Text: Neung Cch.
Photo : สุนันท์ ล้อสมทรัพย์
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจเข้มข้นขึ้นทุกวัน ผู้ประกอบการ SME ไทยหลายรายอาจรู้สึกว่าการเติบโตเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะเมื่อขาดแคลนเงินทุนและโอกาส แต่สำหรับ ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ MAI และ Live Exchange ที่มีประสบการณ์ในวงการตลาดทุนมากว่า 20 ปี เขาย้ำว่า “การระดมทุนคือกลไกสำคัญที่จะพา SME ไปสู่ความสำเร็จ” และ Live Exchange คือบันไดขั้นแรกที่ SME ทุกขนาดต้องรู้จัก
เมื่อปีที่แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ MAI เพิ่งฉลองครบรอบ 25 ปี และก้าวสู่ปีที่ 26 ในปี 2568 ด้วยจำนวนบริษัทจดทะเบียน 222 ราย ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่สถิติ แต่สะท้อนความสำเร็จของ MAI ที่ช่วยให้ SME เติบโตจนมี 63 บริษัทขยับไปอยู่ใน SET และอีก 33 รายพร้อมรอจังหวะ แต่สำหรับ SME ที่ยังไม่พร้อมลุย MAI หรือ SET ล่ะ? นี่คือที่มาของ Live Exchange ตลาดทุนที่ออกแบบมาเพื่อ SME โดยเฉพาะ ซึ่งประพันธ์มองว่าเป็น “บันไดขั้นแรก” สู่การเติบโตที่ง่าย เร็ว และเข้าถึงได้
MAI ความสำเร็จที่พิสูจน์แล้ว
ก่อนจะเข้าใจว่า Live Exchange ดีอย่างไร ต้องย้อนดูความสำเร็จของ MAI ที่เป็นรากฐานสำคัญ “ถ้ามองย้อนไป 25 ปี MAI ทำงานได้ดีตามไอเดียตั้งต้น” ประพันธ์กล่าว “เราอยากให้บริษัทขนาดกลางและเล็กเข้ามาระดมทุนแล้วเติบโต” ตัวเลขยืนยันชัดเจน: 222 บริษัทระดมทุน IPO ไป 95,000 ล้านบาท และหลังเข้าตลาดยังระดมทุนเพิ่มได้อีก 135,000 ล้านบาทผ่านเครื่องมือทางการเงิน เช่น การเพิ่มทุน
สิ่งที่ SME ได้จาก MAI ไม่ใช่แค่เงิน แต่รวมถึงระบบบัญชี การควบคุมภายใน ภาพลักษณ์ และโอกาสขยายธุรกิจ “จากโชว์ห่วยกลายเป็นบริษัทใส่สูท” ประพันธ์ยกตัวอย่างบริษัทโลจิสติกส์ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์หลังเข้าตลาด แต่กว่าจะถึงจุดนี้ ต้องใช้เวลากว่า 10 ปีในการปรับทัศนคติ ผู้ประกอบการให้เปิดใจยอมรับ MAI จากคำพูดอย่าง “รอโตกว่านี้แล้วไป SET เลยดีกว่า” หรือ “MAI เล็กเกินไป” สู่การยอมรับว่า MAI คือแหล่งระดมทุนที่เปลี่ยนอนาคตได้จริง
ตัวอย่างจริง: ธนพิริยะ จากโชว์ห่วยภูมิภาคสู่มหาชนระดับประเทศ
หนึ่งในเรื่องราวที่ประพันธ์ชื่นชมคือ ธนพิริยะ ธุรกิจค้าปลีกจากเชียงราย “เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาเริ่มจาก 15 สาขา วันนี้ขยายเป็น 70 สาขาในภาคเหนือ รายได้และกำไรโตต่อเนื่อง มาร์จิ้นสูงถึง 4-5% ในขณะที่ค้าปลีกทั่วไปทำได้แค่ 1-2%” ประพันธ์เล่าด้วยความประทับใจ “เขาเก่งเรื่องบริหารจัดการและเลือกสินค้าไฮมาร์จิ้น” หลังเข้าตลาด ธนพิริยะไม่เพียงเติบโต แต่ยังชวนเพื่อน SME อื่นๆ แชร์ประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจท้องถิ่นเห็นว่าการระดมทุนคือทางเลือกที่คุ้มค่า
Live Exchange: บันไดขั้นแรกของ SME
ในขณะที่ MAI และ SET ตอบโจทย์บริษัทขนาดกลางถึงใหญ่ Live Exchange ซึ่งเปิดตัวเมื่อ 31 มีนาคม 2565 (ครบ 3 ปีแล้ว) ถูกออกแบบมาเพื่อ SME และสตาร์ทอัพที่ยังไม่พร้อมสำหรับเกณฑ์สูงๆ “เราอยากให้ตลาดทุนเป็นประโยชน์กับคนไทยทุกคน” ประพันธ์อธิบาย “Live Exchange คือบันไดขั้นที่ 1 ช่วย SME ระดมทุนด้วยเกณฑ์ที่ผ่อนคลาย ค่าใช้จ่ายถูกลง และระยะเวลาเร็วขึ้น เพื่อให้เติบโตไปสู่ MAI และ SET
ตลาดลงทุน Live Exchange ดีอย่างไร?
ระดมทุนไว จากเดิมที่ต้องยื่นงบ 3 ปี Live Exchange ขอแค่งบชุดใหญ่ 1 ปี ช่วยลดเวลาเตรียมตัวลงครึ่งหนึ่ง
ค่าใช้จ่ายถูกลง 50% ไม่บังคับมีที่ปรึกษาทางการเงินเต็มรูปแบบ ค่าใช้จ่ายลดจากหลักล้านเหลือหลักแสน
เกณฑ์ยืดหยุ่น ไม่เน้นกำไร แต่ดูรายได้ (50 ล้านบาทสำหรับภาคการค้า, 100 ล้านบาทสำหรับภาคบริการ) หรือถ้ามี Venture Capital (VC) ร่วมลงทุนก็เข้าได้
เติบโตเป็นขั้น เป็นเหมือน Pre-IPO Market ที่มีกฎหมายรองรับชัดเจน ช่วยปูทางไป MAI และ SET
พัฒนาระบบงาน ได้ทั้งเงินทุนและโอกาสอัปเกรดบัญชี ควบคุมภายใน และภาพลักษณ์
“เราไม่ได้อยากให้บริษัทอยู่แค่ Live Exchange ตลอดไป” ประพันธ์ย้ำ “เป้าหมายคือให้เขาระดมทุนที่นี่ แล้วเติบโตต่อไป”
ความสำเร็จแรกเริ่ม: 6 บริษัทใน 3 ปี
ตั้งแต่เปิดตัว Live Exchange มี 6 บริษัทเข้ามาจดทะเบียนแล้ว เช่น แอดวานซ์ เว็บ เซอร์วิส (ด้านไอที) และ เอ็มเอ็ม (อสังหาริมทรัพย์) ที่ระดมทุนในปี 2566 และเตรียมย้ายไป MAI ในปี 2568 “บริษัทได้เงินไปขยายธุรกิจ และเริ่มเห็นการเติบโตชัดเจน” ประพันธ์กล่าว เขามองว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปีกว่าจะเห็นผลเต็มที่ เพราะ SME ต้องผ่าน life cycle 2 รอบ ระดมทุน และเติบโตไปสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น
ข้อควรระวังก่อน SME จะระดมทุน
ประพันธ์เน้นว่า Live Exchange เหมาะกับ SME ที่พร้อมเติบโต “ข้อดีคือได้เงินทุน ระบบงาน ภาพลักษณ์ และโอกาส” แต่ก็มีสิ่งที่ต้องระวัง เช่น
อำนาจตัดสินใจลดลง มีคณะกรรมการและผู้ถือหุ้นเข้ามาเกี่ยวข้อง
การเปิดเผยข้อมูล ต้องโปร่งใสตามกฎหมาย
ความคาดหวังจากผู้ถือหุ้น ต้องสร้างผลตอบแทนให้คุ้มค่า
กฎหมาย ต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และ พ.ร.บ.มหาชน
“ไม่ใช่ทุกธุรกิจเหมาะกับการเข้าตลาด” เขากล่าว “ถ้าธุรกิจโตแค่ 5-10% ต่อปี อาจไม่คุ้ม แต่ถ้ามีเป้าหมายใหญ่ Live Exchange คือจุดเริ่มต้นที่ดี”
Live Platform ตัวช่วยฟรีสำหรับ SME
นอกจาก Live Exchange ตลาดหลักทรัพย์ยังมี Live Platform แพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุน SME ได้มีความพร้อม ความรู้เพื่อเข้าใจในการระดมทุนในตลาด เช่น
Live Spark โครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการผ่านหลักสูตร e-Learning พร้อมเงินสนับสนุน 25,000 บาท
Live Incubation โปรแกรมสำหรับผู้ประกอบการอยากรู้เรื่องระดมทุน 3-4 วัน พร้อมเงินสนับสนุน 50,000 บาท
Live Acceleration: โปรแกรมสำหรับผู้ประกอบการอยากเข้าตลาด เรียน 2-3 เดือน พร้อมเงินสนับสนุนสูงสุด 1 ล้านบาท
“เรามีคอนเทนต์ออนไลน์กว่า 1,000 ชิ้น เทมเพลตฟรี และกูรูคอยตอบคำถาม” ประพันธ์เล่า “SME สามารถเรียนรู้และเตรียมตัวได้ทันที โดยผู้ที่เรียนจบจะได้รับเงินทุน แต่ถ้าเรียนไม่จบโดนยึดเงินประกัน”
อยากให้นึกถึงวันเริ่มต้นธุรกิจ
ปัจจุบัน SME รุ่นใหม่ตื่นตัวกับการระดมทุนมากขึ้น “จากที่เคยกลัวภาษีหรือการเปิดเผยข้อมูล วันนี้รุ่นลูกเข้ามาเปลี่ยน mindset มี VC เข้ามาเสริม ecosystem” ประพันธ์มองว่า Live Exchange ไม่ใช่แค่ตลาด แต่เป็นโอกาสที่ SME ไทยต้องรู้จักเพื่อก้าวไปข้างหน้า
“วันนี้การแข่งขันสูง อยากให้ผู้ประกอบการกลับไปทบทวนว่า เราเริ่มธุรกิจด้วยแพชชั่นอะไร และทำยังไงให้เติบโตอย่างยั่งยืน ปรับตัวให้ทันลูกค้า ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ ถ้าพร้อม Live Exchange คือบันไดขั้นแรกที่พาคุณไปถึงฝัน” ประพันธ์ฝากข้อคิดถึง SME ที่ยังลังเล
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี