Text : กองบรรณาธิการ
ถ้าพูดถึงคำว่า “บัญชี” ดูเหมือนว่าจะเป็นยาขมประเภทหนึ่งที่ SME หลายๆ คนเมินหน้าหนี และกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ธุรกิจเกิดช่องโหว่และอาจนำพามาซึ่งความล้มเหลวในอนาคตได้ แต่จะว่าไปปัจจุบัน บัญชีถูกทำให้เป็นงานที่สามารถทำได้ง่ายขึ้น แม้แต่คนที่ไม่มีความรู้ด้านนี้เลยก็ตามก็สามารถที่จะจัดการงานบัญชีได้ เนื่องด้วยเทคโนโลยีได้เอื้อให้เกิดการพัฒนา จนกลายเป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ ที่สามารถเข้ามาปิดจุดอ่อนและเพิ่มโอกาสให้ SME ได้มากขึ้น
Peak ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมบัญชีออนไลน์สำหรับผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะ เนื่องจากเกิดขึ้นมาด้วยแนวคิดของ ภีม เพชรเกตุ ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของ Puun Intelligent Co.,Ltd. ที่ต้องการจะหาทางแก้ปัญหาและจัดการกับงานบัญชีที่มีตัวเลขและรายการทางธุรกิจ ซึ่งต้องใช้วิธีการลงบันทึกแบบเดิมๆ สรุปงานกันวันต่อวัน ให้เปลี่ยนมาเป็นระบบเรียลไทม์ออนไลน์
“ด้วยความที่อยู่ในสายงานด้านการเงินการบัญชีมาตลอดทำให้เราเห็นปัญหาว่า มีการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันมาก เพราะในทุกๆ สิ้นเดือน ผู้ประกอบการจะต้องเอาข้อมูลบัญชีธุรกิจ เช่น ใบเสร็จ เอกสารต่างๆ ใส่ซอง แล้วก็ส่งให้สำนักงานบัญชี ทางสำนักงานบัญชีก็เอาข้อมูลของผู้ประกอบการนั้นไปเข้าโปรแกรมบัญชีของเขาอีกทีหนึ่ง ซึ่งมันเป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน อีกด้านหนึ่งคือผู้ประกอบการเองก็เอาข้อมูลที่มีไปใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ก็คือทุกวันนี้เขาทำบัญชีเอาไว้เพื่อส่งงบหรือทำเรื่องภาษีมากกว่าที่จะนำไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นซึ่งมีความจำเป็นมาก”
แต่แท้จริงแล้ว ภีมบอกว่า ผู้ประกอบการ SME ควรให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลการเงิน เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะในปี 2562 ธนาคารที่จะให้กู้แก่ผู้ประกอบการจะต้องใช้งบจากกรมสรรพากรเท่านั้น ดังนั้น SME ควรจะมุ่งไปที่การทำบัญชีเดียว เหตุผลไม่ได้อยู่ที่รัฐเก็บภาษีได้ แต่เหตุผลควรเป็นเพื่อให้ธุรกิจได้เติบโตดีขึ้น เพราะว่าธุรกิจจะโตได้ ระบบต้องดี และการที่ SME ยังไม่มีภาพที่ชัดเจนของธุรกิจตนเอง ก็ไม่ต่างกับการเดินโดยปิดตาข้างหนึ่ง และถ้ายิ่งไม่มีงบการเงินเลยหรือมีงบแต่ไม่เคยดูเลย ให้สำนักงานบัญชีส่งภาษีมาให้อย่างเดียว ก็เหมือนเดินไปแบบตาบอด และนั่นอาจกลายเป็นจุดจบของธุรกิจได้
ถามว่า Peak ทำอะไรได้บ้าง คำตอบก็คือ งานด้านเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้หรืออื่นๆ รายงานการบริหารเงินสด การจัดการสต๊อกสินค้า บริหารลูกค้า บริหารเช็ค รายงานความเป็นไปของธุรกิจ รวมแม้กระทั่งการถามตอบข้อปัญหาที่ผู้ประกอบการสงสัยจากนักบัญชีโดยตรงผ่านแชทของโปรแกรม เรียกได้ว่า Peak ถือเป็นซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้ SME ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ Peak ยังจะมีข้อมูลในเชิงการทำงานของระบบอย่างครบถ้วนด้วย เช่น ผู้ประกอบการอาจจะพอรู้ว่าสินค้าตัวไหนขายดี แต่ก็ไม่รู้ว่าขายดีกว่าอันดับสองอันดับสามขนาดไหน หรือสินค้าที่ขายไม่ดีมีตัวไหนบ้าง ค้างสต๊อกนานแค่ไหน ดังนั้น Peak จะมีข้อมูลในระดับ Operation พวกนี้ เพื่อแจ้งเตือนและวิเคราะห์ข้อมูลให้กับผู้ประกอบการได้ รวมถึงเรื่องการเงินอื่นๆ ด้วย
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ Peak คือ การเจาะไปที่กลุ่ม SME โดยเฉพาะ ซึ่งวางเอาไว้ 3 กลุ่มด้วยกัน
1. สำนักงานบัญชี เนื่องจากกลุ่มนี้ต้องทำหลากหลายธุรกิจ มีลูกค้าหลายคน ทำบัญชีให้หลายแห่ง จึงควรจะต้องมีเครื่องมือที่ช่วยให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผู้ประกอบการและนักบัญชีทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ข้อมูลก็จะลิงค์กัน ไม่ต้องเสียเวลาคีย์อินข้อมูลซ้ำ ลูกค้าก็ได้ข้อมูลเรียลไทม์
2. กลุ่ม SME แบบ B to B Selling กับ B to B Services ซึ่งหลักๆ ก็เป็น B to B โดยทั่วไป เป็นกลุ่มที่ตอบโจทย์ได้ตรงตัว เพราะมี Process อย่างเช่น มีใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ หรือใบเสร็จ ก็จะเป็นฟอร์แมตของธุรกิจที่เป็น B to B เป็นหลัก
3. กลุ่ม e-Commerce โดยใช้หลักการของ API (Application Programming Interface) คือให้โปรแกรมคุยกัน พอมีการขายเกิดขึ้นโปรแกรมก็จะส่งข้อมูลมาให้บัญชี ซึ่งตรงนี้ทำให้ไม่ต้องมานั่งคีย์ข้อมูลซ้ำ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
RECCOMMEND: FINANCE
หนึ่งในปัญหาของคนทำธุีกิจวันนี้คือ “ภาวะเงินเฟ้อ” เงินเท่าเดิม แต่กลับซื้อสินค้าและวัตถุดิบได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แถมขายของก็ไม่ได้ดีเหมือนเก่า เลยชวนมาดูเคล็ดลับบริหารการเงินและลงทุนในภาวะเงินเฟ้อ จาก “วอร์เรน บัฟเฟตต์” เจ้าพ่อนักลงทุนกัน
ภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ และวิกฤตที่รุมเร้าเข้ามา อาจทำให้ธุรกิจต้องสะดุด ขาดสภาพคล่องเลยอยากชวนมารีไฟแนนซ์สินเชื่อธุรกิจ อย่างน้อยเพื่อช่วยยืดระยะเวลาการใช้หนี้ออกไป ช่วยลดดอกเบี้ย ไปจนถึงอาจได้เงินอีกสักก้อนมาช่วยหมุนเวียนในธุรกิจ
อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเอสเอ็มอีต้องสะดุดหยุดชะงักหรือไปต่อได้ไม่สุด คือ เงินทุนที่มีอยู่จำกัดจำเขี่ย ต่อให้ขายดีเพียงใด ถ้าไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันก็กู้เงินจากธนาคารไม่ได้