กระต่ายหมายจันทร์ ธุรกิจขายภาพดวงจันทร์ ที่ช่วยเก็บความทรงจำแสนพิเศษให้ผู้คนในวันนั้นๆ

TEXT : นิตยา สุเรียมมา

PHOTO : สุนันท์ ล้อสมทรัพย์

     ถ้านับตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือ ดาราศาสตร์ ‘ดวงจันทร์’ คือ ดาวบริวารดวงหนึ่งของโลกเหมือนกับดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ เพื่อคอยให้แสงสว่างในยามค่ำคืน แต่ในแง่ความรู้สึกดวงจันทร์เป็นตัวแทนของหลายสิ่ง ทั้งความคิดถึงของคนที่อยู่ห่างไกลกัน ความหวังของท้องฟ้ายามราตรีที่มืดสนิท ไปจนถึงความทรงจำอันแสนสวยงาม จะดีกว่าไหม? หากเราสามารถมีดวงจันทร์เป็นของตัวเองได้ กระต่ายหมายจันทร์ ธุรกิจแปลกขายภาพดวงจันทร์หนึ่งเดียวในไทย คือ สิ่งที่ช่วยคุณได้

จากความประทับใจวัยเยาว์ สู่นักล่าภาพดวงจันทร์

     จากภาพความทรงจำในวัยเด็ก ได้เห็นย่านอพอลโล 11 ลงจอดบนดวงจันทร์ในหนังสารคดีย้อนหลัง ใครจะคิดว่านั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ เจตน์ หรือ ดร.กอบกิจ จำจด เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่ง หันมาสนใจเรื่องดวงจันทร์และดาราศาสตร์ตั้งแต่วัยเยาว์ จากกล้องตัวแรกที่พ่อซื้อให้ต่อยอดสู่นักถ่ายภาพดวงจันทร์ที่เริ่มต้นขึ้นมาจากงานอดิเรก จนวันหนึ่งเมื่อภาพที่ถ่ายเก็บสะสมเอาไว้เริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้มองเห็นโอกาสธุรกิจ คงจะดีถ้ามีใครสักคนช่วยเก็บภาพความทรงจำดีๆ ผ่านพระจันทร์ในแต่ละค่ำคืนเอาไว้ให้ นี่คือ ความคิดในการเริ่มต้นธุรกิจของเขาที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อน

     “มันเริ่มมาจากตอนเด็กๆ ได้นั่งดูสารคดีย้อนหลังเกี่ยวกับยานอพอลโล่ 11 ยานอวกาศลำแรกของโลกที่ได้ขึ้นไปเหยียบพื้นดวงจันทร์ ทำให้เกิดความประทับใจ ตั้งแต่นั้นก็สนใจเรื่องดวงจันทร์มาตลอด จนเมื่อเริ่มโตขึ้นมาหน่อย คุณพ่อก็ซื้อกล้องถ่ายรูปให้ ก็เริ่มหัดถ่ายมาเรื่อยๆ รูปวิว, รูปผู้คน, รูปธรรมชาติ เคยทำเป็นโปสการ์ดขายด้วย พอหลังจากเรียนจบปริญญาตรี นิติศาสตร์ ก็เลยลงทุนซื้อกล้อง ซื้อเลนส์เองใหม่ เพื่อมาลองถ่ายรูปพระจันทร์ด้วยในทุกวันๆ จนเริ่มรู้สึกว่าจริงๆ ในแต่ละคืนน่าจะมีเด็กที่เกิดในวันนั้นๆ หรือผู้คนที่ต้องการเก็บความทรงจำดีในคืนนั้นไว้ ถ้ามีคนช่วยเก็บภาพความทรงจำเหล่านั้นให้พวกเขาเอาไว้ได้ ก็น่าจะดี เพราะผมเองตั้งเด็กคุณพ่อท่านตัดปฏิทินตอนวันผมเกิดเอาไว้ให้ พอเราโตขึ้นก็เอามาให้ดู เรายังรู้สึกดีเลย ก็เลยเปิดเพจขึ้นมาชื่อว่า “กระต่ายหมายจันทร์” มาจากการที่เราอยากเก็บภาพดวงจันทร์ไว้ในทุกวันๆ จากนั้นทำเป็นข้อมูลเก็บสะสมในแต่ละวัน เผื่อวันหนึ่งมีใครสนใจอยากได้เก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีบ้าง” เจตน์เล่าที่มาให้ฟัง

ไม่ใช่แค่งานอดิเรก แต่คือ ความรับผิดชอบ

     กระต่ายหมายจันทร์ เริ่มเปิดตัวขึ้นมาครั้งแรกในเดือนเมษายน 2559 หรือราว 8 ปีก่อน ซึ่งก็หมายความว่า หากอยากได้ภาพของดวงจันทร์สักวันหนึ่ง ตั้งแต่ปัจจุบันย้อนไปจนถึงเมื่อ 8 ปีก่อน สามารถมาหาได้จากที่นี่!

     ฟังดูเหมือนเป็นอาชีพที่น่าสนใจ ดูสนุก แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ในแต่ละวันเขาต้องตั้งใจเก็บภาพดวงจันทร์ให้ได้ ต้องคอยสังเกตเวลาขึ้น-ตก คืนเดือนมืด หรือเดือนหงาย บางครั้งต้องปลุกนาฬิกาเพื่อตื่นขึ้นมากลางดึก หรือบางฤดูก็ไม่เป็นใจ ทำให้ไม่ได้ภาพอย่างที่ตั้งใจเอาไว้

     “ถึงจะเป็นความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว แต่เมื่อเริ่มต้นทำเป็นธุรกิจขึ้นมา เราก็ต้องมีความรับผิดชอบ ดวงจันทร์ คือ ธรรมชาติ เราไม่สามารถบังคับได้ มีบ้างที่บางวันโดนเมฆบัง ฝนตก มันไม่ได้ถ่ายได้ทุกคืน โดยเฉพาะในหน้าฝน ถ้ามีจังหวะดี คือ ต้องถ่ายเลย ต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องแบกกล้องพกไปมาอยู่ตลอดเวลา ก็ต้องพยายามทำให้ได้มากที่สุด ที่เป็นอุปสรรคสำคัญอีกข้อ คือ ดวงจันทร์ในแต่ละวันจะขึ้นช้าลงวันละ 50 นาที ไม่ได้ตรงเหมือนกันทุกวัน ทำให้บางวันเราต้องตื่นมาถ่ายกลางดึก ทำให้รบกวนสุขภาพการนอน เพราะเราต้องทำงานประจำด้วย”

     นอกจากความรับผิดชอบแล้ว เขาบอกว่า อีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ ความซื่อสัตย์

     “ดวงจันทร์ในแต่ละคืน ไม่เหมือนกัน บางคืนเต็มดวง บางคืนเป็นจันทร์เสี้ยว บางคืนครึ่งดวง เราไม่สามารถกำหนดได้ ลูกค้าบางคนไม่เข้าใจ อยากได้รูปพระจันทร์สวยๆ ซึ่งเราทำให้ไม่ได้ เพราะมันคือความจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เราไม่มีวันเอารูปดวงจันทร์วันอื่น ไปให้เขาได้ นี่คือ ความซื่อสัตย์ เพราะมันคือ ความทรงจำของคุณ ถ้าเอาวันอื่นไปให้ แม้จะผ่านไปแค่วันเดียว มันก็ไม่ใช่ความทรงจำของคุณ ฉะนั้นบางวันถ้าไม่มี ผมก็จะบอกว่าไม่มีเลย ผมจะทำเป็นตารางปฏิทินเอาไว้ให้เขาดูเลยว่าในแต่ละปีมีวันไหนบ้างที่ถ่ายได้ ไม่ได้ ลูกค้าบางคนบอกว่าอยากได้ภาพดวงจันทร์ของวันนี้ปีนี้ แต่เราไม่มีให้ ก็สั่งไว้ล่วงหน้าให้ช่วยถ่ายเก็บของปีหน้าให้แทน ก็มี”

     สำหรับการถ่ายภาพดวงจันทร์ในแต่ละวัน เขาเล่าว่าจะพยายามถ่ายเก็บไว้หลายช็อต จากนั้นค่อยเลือกภาพที่ดีที่สุดเก็บเอาไว้ โดยภาพดวงจันทร์ช็อตที่ดีที่สุดจะอยู่กลางท้องฟ้า ดวงจะโต และสว่างสุกใสที่สุด ไม่มีมลพิษจากฝุ่นควันของเมืองมารบกวน โดยในช่วงหน้าหนาว คือ ฤดูที่ถ่ายดวงจันทร์ได้สวยที่สุด ถ่ายเก็บได้เกือบทุกวัน ส่วนช่วงที่ถ่ายลำบากที่สุด และถ่ายได้น้อยที่สุด คือ หน้าฝน

โควิดตัวจุดพลุความปัง

     เจตน์เล่าว่าในช่วงแรกนั้นเขาเป็นเพียงเพจเล็กๆ ที่คนรู้จักไม่มากเท่าไหร่ แต่จุดเปลี่ยน คือ ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา เขาได้ไปโปรโมตเพจใน ‘กลุ่มจุฬามาร์เก็ตเพลส’ และ ‘กลุ่มธรรมศาสตร์และการฝากร้าน’

     “แต่ก่อนเราแทบจะไม่โปรโมต ไม่โฆษณาอะไรเลย อาศัยการบอกต่อในกลุ่มเพื่อนๆ คนรู้จัก ส่วนหนึ่งก็กลัวเรื่องก๊อปปี้ไอเดียเหมือนกัน เพราะเป็นสิ่งที่ยังไม่เคยมีใครทำ และเราก็เพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน แต่ที่เป็นจุดเปลี่ยนเลย คือ ช่วงโควิดจะเกิดกลุ่มขึ้นมา 2 กลุ่ม คือ จุฬามาร์เก็ตเพลส และธรรมศาสตร์และการฝากร้าน พอดีผมได้เรียนที่นั่นทั้งสองที่ ก็เลยเข้าไปแนะนำตัวในกลุ่ม โพสต์ไปกลางคืน เช้าตื่นขึ้นมา ข้อความอินบล็อกเข้ามาถล่มทลายเลย เป็นร้อยๆ ข้อความ เราเป็น SME เล็กๆ พอเจอคนเข้ามาเยอะๆ ก็เป็นปัญหาเหมือนกัน ตอนนั้นยังไม่ได้ทำตารางปฏิทินอะไรไว้เลย จนตอนหลังก็เริ่มทำข้อมูลหลังบ้านให้เป็นระบบมากขึ้น”

     เจตน์เล่าว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่เข้ามาใช้บริการ ก็คือ กลุ่มคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเก็บภาพดวงจันทร์ในวันที่ลูกน้อยเกิดเอาไว้ให้ มีทั้งรูปแบบที่มาตามหาย้อนหลัง และแบบที่ขอให้ช่วยถ่ายเก็บไว้ให้ล่วงหน้าก็มี จากวันกำหนดคลอดที่วางเอาไว้ จากวันเกิด ก็เริ่มเพิ่มมาเป็นวันและโมเมนต์พิเศษอื่นๆ ตามมา สำหรับราคาค่าใช้จ่ายภาพถ่ายพระจันทร์นั้น จะเริ่มต้นที่ราคา 950 – 1,990 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของรูปและกรอบที่ใช้

     “เดี๋ยวนี้ คนเริ่มรู้จักเรามากขึ้น ก็เริ่มมีออร์เดอร์แปลกๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น วันครบรอบแต่งงาน, วันขึ้นบ้านใหม่, วันครบรอบเป็นแฟนกัน, วันขอแต่งงาน บางคนสั่งเป็นเซอร์ไพรส์ให้น้องสาวที่เพิ่งทำธีสิสจบ ฯลฯ ความต้องการมีหลากหลายมากขึ้น นอกจากถ่ายดวงจันทร์ บางคนอยากให้ช่วยถ่ายทางช้างเผือก ฝนดาวตกก็มี กลายเป็นว่าอะไรที่เกี่ยวกับภาพดาราศาสตร์เขาจะเริ่มนึกถึงเราแล้ว หรืออย่างบางทีไม่ใช่เฉพาะแค่ภาพถ่ายดวงจันทร์ในวันนั้นๆ บางคนเปิดคาเฟ่ติดต่อเข้ามาอยากได้ภาพดวงจันทร์ไปตกแต่ง เราก็ทำให้บ้าง ซึ่งแน่นอนต้องคนละความหมายกับการถ่ายภาพดวงจันทร์ในวันนั้นๆ”

เมื่อโลกเปลี่ยน ดวงจันทร์ก็เปลี่ยนแปลง

     จากที่ใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ถ่ายภาพดวงจันทร์ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 8 ปี ทำให้เจตน์กลายเป็นบุคคลหนึ่งที่มีความชำนาญและรู้จักดวงจันทร์ค่อนข้างดีทีเดียว เขาสามารถรู้ว่าในวันนั้นๆ ดวงจันทร์จะขึ้นเวลากี่โมง รู้ว่าวันไหนข้างขึ้นข้างแรม ไปจนถึงการจดจำรูปลักษณ์ของหลุมที่เกิดบนดวงจันทร์ว่าในแต่ละช่วงวัน เดือน ปี ว่าหลุมดังกล่าวจะหมุนเวียนกลับมาเมื่อไหร่ รวมไปถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมบนโลกในปัจจุบันด้วย

     “เราจดจำเกือบทุกหลุมบนดวงจันทร์ได้ โดยเฉพาะหลุมที่เด่นๆ เพราะถ่ายมานานหลายปี รู้ได้คร่าวๆ ว่าในวันนั้นๆ  ช่วงเวลานั้นเราจะได้ภาพดวงจันทร์ประมาณไหน อีกเรื่องที่เห็นความเปลี่ยนแปลง คือ สิ่งแวดล้อม รู้สึกได้เลยว่ามลพิษหรือฝุ่นควันเยอะขึ้นกว่าแต่ก่อนที่เริ่มถ่ายมาก ดวงจันทร์ที่เห็นก็ไม่ค่อยใสเหมือนก่อน เมื่อก่อนถ้าตกตอนเช้าเราจะมองเห็น แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเห็นแล้ว อากาศไม่ใสเหมือนก่อน”  

     สำหรับในอนาคตเจตน์เล่าว่าเขาอยากสร้างทีมขึ้นมา และทำให้เป็นระบบมากขึ้น เพื่อทำให้เกิดความยั่งยืนในธุรกิจ

     “ทุกวันนี้เรายังทำเองคนเดียวเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ถ่ายรูป เอาไฟล์ไปส่งร้านอัดรูป ใส่กรอบเอง ไปส่งเอง ขั้นตอนมันค่อนข้างเยอะหลังจากถ่ายเสร็จ อนาคตต่อไปเลยว่าอาจหาทีมน้องๆ ให้เข้ามาช่วย เพื่อเราจะได้มีเวลามากขึ้น ถ่ายแค่รูปอย่างเดียว รวมไปจนถึงอยากสร้างเครือข่ายน้องๆ ในการเก็บภาพในแต่ละพื้นที่ แต่ละภูมิภาค เพราะบางทีจุดที่เราอยู่ท้องฟ้าตอนนั้นอาจมองไม่เห็นดวงจันทร์ แต่จุดที่เขาอยู่อาจมองเห็นได้ อีกอย่างในบางวันที่เราติดธุระไม่สามารถถ่ายเก็บได้ทัน ก็จะได้ให้เขาถ่ายแทนให้ ซึ่งตอนนี้ก็มีน้องที่สนิทกันช่วยถ่ายเก็บไว้ให้บ้างในวันที่เราไม่ว่าง”

     สุดท้ายถามว่า อะไร คือ สิ่งที่ทำให้เขาดำเนินธุรกิจมาได้ยาวนานกว่า 8 ปี และยังคงคิดที่จะทำต่อไปแม้ต้องเจอกับอุปสรรคบ้าง เจตน์ตอบว่า

     “ผมรู้สึกเหมือนงานเรามีคุณค่า เวลาที่ลูกค้าแต่ละคนได้รับรูปภาพดวงจันทร์ในวันที่เป็นความทรงจำดีๆ ของเขา ได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นเขามีความสุข ถามว่าจริงๆ แล้วมีคนถ่ายภาพดวงจันทร์สวยกว่าผมไหม มีแน่นอนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เราอาจมีมากกว่า ก็คือ เรามีดาต้าเป็นรูปดวงจันทร์ที่ถ่ายเก็บสะสมไว้ในระยะเวลาหลายปี เรามีความสม่ำเสมอ มีวินัย ถึงแม้บางวันอาจจะถ่ายได้บ้างไม่ได้บ้าง เราไม่โกหก นี่คือ ความจริงใจกับลูกค้า เราไม่ใช่นักถ่ายรูปดวงจันทร์ที่สวยที่สุด แต่เรา คือ นักล่ารูปดวงจันทร์ เพื่อเก็บความทรงจำที่พิเศษในแต่ละค่ำคืนให้กับผู้คนที่เขาต้องการ เรารู้ว่าแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของเรา มีไว้ทำไม เพื่อโลกนี้ และนั่น คือ เหตุผลทำให้เราอยากทำต่อไป จะพยายามทำต่อไปให้นานและดีที่สุดครับ”

 

ข้อมูลติดต่อ

IG : moonshots4you

FB : กระต่ายหมายจันทร์

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เริ่มต้นจากซอส สู่รถเข็นสุกี้พรศิริ เปิดแค่เสาร์-อาทิตย์ 3 ทุ่ม-เที่ยงคืน ขายยังไง 3 ชม.ได้ 700 จาน

ใครจะคิดว่า เพียงเพราะอยากให้ซอสมาสเตอร์ที่คิดค้นขึ้นเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงเปิดร้านสุกี้พรศิริ ในพื้นที่ลานจอดรถของอพาร์ทเม้นท์ ที่เจ้าของพื้นที่ให้วันเวลาขายที่จำกัด จะกลายเป็นร้านสุกี้ที่มีคนต่อคิวรอ 80-100 คิวต่อคืน และทำยอดขายได้ 700 จาน

หมัดต่อหมัด JIB&Advice จากคนตัวเล็กสู่ธุรกิจไอทีหมื่นล้าน

จากร้านเล็กๆ สู่จักรวาลไอที! เรื่องราวของสองนักธุรกิจผู้ก่อตั้งอาณาจักรไอทีภายใต้แบรนด์ J.I.B. และ ADVANCE ที่ต่างจากเริ่มจากสิ่งเล็กๆ เมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาต่างก็เป็นแบรนด์ไอทีที่เติบโตระดับประเทศ

1:2 Coffee 3 ปี ร้อยล้าน เส้นทางความสำเร็จร้านกาแฟในเชียงรายขยายสู่กรุงเทพ

1:2 Coffee, onetotwo,แรงบันดาลใจ, ธุรกิจกาแฟ, ธุรกิจร้อยล้าน, sme, ไอเดียธุรกิจ, ผู้ประกอบการ, เจ้าของธุรกิจ, เทรนด์ธุรกิจ, บริหารธุรกิจ, case study, SME, กลยุทธ์การตลาด, คาเฟ่, ร้านกาแฟ