การเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ประกอบการ SME ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อใช้ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ แต่ที่ผ่านจะเห็นว่า SME รายเล็กยังประสบกับปัญหาไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ ด้วยเหตุนี้ จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 ได้เห็นชอบและอนุมัติมาตรการพิเศษเพื่อขับเคลื่อน SME สู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 โดยอนุมัติ “โครงการฟื้นฟูและเสริมศักยภาพวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสำหรับ SME คนตัวเล็ก” วงเงิน 8,000 ล้านบาท โดยผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆ เปิดโอกาสให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำพิเศษได้มากกว่าปกติ
ดร.พสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือSME Development Bank) กล่าวว่า สินเชื่อดังกล่าวนี้ ต้องการสนับสนุน SME คนตัวเล็ก ที่เป็นนิติบุคคลและมีปัญหาทางการเงิน ซึ่งเดิมเข้าถึงแหล่งทุนของสถาบันการเงินได้ยาก แต่กิจการยังมีศักยภาพดำเนินต่อไปได้ และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ให้ได้รับโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อนำไปใช้ฟื้นฟูปรับปรุงกิจการ เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ หรือพัฒนากิจการให้มีประสิทธิภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างเศรษฐกิจจากฐานราก (Local Economy) เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SME รายย่อยเข้าสู่ระบบตามนโยบายรัฐบาลด้วย
สำหรับแนวทางดำเนินการนั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ (กอป.) มอบหมายให้ ธพว. เป็นหน่วยร่วมดำเนินการทำหน้าที่ผู้จัดการโครงการ ทั้งรับคำขอกู้ วิเคราะห์โครงการ และอนุมัติสินเชื่อ เป็นต้น สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการ SME รายย่อยคนตัวเล็กที่อยู่ในข่ายได้รับการสนับสนุนสินเชื่อนี้ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ส่วนบุคคลธรรมดายื่นขอกู้ได้เช่นกัน แต่ต้องจดทะเบียนนิติบุคคลให้เสร็จ ก่อนอนุมัติสินเชื่อ มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวรไม่รวมที่ดินไม่เกิน 50 ล้านบาท และ ณ วันยื่นขอกู้ต้องไม่เป็น NPL หรือ ไม่ถูกดำเนินคดี นอกจากนี้ผู้กู้ต้องมีบัญชีรับ-จ่าย หรือระบบบัญชีชุดเดียวในกิจการเท่านั้น
ส่วนประวัติการชำระหนี้ก่อนวันยื่นกู้ กรณีลูกหนี้ปกติ ในช่วง 12 เดือนนี้ ชำระหนี้ล่าช้าได้ไม่เกิน 3 ครั้ง สำหรับกรณีเคยปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือเคยปรับโครงสร้างหนี้ ต้องชำระหนี้มาแล้ว 4 งวดติดต่อ ไม่เคยค้างหลังมีการปรับเงื่อนไขหรือโครงสร้างหนี้ และหากชำระหนี้มาแล้วมากกว่า 4 งวด ให้ชำระหนี้ล่าช้าได้ไม่เกิน 2 ครั้ง
นอกเหนือจากคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้นแล้ว ผู้กู้ต้องไม่อยู่ระหว่างการได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนสนับสนุนสินเชื่อจาก กองทุนพลิกฟื้น วงเงิน 1,000 ล้าน หรือ กองทุนฟื้นฟู วงเงิน 2,000 ล้านบาท จากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัว และหัตถกรรมไทย จากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการขอกู้ ต้องนำเงินไปใช้ลงทุน ขยาย ปรับปรุง พัฒนากิจการให้มีประสิทธิภาพและขีดความสามารถเพิ่มขึ้น รวมถึงลงทุนเริ่มต้นธุรกิจ สร้างธุรกิจใหม่ หรือใช้เป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ กำหนดวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้น สูงสุด 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1%ต่อปีตลอดอายุสัญญา สำหรับกรณีผู้กู้เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ให้วงเงินสูงสุดกู้ไม่เกิน 200,000 บาท หากมีผลการชำระหนี้เป็นปกติไม่น้อยกว่า 3 งวด หรือตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด แต่ไม่น้อยกว่า 3 เดือนให้สามารถขอวงเงินเพิ่มได้ตามความเหมาะสม และความสามารถในการชำระหนี้ โดยสามารถยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไปจนกว่าจะหมดวงเงิน เชื่อว่าจะมีผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อกว่า 27,000 ราย เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้จากฐานราก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 36,640 ล้านบาท
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี