หากฝันว่าจะทำแบรนด์ให้ใด้สักแบรนด์หนึ่ง ว่าที่ผู้ประกอบการเช่นคุณจะเลือกใช้วิธีการใดในการสานฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง ? ...รอเงินทุน!? ...รอศึกษารูปแบบตลาดให้แตกฉาน!?
ละล้าละลังกันจนเวลาล่วงเลยไปนานนับปี ก็ยังไม่เห็นแววว่าจะได้ลงมือทำสักที หรือเพราะมัวแต่กลัวความเสี่ยงจนทำให้คุณยังคงยืนอยู่ที่เดิม ดังนั้น เราจึงขอหยิบยกเรื่องราวของแบรนด์น้ำผลไม้ชื่อดังแห่งหมู่เกาะอังกฤษอย่าง Innocent ที่จะทำให้คุณรู้ว่าการเริ่มต้นนั้น ไม่จำเป็นต้องสวยหรู หรือเพียบพร้อมไปด้วยเงินทุน เพียงแค่มีความกล้าที่จะลงมือทำและรู้จักสร้างสรรค์เรื่องเล็กๆ ให้เหนือกว่าคู่แข่ง ก็นับว่าเพียงพอแล้ว
Richard Reed, Adam Balon and Jon Wright ทั้งสามคือผู้ให้กำเนิดแบรนด์น้ำผลไม้ปั่น Innocent
ในสมัยที่กำลังศึกษาอยู่ที่ St John's College, Cambridge พวกเขามีความตั้งใจจะทำธุรกิจร่วมกันหลังเรียนจบ แต่แล้วความฝันครั้งนั้นก็ดูเลือนลางเต็มที เมื่อเรียนจบต่างคน ก็ต่างแยกย้ายไปทำงานประจำของตนเอง แม้จะมีการพบปะเพื่อพูดคุยกันอยู่บ้าง แต่ความคืบหน้าเรื่องธุรกิจก็ยังคงเป็นเพียงมโนภาพในจิตใจของแต่ละคนเท่านั้น
กระทั่งทั้งสามต่างมองหน้ากันพร้อมยื่นคำขาดว่า ตอนนี้มีทางเลือกแค่สองทาง ระหว่างทุกคนลาออกจากงานประจำเพื่อมาสร้างธุรกิจอย่างจริงจัง หรือ หยุดเพ้อฝันเรื่องพวกนี้ได้แล้ว หลังไตร่ตรองกันอย่างถ้วนถี่ทั้งสามเห็นพ้องที่จะ “ทำฝันให้เป็นจริง”
“น้ำผลไม้ปั่น 100 เปอร์เซ็นต์เพื่อสุขภาพ” เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทั้งสามคนเลือก ในปี 1999 หลังใช้เวลา 6 เดือนในการคิดสูตร พร้อมกับเงินทุนแรกเริ่มที่มีอยู่เพียง 500 ปอนด์ พวกเขาก็ผลิตน้ำผลไม้ออกมาได้สำเร็จ และได้ไปออกบูททดลองขายสินค้าที่งาน Jazz on the Green เป็นที่แรก พร้อมตั้งคำถามกับตนเองว่า สูตรน้ำผลไม้ที่เขามีอยู่นั้น ดีพอให้ลาออกจากงานเพื่อมาทำอย่างจริงจังหรือไม่ ซึ่งวิธีหาคำตอบของพวกเขาเป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างมาก
โดยทั้งสามนำป้ายพร้อมข้อความที่มีใจความประมาณว่า “คุณคิดว่าพวกเราควรจะลาออกจากงานเพื่อมาขายน้ำปั่นพวกนี้หรือไม่” โดยข้างหน้าป้ายจะมีถังขยะอยู่สองอัน อันหนึ่งเขียนว่า “Yes” และอีกอันเขียนว่า “No”
หลังจากจบงานนี้แล้ว ทั้งสามต่างก็มาดูผลตอบรับที่เกิดขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล เมื่อขวดเปล่าที่อยู่ในถัง Yes มีอยู่เต็มล้นถัง ในขณะที่ถัง No มีขวดเปล่าเพียงแค่ 3 ขวด สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาทั้งสามเดินไปลาออกจากงาน และเริ่มต้นทำแบรนด์ Innocent อย่างจริงจัง
ทว่า ทั้งสามมีเพียงทุนทรัพย์ทางความคิด แต่ขาดทุนทรัพย์ในด้านการลงทุน การกู้ยืมเงินจากธนาคารจึงกลายเป็นตัวเลือกจำเป็น แต่ธนาคารกว่า 20 แห่ง “ปฏิเสธ” ในการให้พวกเขากู้เงิน
เมื่อเห็นท่าว่าการกู้เงินธนาคารจะไม่เป็นผล ทั้งสามจึงหันไปขอความช่วยเหลือกับนักลงทุน เพื่อหวังว่าจะมีสักคนสนใจ แต่ไม่ว่ากี่รายต่อกี่รายต่างมองว่า Business Plan ของพวกเขาคือเรื่องโง่เง่าที่ไม่มีทางเป็นไปได้ จนกระทั่งได้มาเจอกับ Maurice Pinto ที่ยอมให้เงินลงทุน 250,000 ปอนด์ เพราะเห็นในความพยายาม ทั้งที่ Pinto ก็ไม่แน่ใจว่าธุรกิจจะสำเร็จได้หรือไม่
แม้จะมีงบในการลงทุนผลิตสินค้า แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำโฆษณา ดังนั้น สิ่งที่ทั้งสามพอจะทำได้ ก็คือ การเดินแจกสินค้า ตั้งแต่ร้านค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงตึกที่ทำงานของหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ต่างๆ
โดยเขาเขียนข้อความถึงความตั้งใจในการทำผลิตภัณฑ์ดีที่สุดกับตัวอย่างที่เขาแจกไปด้วยว่า
“The idea is to make it easy for people to do themselves some good. And to make it taste nice too. We wanted people to think of innocent drinks as their one healthy habit; like going to the gym”
นอกจากนั้นพวกเขาใช้วิธีปิดฉลากที่ขวดว่า "มีความสุขได้จนถึงวันที่” แทนที่จะใช้ "หมดอายุวันที่” ความพยายามในครั้งนั้น ส่งผลให้มีโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาหาพวกเขาอย่างถล่มทลาย พร้อมกับการเป็นจุดเริ่มต้นของยักษ์ใหญ่ในวงการเครื่องดื่ม ที่มีผลิตภัณฑ์วางขายในยุโรปแล้วถึง 13 ประเทศ และมียอดขาย 2 ล้านขวดต่อสัปดาห์
Innocent ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แม้การเริ่มต้นทางธุรกิจของพวกเขาจะมีแต้มเริ่มต้นเพียงแค่ 0 แต่ถ้าหากว่าความกล้าที่มีอยู่ในตัวเกิน 100 แล้วใครที่ไหนจะมาฉุดรั้งความสำเร็จของคุณไปได้นอกเสียจากตัวคุณเอง...
www.smethailandclub.com ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)