ธนาคารไทยพาณิชย์ ต่อยอดวิสัยทัศน์กลับหัวตีลังกา (Going Upside Down) ชูกลยุทธ์ Digital Partnership จับมือเครือข่ายพันธมิตรกว่า 50 รายครอบคลุมทุกบริการมอบโซลูชั่นดิจิตอลเพื่อพัฒนาศักยภาพ SME ไทยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ พิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ด้วยกระแสการเติบโตของเทคโนโลยีและดิจิตอลรวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ประกอบการ SME ไทยต้องมีการปรับตัวเพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
“ภายใต้กลยุทธ์ Digital Partnership ธนาคารไทยพาณิชย์จะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า SME กับบริษัทผู้ให้บริการด้านต่างๆที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลและระบบออนไลน์เป็นเครื่องมือในการบริการลูกค้า เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจหรือแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบการที่มีอยู่ (pain point) ด้วยต้นทุนที่ถูกลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มช่องทางการขายสินค้าบนระบบดิจิตอลที่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพลดขั้นตอนและความยุ่งยากทำให้สินค้าถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายให้กับ SME ได้มากขึ้น”
ด้านหนึ่งในตัวแทนจากพันธมิตร บุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เรดดี้ แพลนเน็ต จำกัด บอกว่า บริษัทจะเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการตลาดออนไลน์ด้วยโซลูชั่นบริการด้านเว็บไซต์สำเร็จรูป การพัฒนาโมบายแอปพลิเคชัน โฆษณาออนไลน์ ระบบอีเมลมาร์เก็ตติ้งและระบบต่างๆที่จะช่วยให้ SME มีหน้าร้านบนโลกดิจิตอลได้อย่างง่ายๆเพื่อเป็นอีกทางหนึ่งในการขยายช่องทางการขายให้กับผู้ประกอบการ โดยบริษัทมีประสบการณ์ในการให้บริการกับลูกค้ามาแล้วกว่า 17,000 ราย
สำหรับโซลูชั่นด้าน e-Commerce ทางธนาคารมีการจับมือกับ บริษัท ซีแมนทิค ทัช จำกัด ผู้ให้บริการระบบ e-Commerce Web Application ที่มีชื่อว่า BentoWeb เข้ามาให้บริการผู้ประกอบการ โดย ณัฐเศษ ศิรินันท์ธนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บอกว่า BentoWeb เป็นระบบ e-Commerce ครบวงจรที่จะเข้ามาดูแลเรื่องการจัดการและช่วยให้ SME ทำ e-Commerce ได้ง่ายขึ้นและมีช่องทางขายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้ผู้ประกอบการเปิดร้านขายสินค้าและบริการบนโลกออนไลน์ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ให้บริการเช่าพื้นที่ฝากร้าน บริการตกแต่งออกแบบเว็บไซต์หน้าร้าน รวมถึงบริการข้อมูลและเครื่องมือในการทำการตลาด
ด้าน จิโรจ โหราไทย รองประธานกรรมการ บริษัท ฟาสต์เวิร์ค เทคโนโลยีส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ฟาสต์เวิร์ค เป็นฟรีแลนซ์แพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ SME สามารถเข้ามาใช้บริการบนเว็บไซต์เพื่อหาฟรีแลนซ์มาช่วยในการทำแบรนด์ดิ้งให้มีความแตกต่างจากท้องตลาดด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เช่น หาคนทำกราฟฟิก ออกแบบ ทำการตลาด ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ปรึกษาเรื่องการทำบัญชีไปจนถึงการจ้างเน็ตไอดอลสำหรับการโฆษณาสินค้า
สำหรับการจัดการด้านโลจิสติกส์นั้น ธฤษ ตัณฑเสถียร Chief Operating Officer บริษัท MyCloudFulfillment บอกว่า หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ SME ไม่สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องเพราะมีการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทางบริษัทจึงเข้ามาช่วยในการให้บริการด้านระบบจัดการคลังสินค้า การรับออเดอร์จากหลากหลายช่องทาง การตรวจและแพ็คสินค้าและการส่งสินค้าไปสู่ช่องทางการขายทุกช่องทาง ทำให้ผู้ประกอบการมีการจัดการที่ดีขึ้น ประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการจัดเก็บสินค้าได้
นอกจากนี้ ยังได้ บริษัท แอ็คเคาท์ติ้ง ทรานส์ฟอร์เมชั่นส์ จำกัด เข้ามาเป็นพันธมิตรเพื่อช่วยดูแลและให้บริการด้านบัญชีบนระบบออนไลน์อย่างครบวงจร โดยทาง ดร. พณชิต กิตติปัญญางาม Co Founder AccRevo บอกว่า การสร้างข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้อง รวดเร็วและน่าเชื่อถือนั้นมีประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการซึ่งสามารถนำไปใช้ในการบริหารและส่งต่อให้ผู้ถือหุ้นหรือนักลงทุนเพื่อดูผลประกอบการของบริษัทได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ SME ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามสิทธิที่พึงได้อีกด้วย รวมถึงยังช่วยลดต้นทุนของค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานบัญชีประจำ ผู้ตรวจสอบบัญชีและลดปัญหาต่างๆของการทำบัญชีได้
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี