุรกิจการโฆษณา และธุรกิจซอฟท์แวร์ และ 3.ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปรับปรุงกิจการ (Digital Transformation) เช่น เครื่องมือ  อุปกรณ์ควบคุมด้วยระบบซอฟท์แวร์ หรือระบบอัตโนมัติ
 

      นารถนารี รัฐปัตย์ รองกรรมการผู้จัดการ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank   กล่าวเสริมว่า สำหรับผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมสินเชื่อ SMEโตไวฯ นอกจากจะได้รับด้านเติมทุนแล้ว ทาง ธพว. ยังเพิ่มเติมมอบมาตรการเติมความรู้ ช่วยยกระดับให้ตรงความต้องการของผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มธุรกิจ เช่น เชิญร่วมกิจกรรมอบรมพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรอุตสาหกรรมสู่การส่งออก เชื่อมโยงสถาบันการศึกษานำนวัตกรรมผนึกกับธุรกิจสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า  พาจับคู่ธุรกิจกับคู่ค้าต่างชาติ  เปิดตลาดอีคอมเมิร์ซ ผ่านแพลตฟอร์มช้อปปิ้ง ออนไลน์ชื่อดังอย่าง Thailandpostmart.com  Shopee    Alibaba และ Lazada เป็นต้น  นอกจากนั้น  ส่งเสริมการตลาด ให้สิทธิออกบูธในงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่ธนาคาร และหน่วยงานพันธมิตรจะจัดขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
 



 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: FINANCE

หมัดเด็ด วิธีเอาชนะเงินเฟ้อ ฉบับคุณปู่ Warren Buffett ที่ใครก็ใช้ได้

หนึ่งในปัญหาของคนทำธุีกิจวันนี้คือ “ภาวะเงินเฟ้อ” เงินเท่าเดิม แต่กลับซื้อสินค้าและวัตถุดิบได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แถมขายของก็ไม่ได้ดีเหมือนเก่า เลยชวนมาดูเคล็ดลับบริหารการเงินและลงทุนในภาวะเงินเฟ้อ จาก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เจ้าพ่อนักลงทุนกัน

รวมสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ช่วยลดภาระหนี้ ธุรกิจไม่สะดุด

ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และวิกฤตที่รุมเร้าเข้ามา อาจทำให้ธุรกิจต้องสะดุด ขาดสภาพคล่องเลยอยากชวนมารีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ อย่างน้อยเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใช้หนี้ออกไป ช่วยลดดอกเบี้ย ไปจนถึงอาจได้เงินอีกสักก้อนมาช่วยหมุนเวียนในธุรกิจ

ขายดีอย่างไรไม่ให้มีความเสี่ยง 5 เคล็ดลับบริหารสภาพคล่องจาก บสย.

อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเอสเอ็มอีต้องสะดุดหยุดชะงักหรือไปต่อได้ไม่สุด คือ เงินทุนที่มีอยู่จำกัดจำเขี่ย ต่อให้ขายดีเพียงใด ถ้าไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็กู้เงินจากธนาคารไม่ได้