จากนโยบายภาครัฐส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรม ทำให้การลงทุนจากกลุ่มทุนไทยและต่างประเทศขยายตัวอย่างสูง ส่งผลดีเชื่อมมายังธุรกิจ SME ในการเป็นฐานผลิตสินค้าให้แก่บริษัทในนิคมฯ แต่อย่างไรก็ตาม คู่ค้ารายใหญ่ที่อยู่ในนิคมฯ โดยเฉพาะบริษัทต่างชาติ มักจะมีเงื่อนไขว่า เมื่อ SME วางบิลแล้ว กว่าจะเรียกเก็บเงินจริงได้ ต้องใช้เวลาอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ทำให้ธุรกิจ SME ซึ่งมีสายป่านสั้น ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการออกบริการสินเชื่อใหม่ “โครงการสินเชื่อ Factoring เสริมแกร่ง คู่ค้าการนิคมอุตสาหกรรม” เพื่อช่วยตอบโจทย์ให้ผู้ประกอบการมีเงินทุน นำไปใช้ขับเคลื่อนธุรกิจได้ต่อเนื่อง ไม่เกิดปัญหาสะดุด
ในเรื่องนี้ มงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า สำหรับ “โครงการสินเชื่อ Factoring เสริมแกร่ง คู่ค้าการนิคมอุตสาหกรรม” เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ซึ่งมีลูกหนี้การค้าที่มีสถานประกอบการหรือสาขาที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม เขตประกอบการอุตสาหกรรม หรือชุมชนอุตสาหกรรม หรือสวนอุตสาหกรรม เพียงนำเอกสารการแจ้งหนี้ของลูกหนี้การค้าที่ผ่านการวางบิลเรียบร้อยแล้ว มาเปลี่ยนเป็นเงินสดกับธนาคารได้ โดยไม่ต้องรอครบกำหนดเรียกเก็บเงินจากลูกหนี้การค้า ช่วยให้ผู้ประกอบการ SME มีเงินสดไปใช้จ่ายหมุนเวียนในการทำธุรกิจคล่องตัว ไม่ติดขัด ไม่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง และยังเพิ่มศักยภาพการแข่งขันธุรกิจ
สำหรับคุณสมบัติผู้กู้ ต้องเป็นนิติบุคคล ดำเนินธุรกิจมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี ไม่มีประวัติการละทิ้งงาน หรือถูกบอกเลิกสัญญา วงเงินรวมของโครงการ 3,000 ล้านบาท ระยะเวลาโครงการ 1 ปี หรือจนกว่าจะหมดวงเงินสินเชื่อรวมของโครงการ โดยธนาคารจะรับซื้อสูงสุดถึง 90% ของมูลหนี้ทางการค้า และกรณีลูกหนี้การค้าชำระหนี้โดยโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ประกอบการเอง รับซื้อสูงสุด 80% วงเงินสินเชื่อตั้งแต่ 100,000 บาทถึงสูงสุด 15 ล้านบาท ดอกเบี้ยอัตราพิเศษMFR+1ต่อปี(ปัจจุบัน MFR =6.75% ต่อปี) ให้เครดิตนานถึง 180 วัน ฟรีค่าธรรมเนียมบริการ และที่สำคัญ เบิกจ่ายเงินภายในวันเดียว
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี