TEXT : Nitta Su.
Main Idea
- At Rice Resort ที่พักเกรด A เมืองนครนายกที่พลิกเกมจากตลาดแมสสู่ที่พักพรีเมียม โดยใช้ช่องว่างตลาด สร้างโอกาสให้ธุรกิจ
- ด้วย 3 กลยุทธ์มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด ได้แก่ 1.Storytelling สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง 2.ขายเท่าเดิม แต่อัพมาตรฐานมากขึ้น และ 3.สร้าง Mindset บุคลากรให้พร้อม
พูดถึงนครนายก ใครก็รู้ว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติสวยงาม เดินทางไปมาสะดวก อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงขับรถแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันนักขัตกฤษ์ ห้องพักที่นี่จึงเต็มอยู่ตลอด ขายได้เกือบทั้งปี แต่จากจุดเด่นดังกล่าว ทำให้หลายแห่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างจุดเด่นให้ธุรกิจเท่าที่ควร ที่พักส่วนใหญ่จึงดูคล้ายกันไปหมด ไม่ได้มีตัวเลือกให้กับลูกค้ามากนัก
จากการมองเห็นช่องว่างในตลาดดังกล่าว จึงทำให้ คมพัฒน์ ป่านแก้ว ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ At Rice Resort Nakhon Nayok ทายาทหนุ่มที่เข้ามาช่วยสานต่อกิจการครอบครัว คิดอยากเติมเต็มทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้า ด้วยการสร้างเป็นที่พักสไตล์บูทีคโฮเทล จำนวน 56 ห้อง เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงบนที่ต้องการความสะดวกสบาย ได้มาตรฐาน จนกลายเป็นโรงแรมแห่งแรกๆ ของจังหวัดที่เลือกวางตำแหน่งแบรนด์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม
“นครนายก เป็นจังหวัดที่มีจุดเด่น คือ อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ และมีธรรมชาติที่สวยงาม ธุรกิจโรงแรมที่พักของที่นี่จึงขายได้เกือบตลอดทั้งปี วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไม่ค่อยว่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เราพบในช่วงทำรีเสิร์ชเบื้องต้น คือ Positioning ของที่พักทุกที่จะคล้ายๆ กันไปหมด ยังไม่ค่อยมีที่ไหนจับกลุ่มระดับกลางค่อนไปทางบน เมื่อมองเห็นว่ายังไม่มีใครทำ เราก็เลยลองจับตลาดกลุ่มนี้ดู เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าด้วย” ทายาทหนุ่มเล่าที่มาแผนธุรกิจให้ฟัง
3 กลยุทธ์ทำธุรกิจที่พักมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
จากการมองเห็นช่องว่างของโอกาส คมพัฒน์ได้วางกลยุทธ์ธุรกิจของเขาออกเป็น 3 แนวทาง ได้แก่
- ใช้ Storytelling สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
“แค่มองเห็นโอกาสจากช่องว่างในตลาดอย่างเดียวไม่พอ การจะเปิดที่พักขึ้นมาใหม่ท่ามกลางที่พักเดิมที่มีอยู่มากมาย เราต้องพยายามหาอัตลักษณ์และสร้างจุดเด่นให้กับตัวเองด้วย เพื่อสร้างการจดจำให้กับลูกค้า สิ่งแรกที่เราทำหลังจากเลือกวาง Positioning แบรนด์ให้แตกต่าง ก็คือ การหา DNA ให้กับธุรกิจ ไม่งั้นก็จะเป็นแค่ที่พักเปิดใหม่ ไม่ได้มีความพิเศษอะไร เราจึงคิดถึงคอนเซปต์ คือ “ข้าว” เพราะจริงๆ ที่มาของชื่อจังหวัดนครนายก ก็มาจากที่สมัยก่อนเดิมเป็นพื้นที่ป่ารกชัฏ ไม่ค่อยมีคนมาอยู่อาศัย จึงมีประกาศจากทางราชการยกภาษีการทำนาให้ฟรี เพื่อจูงใจให้คนมาอาศัยอยู่กันเยอะๆ จึงเรียกว่า “เมืองนา-ยก” จนกลายเป็นที่มาของชื่อจังหวัด
"เราเริ่มใช้ตั้งแต่ชื่อรีสอร์ต คือ “At Rice Resort” และเป็นคอนเซปต์เพื่อใช้ในส่วนต่างๆ ด้วย ตั้งแต่การตกแต่งอาคาร, ของใช้ เช่น สบู่ แชมพู ก็ทำเป็นสูตรข้าว ไปจนถึงเมนูอาหารเครื่องดื่ม อาทิ กาแฟข้าวโอ๊ต พยายามเอาข้าวมาเกี่ยวข้องในทุกส่วน ตั้งแต่เปิดมาผลตอบรับค่อนข้างดีเลย ลูกค้าจำเราได้ ทำให้เป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบาย ได้มาตรฐาน ขณะเดียวกันก็เป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้ากลุ่มเดิมที่มาท่องเที่ยวนครนายกเป็นประจำด้วย”
- ขายเท่าเดิม แต่อัพมาตรฐานมากขึ้น
“ถึงเราจะวาง Positioning ธุรกิจให้แตกต่างจากที่พักทั่วไปที่มีอยู่ แต่เรื่องราคาเราก็ไม่ได้หนีกันมาก ห้องพักสำหรับ 2 คน เราขายที่ประมาณ 1,300 บาท เราอยากสร้างประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้าก่อน เหมือนจ่ายเท่าเดิม แต่เขาได้มากกว่า ได้ความสะดวกสบาย ได้ความเป็นมาตรฐานที่พักที่มากขึ้นกว่าเดิม สิ่งนี้จะทำให้เขาประทับใจ และจดจำเราได้ ซึ่งเราคาดหวังในระยะยาวมากกว่า ที่พักในนครนายกส่วนใหญ่ไม่ค่อยทำการตลาดเชิงรุก เพราะเสาร์-อาทิตย์ส่วนใหญ่ขายได้อยู่แล้ว แต่วันธรรมดา คือ ค่อนข้างเงียบ ส่วนใหญ่จะได้จากกลุ่มงานสัมมนาที่เข้ามาช่วยได้ จึงเป็นอีกโจทย์ที่เราต้องคิดวางกลยุทธ์ให้ดี
"ถามว่ายังไงก็ขายได้อยู่แล้ว ทำไมเราต้องลงทุนเพิ่ม จริงๆ รายได้ไม่ได้เข้ามาจากแค่ห้องพักอย่างเดียว ยังมีการจัดงานอีเวนต์, การเช่าสถานที่ถ่ายทำต่างๆ อย่างของเราด้วยการออกแบบ Landscape ที่ค่อนข้างสวย ทำให้มีลูกค้าสนใจมาจัดงานอีเวนต์กันเยอะ เช่น งานแต่ง บางทีกองถ่ายก็มาขอเช่าสถานที่ถ่ายทำละครก็มี หรือบางทีมีจัดงานสัมมนา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เราทำขาย หรือสินค้าโอทอปของชุมชน เราก็มีโอกาสขายได้มากขึ้นด้วย สิ่งเหล่านี้ คือ มูลค่าที่เพิ่มขึ้นมานอกจากแค่การขายห้องพัก ร้านอาหาร หรือคาเฟ่”
- สร้าง Mindset บุคลากรให้พร้อม
“การที่เราจะปรับตำแหน่งธุรกิจให้แตกต่างจากตลาดที่พักในนครนายกที่มีอยู่ได้ เราต้องเริ่มสร้างจากที่ตัวคนเลย โดยเราเริ่มเซตคนตั้งแต่ที่รับสมัครเข้ามาเลย โดยตำแหน่งหัวหน้างานที่สำคัญๆ เราจะเอาคนนอกพื้นที่ที่มีความชำนาญเข้ามาช่วยวางระบบบริหารจัดการให้ก่อนเลยในช่วงแรก เพื่อวาง Mindset ให้กับน้องๆ พนักงานในพื้นที่ ให้มองเห็นเป็นมาตรฐานและภาพเดียวกันให้ได้ก่อน
“นอกจากกลยุทธ์ 3 ข้อที่กล่าวมา ในการทำธุรกิจผมจะใช้หลักการบริหารอยู่ 3 ส่วน คือ 1.แผนธุรกิจ เพื่อเป็นคู่มือว่าเราจะเดินไปทิศทางไหน 2.แผนการเงิน ทั้งส่วนของธุรกิจเอง และสถาบันจากภายนอก 3.พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ ซึ่งมีหลากหลาย ทั้งด้านการเงิน เช่น SME D Bank ที่เป็นเพื่อนคู่คิดและช่วยซัพพอร์ตด้านการลงทุน, ชาวบ้านที่มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน หรือเพื่อนผู้ประกอบการด้านอื่นๆ เช่น ธุรกิจล่องแก่ง, ขับรถ ATV เป็นต้น ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้ คือ องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจของเราแข็งแกร่งขึ้นมาได้ ถามว่าวันนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง ทุกวันนี้ผมใช้อยู่ 2 คำ คือ Satisfy กับ Success เพราะบางอย่างที่เราทำอาจยังเรียกว่าความสำเร็จไม่ได้ เช่น เราลงทุนดีไซน์อาคารไว้ แล้วมีลูกค้าสนใจมาถ่ายรูปเช็คอินกันมาก แค่นี้เราก็พอใจมากแล้ว กับการที่ลูกค้าให้การตอบรับที่ดี ถึงจะวัดเป็นความสำเร็จที่เป็นตัวเงินไม่ได้ก็ตาม” ผู้บริหาร At Rice Resort Nakhon Nayok กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้
นครนายก เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุง โอกาสธุรกิจที่ยังมีรออยู่อีกมาก
“นครนายก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ขายได้ตลอดทั้งปีก็จริงอยู่ แต่วันธรรมดาที่เหลือก็เป็นโจทย์ค่อนข้างหินสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ การจับกลุ่มลูกค้า เช่น กรุ๊ปสัมมนา จัดงานอีเวนต์ต่างๆ สามารถช่วยได้ เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สิ่งที่ยังขาดสำหรับนครนายก คือ คอมมูนิตี้ต่างๆ ให้คนมาทำกิจกรรม เช่น Sport Club, Kids Club หรือคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดย่อม เป็นต้น
“อีกสิ่งที่ยังขาดสำหรับนครนายก ก็คือ เรื่องการคมนาคมที่เป็นรถสาธารณะ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะมาด้วยรถส่วนตัว เพราะค่อนข้างสะดวกกว่าในการเดินทางไปแต่ละจุด จึงทำให้กลุ่มที่เดินทางด้วยรถโดยสาร หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ทั้งต่างชาติและคนไทย ค่อนข้างมีน้อย ถ้าอนาคตสามารถมีการลงทุนเกิดขึ้นได้ ก็น่าจะช่วยส่งเสริมหรือขยายนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้มากขึ้น เพราะเดินทางไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อยู่แล้ว หรือหากผู้ประกอบการท่านใดอยากลองขายเป็นแพ็กเกจทัวร์ เช่น One Day Trip มีรถไปรับตั้งแต่สนามบิน และพาเที่ยว 1 วัน เย็นกลับไปส่งกรุงเทพฯ หรือค้างคืนด้วยก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกแบบหนึ่ง”
|
At Rice Resort https://www.facebook.com/atriceresort/?locale=th_TH โทร. 037 385 013 |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
