Text : Yuwadi.s
PHOTO: สุนันท์ ล้อสมทรัพย์
หนึ่งในอุปสรรคนิสัยสำคัญที่ทำให้ใครหลายคนประสบความสำเร็จนั่นคือ “กล้าได้กล้าเสีย” และนี่คือนิสัยของ จ๋าย-สุภาภรณ์ บุญมาคลี่ เจ้าของร้านที่กำลังมาแรงบนโลกออนไลน์กับร้าน พิซซ่าโคนในบ้าน ที่หยิบเอาคอนเทนต์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันมาปั้นจนกลายเป็นคลิปสุดแมสแถมยังเรียกลูกค้าเข้ามาอย่างไม่ขาดสายแม้ว่าทำเลจะอยู่ในบ้านที่ไม่ได้มีคนผ่านไปผ่านมาก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเธอมีคาถาเสกลูกค้าอยู่ในมือด้วยการทำ TikTok!
จากมนุษย์เงินเดือนหมื่นสองสู่เจ้าของร้านพิซซ่าโคนในบ้าน
จ๋ายได้เล่าชีวิตก่อนที่เธอจะเริ่มต้นทำธุรกิจนี้ให้ฟังว่าเดิมเธอเป็นพนักงานประจำทั่วไป แต่เธอได้มาจับอาชีพเสริมคือการขายแป้งโคนพิซซ่ามาเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากงานมาปั้นแบรนด์ของตัวเองเต็มตัว
“เริ่มต้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เรามองหางานเสริมคู่กับการทำงานประจำ ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานประจำ เปลี่ยนงานมาเยอะ ทำงานมาหลากหลายแล้วเราเงินเดือนหมื่นสอง มันไม่พออยู่แล้ว เราเลยลองค้นหาในเฟซบุ๊กว่ามีอะไรน่าทำบ้าง ก็เจอพี่คนหนึ่งขายแป้งพิซซ่า เขาจุดประกายเรา มันแปลกใหม่ เราเลยลองสั่งชุดทดลองมาขาย 550 บาท พอมาทำเราก็ปรับสูตรของเราเอง พี่เขาเห็นว่าเราขายเก่ง เขาเลยบอกงั้นมาเป็นแอดมินขายตัวแป้งให้พี่ จากตอนนั้นจนตอนนี้คือ 5 ปีแล้ว”
จุดเริ่มต้นที่ทำให้จ๋ายมองว่าควรลาออกมาทำแบรนด์ตัวเองจริงจังคือช่วงต้นปี 2566 แต่การทำธุรกิจในช่วงแรกไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะร้านพิซซ่าของเธอเงียบอยู่ 3 เดือน จนความพยายามเริ่มเห็นผลเมื่อคลิปที่เธอทำเริ่มแมส ทำให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้น
“ต้นปีที่แล้ว เราออกจากงาน เราเป็นคนกล้าได้กล้าเสียแล้วที่เราออกจากงานมาทำตรงนี้เพราะเราคิดว่าเรามองข้ามงานตัวเอง เราทำสิ่งนี้เป็นงานเสริมมานานแล้ว แล้วทำไมเราไม่มาทำของตัวเองเต็มตัวเลย เราเลยออกมาทำ แต่ช่วง 3 เดือนแรกเราขายไม่ได้เลย นั่งตบยุง ตอนนั้นเราคิดว่าเราจะไม่กลับไปทำงานประจำแล้ว เราต้องมาทำของเราให้ได้ ความท้อมีแน่นอน มันเงียบ ฝนตกหนักขายไม่ได้ แต่ตอนนั้นเราอาศัยลงคอนเทนต์ใน TikTok ทำแบบไม่คาดหวังจนเราทำคลิปส่งผิดบ้าน ปรากฏว่าแมส พอคลิปแมสก็ปังเลย คนดูสี่แสน นั่นคือจุดเริ่มต้นที่แมสใน TikTok เปลี่ยนชีวิตเลย ลูกค้าตามมาเลย”
สำหรับจุดเด่นของพิซซ่าโคนในบ้านจะอยู่ที่รูปแบบการเสิร์ฟพิซซ่าจากแบบแผ่นเป็นแบบโคนที่ถือกินง่าย ตัวแป้งจะกรอบนอก ไส้ฉ่ำข้างใน มีให้เลือกกว่า 10 ไส้แถมยังราคาจับต้องได้ที่ 49 บาท
“ความต่างเราคือพิซซ่าโคนเรากรอบนอก ฉ่ำใน มันต่างจากที่เป็นแป้งแผ่น โคนเราจะมีความฉ่ำ ถือกินง่าย เราไม่ใช่เจ้าแรกในไทยแต่เราเป็นเจ้าแรกที่ทำคอนเทนต์ใน TikTok นอกจากนี้เรายังขายในบ้าน ไม่มีค่าที่ ไม่เสียค่าเช่าร้าน ลูกค้าเห็นจากในออนไลน์บางทีเขาก็ตามมา ที่ตามมาเพราะหน้าฮาวายเอี้ยนเลย มันจะเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ที่ร้านจะมีทั้งหมด 10 หน้า นอกจากนี้เราก็มีขายน้ำมาคู่กันคาวหวาน จะมีเป็นตัวชาเย็นที่เป็นซิกเนเจอร์เหมือนกัน”
คอนเทนต์เปลี่ยนชีวิตจากเงียบจนตบยุงสู่ยอดขายหลักแสน
ด้วยความที่ไม่มีหน้าร้าน สิ่งสำคัญในการทำให้ลูกค้ามองเห็นคือการทำการตลาดออนไลน์ โดยเธอเน้นการทำคลิปลงใน TikTok หลังจากที่คลิปแมสก็เปลี่ยนชีวิตเธอเลยทันที
“ในมุมที่ยากคือเราขายในบ้าน มันยากกว่าคนอื่น เราไม่ได้มีหน้าร้านแต่เรามองว่าสมัยนี้ ออนไลน์มันง่าย แค่เราอัดคลิปถ่ายว่าขายอันนี้ในบ้านนะ คนก็ตามมา แต่มันต้องใช้เวลา ก่อนหน้าเราขายได้วันละ 100 โคน แต่พอมาเดี๋ยวนี้ 150 โคนขึ้นไป บางวันก็ได้ 200 โคน กำไรต่อวันประมาณ 5,000 บาท แต่ละวันจะได้ไม่เหมือนกัน”
สำหรับการทำคลิปในแบบของเธอ เธอจะเน้นไปที่ความเรียล ถ่ายคอนเทนต์ทำพิซซ่าทุกวันหรือมีลูกค้าสมัครมาเรียนทำพิซซ่าเธอก็ขอถ่ายลง ทำให้คนดูจะชอบความเรียลในแบบของร้านพิซซ่าโคนในบ้าน
“เราจะทำคอนเทนต์ที่ทำพิซซ่าทุกวัน หรือลูกค้ามาเรียนตัวต่อตัวเราจะถ่ายไว้ บางทีลูกค้าชมขึ้นมาเองโดยเราไม่ได้เมคเลย คนจะชอบดูความเรียล คอนเทนต์เราจะอยู่กับความเป็นจริง เช่น วันนี้ฝนตก แต่เราขายได้นะ ขายได้จริงๆ เพราะเราไม่ได้เสียค่าเช่าที่ ปิดกี่โมงก็ได้ บางทีคลิปมันเพิ่งไปแมสบนหน้าฟีดเขา แล้วเขาก็ตามมา กลายเป็นร้านลับในซอย”
นอกจากการทำร้านพิซซ่าโคนในบ้านขายแล้ว อีกหนึ่งรูปแบบธุรกิจคือการสอนทำพิซซ่า โดยมีสองแบบคือการเรียนในไลน์ Open chat ราคา 200 บาทกับการเรียนตัวต่อตัว ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงราคา 999 บาท
“ถ้าออนไลน์ จะเรียนในกลุ่มไลน์ ตลอดชีพ มีแอดมินบริการหลังการขาย ลูกค้าจะได้รู้หมดเลยว่าวัตถุดิบซื้อที่ไหน ซอสอะไร ตั้งราคาขายยังไง เหมือนเราขายสูตรไปเลยในราคา 200 บาท ส่วนตัวต่อตัว 999 บาท เราจะสอนแต่งหน้าพิซซ่าโคน ได้ลองทำจริงที่หน้าร้านเลย แล้วก็ได้เข้ากลุ่มออนไลน์ด้วยเหมือนกัน”
โดยจ๋ายได้ปิดท้ายถึงหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้ฟังว่าสำหรับเธอ ให้ความสำคัญที่ความกล้าในการเริ่มต้น ต้องกล้าที่จะลงมือทำ
“มันอยู่ที่เราลงมือทำ ถ้ามัวแต่กลัว ไม่กล้าสักที มัวแต่จมที่เดิม ก็จะอยู่แบบนี้ถ้าไม่เปิดใจ มันจะไม่เติบโต เราเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย เรามองว่าเราผ่านงานประจำมาเยอะมากเลย ถ้าอยากทำอะไร ทำเลย”
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี