TEXT : Nitta Su.
Main Idea
- “น้ำญาใจ” น้ำยาล้างจานออร์แกนิก ราคาหลักร้อยต้นๆ ที่อยากให้ทุกครัวเรือนได้ใช้ เพื่อสุขภาพที่ดี และสิ่งแวดล้อมที่ดี คิดค้นขึ้นมาโดยคุณแม่นักฟู้ดไซน์
- จุดเด่น คือ การใช้รสเปรี้ยวจากผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ ส้มเกลี้ยง, มะกรูด และสัปปะรด เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตน้ำยาสูตรออร์แกนิกเพื่อช่วยขจัดคราบสกปรก
ถ้าพูดถึงสินค้าออร์แกนิก แน่นอนว่านอกจากนึกถึงคุณภาพที่ปลอดภัย ไร้สารเคมีตกค้างแล้ว อีกสิ่งที่เป็น Pain Point ของสินค้าประเภทนี้ ก็คือ ราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าสินค้าปกติทั่วไป จนทำให้จับต้องได้ยาก มีการใช้แค่ในเฉพาะผู้บริโภคบางกลุ่มเท่านั้น แต่อาจไม่ใช่กับ “น้ำญาใจ” น้ำยาล้างจานออร์แกนิกหลักร้อยของคุณแม่นักฟู้ดไซน์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ณิชยา ศรีสุชาต ที่คิดค้นขึ้นมา เพื่ออยากให้ทุกคนมีสุขภาพดี ปลอดภัยจากสารเคมี ขณะเดียวกันก็ยังช่วยรักษ์โลก สามารถย่อยสลายได้ในไม่กี่วัน และไม่เหลือมลพิษทิ้งเอาไว้ด้วย โดยเริ่มจากทำใช้กันเองในครอบครัวก่อน เมื่อดีจึงอยากส่งต่อให้ทุกบ้านได้ใช้กันบ้าง
เพราะรัก และไถ่บาป
คุณแม่นักฟู้ดไซน์เล่าที่มาให้ฟังว่า
“จุดประกายที่ทำให้อยากทำน้ำยาล้างจานที่ปลอดภัยจากสารเคมีขึ้นมา ก็เริ่มมาจากคุณแม่เลย ท่านมาช่วยทำกับข้าวให้ในช่วงเริ่มท้องได้ 6 เดือน เพราะเรากินอาหารจากข้างนอกไม่ได้เลย ทำให้ต้องล้างจานบ่อยจนแพ้สารเคมีบางชนิด จนมือลอกและบวมแดง ลองเปลี่ยนยี่ห้ออื่น ไปหาคุณหมอ ก็ไม่หายสักที จนรู้สึกผิด คิดว่าคงต้องหาวิธีไถ่บาป ก็เลยลองทำน้ำยาล้างจานจากธรรมชาติขึ้นมา ซึ่งเราเริ่มทำใช้กันเองในครอบครัวก่อน ก็ได้ผลดีมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อลูกอายุได้ 5 ขวบ เราพาเขาไปเที่ยวทะเลที่หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ที่เราเคยประทับใจมากในวัยเด็ก น้ำใสสะอาด และสมบูรณ์มาก แต่กลายเป็นว่าพอเราพาลูกไปแล้ว เขากลับไม่เจอสิ่งที่เราพูดให้ฟังเลย กลับกลายเป็นทะเลโคลนสีดำ มีฟอง มีคราบสกปรกต่างๆ เต็มไปหมด จนเขาพูดขึ้นมาว่า “ถ้าตรงนี้คนหันมาใช้น้ำยาที่ช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นเหมือนกับที่บ้านเราใช้ ก็น่าจะดีนะ ทะเลจะได้สวยๆ เหมือนเดิม”
“จากคำพูดของลูก พอกลับมาบ้านก็เลยตัดสินใจคุยกันในครอบครัว มีเรา มีคุณแม่ และลูก ผู้หญิง 3 เจนเนอเรชั่นว่า ถ้างั้นเราลองทำขายกันดีไหม ก็เลยเป็นจุดเริ่มของแบรนด์ ซึ่งประกอบไปด้วย Co Funder 3 รุ่น ช่วยทำงานร่วมกัน โดยที่ใช้ชื่อว่า “น้ำญาใจ” เพราะเราตั้งใจทำจากใจจริงๆ เพื่ออยากให้ทุกบ้านสุขภาพดี ส่วนที่ใช้ตัวอักษรเป็น ญ ก็เพื่ออยากสะท้อนถึงพลังผู้หญิงกลุ่มเล็กๆ ในครอบครัว เราอยากเป็นสะพานส่งต่อน้ำใจให้กับทุกครอบครัว แล้วก็ธรรมชาติ”
โชคดี ในโชคร้าย
โดยหลังจากตัดสินใจเริ่มต้นที่จะทำขาย จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดมาก่อน จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไอเดียที่คิดจะเปิดตัวสินค้าต้องหยุดพักไว้ก่อน จากขาย ก็กลายเป็นแจก แต่กลับเป็นผลดีต่อธุรกิจอย่างไม่น่าเชื่อ
“พอตัดสินใจวางขายปุ๊บ ปรากฏว่าเจอโควิดเลย เรารู้สึกขายไม่ลง เพราะตอนนั้นคนตกงานกันเยอะ ก็เลยเปลี่ยนจากขายเป็นแจก โดยนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลสนามใน จ.นนทบุรี ส่งไปให้กับวัดและสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ รวมถึงแจกญาติ เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน ปรากฏว่ากลับกลายเป็นผลดี ทำให้เราได้ทดลองตลาดไปในตัวด้วย ได้รู้ว่าควรปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมบ้าง ดีกว่าที่เราไปลงขายจริงในตลาดเลย ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี จนเริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามาขอซื้อ จากนั้นเราก็เริ่มทำขายออนไลน์ก่อน เพราะช่วงนั้นยังทำอะไรมากไม่ได้ เราเริ่มจากง่ายๆ เลย เช่น ไลน์หมู่บ้าน, จุฬามาร์เก็ตเพลส, ธรรมศาสตร์และการฝากร้าน จากนั้นก็เริ่มเปิด Facebook Page, IG, TikTok และสื่อออนไลน์ต่างๆ ของตัวเอง เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada หรือ KTC U Shop ที่เป็นพาร์ทเนอร์ใหม่ นอกจากให้นำสินค้าไปวางจำหน่าย ยังหักเปอร์เซ็นต์เพียงเล็กน้อย ทำให้ทำกำไรได้ และก็ร้านค้าสุขภาพ เช่น Healthy Valley ก็ติดต่อเข้ามา
“คอนเซปต์ของน้ำญาใจ เราไม่ได้เอาเงินเป็นที่ตั้ง แต่จะค่อยๆ เริ่มจากเล็กๆ ไปก่อน แต่โตอย่างมั่นคง ตอนเริ่มต้นเราก็ใช้เงินลงทุนเบื้องต้นแค่ 500 บาท เริ่มจากแค่อยากทำของดีๆ ขาย ได้ทำอะไรร่วมกันในครอบครัว ได้สอนลูกให้รู้จักการทำงาน เราคิดแค่นั้นเลย แล้วทุกอย่างมันก็มาเอง”
3 วัตถุดิบฮีโร่ จากไทยแท้
คุณแม่นักฟู้ดไซน์ได้อธิบายคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นของน้ำยาล้างจานน้ำญาใจ ว่าเป็นน้ำยาล้างจานที่ประกอบไป ด้วย 3 วัตถุดิบหลักจากผลไม้ไทย ได้แก่ ส้มเกลี้ยง, มะกรูด และสัปปะรด แต่ละอย่างมีสรรพคุณพิเศษ คือ ส้มเกลี้ยง ช่วยในการซักล้างที่ดี และป้องกันแบททีเรีย, มะกรูด ช่วยดับกลิ่นคาวในภาชนะ และสัปปะรด ทำหน้าที่ย่อยคราบไขมันและโปรตีน ตัวผลิตภัณฑ์ไม่มีการแต่งกลิ่น หรือสีสังเคราะห์ใดๆ วัตถุดิบก็มาจากฟาร์มออร์แกนิกและแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ ทุกอย่างจึงถือเป็น Food Grade 100 เปอร์เซ็นต์
“จุดเด่นของเรา คือ เอาพืชท้องถิ่นมาทำสินค้า ซึ่งผู้เล่นรายใหญ่ที่ต้องการตลาดแมส เขาอาจใช้วัตถุดิบที่แตกต่างจากเรา แต่ของเรา คือ เป็นน้ำยาล้างจานออร์แกนิกที่มีส่วนผสมจากผลไม้จริงมากถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว จากผลไม้ 3 ชนิดที่ได้กล่าวไป นอกจากช่วยเรื่องการซักล้างที่สะอาดแล้ว ผลไม้ 3 ชนิดที่เราสกัดออกมายังมีโพรไบโอติกช่วยบำบัดน้ำเสียได้ด้วย โดยสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติในระยะเวลา 2-28 วัน จากการเก็บรวบรวมสถิติเราพบว่าในแต่ละวันบ้านเรือนต่างๆ จะมีการล้างจานประมาณ 18 ลิตรต่อวัน ซึ่งนั่นหมายความว่าหากเราสามารถส่งเสริมให้ครัวเรือนต่างๆ หันมาใช้ได้มากขึ้น ก็เปลี่ยนจากน้ำเสียเป็นน้ำสะอาด ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อโลก”
ดีต่อคน ดีต่อโลก
นอกจากจุดเด่นด้านคุณภาพแล้ว ราคาขายของน้ำญาใจ ก็ถือว่าโดดเด่น ไม่แพ้กันด้วย โดยจำหน่ายในราคาเพียง 150 บาท มีให้เลือก 2 รูปแบบ คือ ขวดปั๊ม 450 ml และแบบซองรีฟิล 900 ml ซึ่งหากเทียบกับน้ำยาล้างจานออร์แกนิกที่มีอยู่ในตลาดแล้วถือว่าราคาค่อนข้างถูกมาก
“เราไม่อยากขายแพง เพราะอยากให้ทุกคนจับต้องได้ โดยน้ำญาใจ 1 ซอง (900 มล.) สามารถล้างจานได้มากถึง 300 ครั้ง (ภาชนะสำหรับ 3 คน) ตกครั้งละ 0.5 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับน้ำยาล้างจานออร์แกนิกทั่วไปราคาจะตกอยู่ที่ซองละ 200-500 บาท
“ในการทำธุรกิจของแบรนด์น้ำญาใจเราจะยึดหลัก 3 P ได้แก่ People, Planet และ Profit เริ่มจาก People เราตั้งใจที่จะช่วยตอบโจทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าให้ได้ ก็คือ ส่วน Planet ก็คือ สร้างผลกระทบต่อโลกให้น้อยที่สุด เช่น สามารถย่อยสลายได้ในเวลา 2-28 วัน บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ก็สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทุกส่วน ทั้งขวดและซองพลาสติก และสุดท้าย Profit เราไม่ได้อยากเอากำไรเยอะๆ แต่อยากทำแค่พอให้เราอยู่ได้ มีกำไรนิดหน่อย แต่อยากให้คนได้ใช้กันเยอะๆ เพื่อดีต่อสุขภาพของตนเอง และโลก”
1 ภูมิภาค 1 น้ำญาใจ
ปัจจุบันจากเป้าหมายที่อยากให้ทุกคนได้หันมาใช้น้ำยาล้างจานจากน้ำญาใจกันมากขึ้น ผศ.ณิชยา จึงตั้งเป้าขยายการผลิตจาก 500 ชิ้นต่อเดือน ให้กลายเป็น 4,000 ชิ้นต่อเดือน เพื่อรองรับการตลาดที่ขยายเพิ่มมากขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น จีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆ โปรเจกต์ที่คิดอยากทำขึ้นมา เช่น “1 ภูมิภาค 1 น้ำญาใจ” เพื่อช่วยส่งเสริมให้เกิดผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วย
“ในการทำตรงนี้ ถ้าเราทำคนเดียวอาจไม่สำเร็จ ดังนั้นเราจึงอยากสร้างผู้ประกอบการที่มีแนวคิดแบบเดียวกันให้เกิดขึ้นอีกเยอะๆ โดยไม่ได้ฟิกรูปแบบว่าต้องมาร่วมทำกับเราเท่านั้น แต่อยากให้ลองมาแลกเปลี่ยนกัน บางคนอาจทำของตัวเองก็ได้ เรายินดีเป็นที่ปรึกษาให้ ขอแค่ได้ลองนำภูมิปัญญาท้องถิ่น พืชพรรณต่างๆ ที่มีอยู่ในบ้านเรา มาช่วยแก้ไขปัญหาให้ผู้คนได้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ชุมชนก็ดีขึ้นด้วย ใน 1 ภูมิภาค เราอยากให้มีแบบน้ำญาใจอย่างน้อยสัก 1 คน เท่านี้ก็พอแล้ว ในส่วนของน้ำญาใจเอง เราก็จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นด้วย”
น้ำญาใจ โทร. 083 999 9350 |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี