TEXT : Nitta Su.
จากความคิดถึงเมนูความทรงจำในวัยเยาว์ ที่เคยได้กินตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก ทำให้ เบญจมาภรณ์ คำบึงกลาง อดีตลูกจ้างหน่วยงานรัฐ จากจังหวัดเชียงราย คิดอยากรื้อฟื้นเมนูโปรด หากินได้ยาก ไม่ค่อยมีใครทำขาย อย่าง “ปูอ่อง” หรือ อ่องมันปู อาหารประจำถิ่นภาคเหนือขึ้นมา
ไม่น่าเชื่อว่าจากความชอบจะทำให้แบรนด์มาไกล จนติดอันดับขายดีเป็นเบอร์ 1 บนแอปช้อปปิ้งออนไลน์ยอดฮิตอย่างช้อปปี้ แถมยังเคยทำรายได้สูงสุด 3-4 แสนบาทต่อเดือนได้ เรื่องราวเป็นมายังไง ไปดูกัน
ลงทุนด้วยเงิน 4,000 ถูกโกงตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำ
เบญจมาภรณ์ เล่าว่าย้อนไปเมื่อ 7-8 ปีก่อน ตอนนั้นเธอทำงานเป็นลูกจ้างอยู่ในเทศบาลตำบลเมืองพาน จ.เชียงราย โดยก่อนหน้านั้นหลายปีเคยไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดไกลบ้าน ทำให้เกิดความคิดถึงเมนูโปรดอย่าง ปูอ่อง ที่คุณยายชอบทำให้กินสมัยตอนเป็นเด็กๆ เพราะหาทานได้ยาก กระทั่งได้กลับมาทำงานที่บ้านคิดว่าจะหากินได้ง่ายขึ้น แต่ก็กลับรสชาติไม่ถูกปาก ไม่เหมือนที่ยายเคยทำให้กิน จึงทดลองไปซื้อปูมาทำกินเอง เมื่อได้รสชาติที่ถูกใจ เลยแบ่งปันให้กับคนรอบตัวได้ชิมบ้าง ผลปรากฏได้รับเสียงตอบรับที่ดี กลายเป็นที่มาของการเริ่มต้นทำธุรกิจขึ้นมา
“จริงๆ ตอนนั้นทำงานเป็นช่างไฟอยู่ในเทศบาลฯ และก็มีอาชีพเสริม คือ ขายของออนไลน์ด้วย ซึ่งเป็นความถนัดอีกอย่างหนึ่งของเรา สินค้าอะไรดี เป็นกระแส ก็เอามาขาย ขายดี จนมีตัวแทนจำหน่าย พอลองทำปูอ่อง แล้วมีคนชอบ ก็เลยอยากทำเป็นแบรนด์ขายด้วย ใช้ชื่อตรงๆ ว่า “ปูอ่องอุ้ยหม่อน” เลย เพราะเป็นสูตรมาจากคุณยาย ซึ่งเอามาจากคุณยายทวดอีกที
“ตอนนั้นยังอยู่บ้านเช่าหน้าวัด เดือนละ 2,500 บาท ข้างหน้าเปิดเป็นร้านขายกางเกงยีนส์เพิ่ม หลังร้านก็ทำปูอ่องขาย ปรากฏว่าขายดี จนต้องขยายพื้นที่ ย้ายไปเช่าตึก 4 ชั้น เราเริ่มต้นด้วยงบ 4,000 บาท แต่ก็ไม่วายถูกโกง จ่ายเงินไปแล้ว แต่ของไม่มาส่ง อีกไม่กี่วันต้องส่งให้ลูกค้า เงินก็ไม่มี ตอนนั้นกอดคอแม่ร้องไห้เลย เพราะเพิ่งเริ่มทำ ก็โดนโกงละ จนได้ยืมเงินแม่มาซื้อใหม่ หรืออย่างช่วงแรกเราทำใส่กระปุกพลาสติกธรรมดา ปิดไม่สนิท ทำให้ตอนขนส่งเกิดรั่วออกมา ทำให้เน่าเสีย ก็ต้องคืนเงินลูกค้าไปทั้งหมด ต่อมาเลยเปลี่ยนเป็นขวดแก้ว คือ ปัญหามีมาเรื่อยๆ เพราะเราถือเป็นเจ้าแรกๆ ด้วยที่ทำแบรนด์ปูอ่องออกมาขายแบบจริงจัง เป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ ก็เลยมีอุปสรรคบ้าง”
ขายดีจนติดเบอร์ 1 แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์
หลังจากเปิดตัว ก็ได้รับเสียงตอบรับมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เบญจมาภรณ์เล่าว่าจากขายผ่านตัวแทนจำหน่าย ก็เริ่มเข้า Shopee จนขายดีติดอันดับ 1 ของสินค้าประเภทมันปู เคยทำรายได้สูงสุด 3-4 แสนบาทต่อเดือน โดยมองว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะหารับประทานได้ยาก ไม่ค่อยมีใครทำขาย อีกเหตุผลมองว่า เพราะตัวสินค้าเองที่เป็นปูออร์แกนิก เพราะจะต้องใช้ปูเป็น ที่ยังไม่ตาย เพื่อแกะเอามันออกมา ดังนั้นหากมีการใช้สารเคมี ปูก็จะตาย ไม่สามารถนำมาทำได้
เมื่อธุรกิจขยายเติบโตขึ้น จึงเริ่มหันมาพัฒนามาตรฐานการผลิตอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มโอกาสการขาย จนได้รับมาตรฐาน อย. ซึ่งถือเป็นจุดแข็งอีกอย่างของแบรนด์ เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ โดยส่วนนี้ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธพว. หรือ SME D Bank เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงขยายกำลังการผลิตและสต็อกวัตถุดิบเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
“จากที่เริ่มขาย ยอดขายดีมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงโควิด จนหลังจากนั้น 3-4 ปี ยอดไม่ตกลงเลย จนเราคิดว่ามันไม่ใช่แค่สินค้ากระแสแล้ว แต่มันสามารถเป็นอนาคตของเราได้ เลยเป็นจุดเปลี่ยนหันมาพัฒนามาตรฐานให้ดียิ่งขึ้น เพราะตอนนั้นคู่แข่งก็เริ่มมีเข้ามาเยอะขึ้น เราก็ต้องเริ่มขยับไปให้ไกลมากขึ้น”
โดยปัจจุบันมีการรับปูมาจากพื้นที่นาและฟาร์มของชาวบ้านกว่า 2,000 ไร่ กำลังการผลิตต่อวันอยู่ที่ 800-2,000 กระปุก มีให้เลือกหลายขนาด ได้แก่ 25 กรัม, 40 กรัม, 80 กรัม, 200 กรัม และ 450 กรัม มีทั้งหมด 4 สูตร ได้แก่ ปูอ่องสูตร 1 เข้มข้นที่สุดใช้มันปู 100%, สูตร 2 มันปู 90%, สูตร 3 มันปู 70% และสูตร 4 อ่องมันกุ้ง โดยสูตรขายดีที่สุด คือ ปูอ่องสูตร 1 โดยสามารถเก็บรักษานอกตู้เย็นได้ 7 วัน ช่องแช่แข็งได้นาน 3-6 เดือน นอกจากในประเทศมีการจำหน่ายผ่านตัวแทนหรือลูกค้าที่รับหิ้ว ส่งออกไปยัง 4 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลีและญี่ปุ่น
ครีเอทเมนูสร้างสรรค์เข้ากับวิถีคนยุคใหม่
นอกจากคุณภาพ อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับปูอ่องอุ้ยหม่อน ก็คือ การประยุกต์ให้เข้ากับวิถีคนรุ่นใหม่ โดยถึงจะเป็นเมนูพื้นบ้าน แต่มีการนำเสนอเมนูแปลกใหม่ เพื่อประยุกต์เข้ากับไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคนี้มากขึ้น
“ถึงสูตรปูอ่องของเราจะเป็นที่นิยมของลูกค้าอยู่แล้ว แต่เราก็พยายามนำเสนอเมนูใหม่ๆ ให้เขาไปประยุกต์ทำด้วย เช่น เอาไปทำข้าวผัดมันปู บางทีกลุ่มลูกค้าเองก็มีการช่วยกันครีเอทเมนูใหม่ๆ มานำเสนอ ทำให้เกิดคอมมูนิตี้ เราว่าเป็นอีกวิธีช่วยให้อาหารพื้นบ้านได้รับความนิยมต่อเนื่องไปได้ไกลขึ้น หรืออย่างเคยมีลูกค้าญี่ปุ่นมาซื้อไปลองรับประทาน เขาบอกว่าปูอ่องของเราคล้ายกับเมนู Kani Miso ของญี่ปุ่นเลย ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีเพื่อคิดต่อยอดไปในอนาคตได้”
ข้อมูลติดต่อ
Facebook : ปูอ่องอุ้ยหม่อนเชียงราย มันปูนาที่แท้ทรูและอาหารบ้านๆ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี