TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : Miss & Kiss
Main Idea
- “Miss & Kiss” คือ แบรนด์น้ำหอมหลักร้อย ที่ชูจุดเด่นแบรนด์ด้วยราคาย่อมเยา แต่คุณภาพเกินคุ้ม
- ใช้เทคนิคมุ่งผลิตของดี ใช้งบการตลาดน้อยๆ ชูจุดเด่นสินค้าขายได้ด้วยตัวเอง
จากช่องว่างและโอกาสในตลาดที่น้ำหอมคุณภาพดี ราคามักจะสูงมาก จุดประกายทำให้ อุ้ย- ณรัฐวรรณ พิมพ์วงษกุล และ ใหม่ -ปิยวรรณ สมบูรณ์บดีบุตร สองเพื่อนซี้ที่ฝันอยากจะสร้างธุรกิจของตัวเอง คิดแก้ปมผลิตน้ำหอมคุณภาพดีในราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “Miss & Kiss”
“ธุรกิจของเราเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4-5 ปีก่อน เราสองคนมีแพสชั่นที่อยากทำธุรกิจร่วมกันอยู่แล้ว โดยอุ้ยทำงานประจำเป็นพนักงานบริษัท ส่วนใหม่ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่แล้ว แต่กำลังประสบปัญหา ก็เลยคิดว่าทางออกของเรา คือ ต้องสู้เท่านั้น โดยเรามีความสนใจเรื่องน้ำหอม และมองเห็นช่องว่างว่าในตลาดน้ำหอมที่คุณภาพดีส่วนใหญ่ก็มักจะมีราคาสูงมาก อีกเกรดก็เป็นน้ำหอมราคาถูกไปเลย แต่ยังไม่มีน้ำหอมคุณภาพดี ในราคากลางๆ ที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย จึงจุดประกายให้เราอยากทำตรงนี้ขึ้นมา”
จากโจทย์ที่ตั้งไว้ อุ้ยและใหม่ได้วางแนวทางทำธุรกิจของตัวเองเอาไว้ 3 ส่วน คือ
1.ราคาดี คุณภาพโดน - ตัดงบการตลาด เอามามุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดี
“หัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ขายน้ำหอมคุณภาพดีได้ในราคาประหยัด เราต้องลดค่าใช้จ่ายส่วนผ่านคนกลาง โดยใช้งบการตลาดให้น้อยที่สุด เราจึงทุ่มงบลงทุนที่มีอยู่ไปกับการจัดตั้งโรงงานผลิตน้ำหอม เพื่อพัฒนาสูตรและควบคุมคุณภาพได้ด้วยตัวเอง โดยแทบจะไม่ได้ใช้งบประมาณในการทำโฆษณาเลย วิธีนี้ทำให้เราสามารถควบคุมต้นทุนและขายสินค้าได้ในราคาเพียงขวดละร้อยกว่าบาท จนวันนี้สิ่งที่เราภูมิใจมาก คือ สินค้าสามารถขายได้ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อลูกค้าลองใช้แล้วชื่นชอบ ก็ช่วยไปบอกต่อให้มาลองใช้น้ำหอมแบรนด์นี้สิ ราคาถูก หอมติดทนนานด้วย ทำให้ยอดขายดีขึ้นเรื่อยๆ สินค้าสามารถขายได้ด้วยตัวเอง”
2.ดีไซน์แตกต่าง – ใช้ลวดลายการ์ตูน เป็นไอเทมเก๋ๆ ดูทันสมัย
หลังเปิดตัวออกสู่ตลาด อุ้ยและใหม่ต่างช่วยกันพัฒนาสินค้า ให้มีทั้งกลิ่นและบรรจุภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย ตอบความต้องการลูกค้าได้ครบถ้วน ตั้งแต่กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน จนปัจจุบันมีออกมาแล้วมากกว่า 50 กลิ่น ในส่วนของบรรจุภัณฑ์มีการเพิ่มดีไซน์ลวดลายกล่องเป็นภาพการ์ตูนสไตล์อนิเมะ จนเกิดเป็นภาพจำของลูกค้า โดยช่วงแรกเน้นขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ควบคู่กับการใช้ตัวแทนขาย และนำเสนอวางสินค้าขายตามร้านค้าปลีก-ค้าส่งในพื้นที่จังหวัดต่างๆ จนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น
3.วางแผนระยะยาว ขยายตลาดกว้างขึ้น - ผ่านโมเดิร์นเทรด กระตุ้นยอดขายโตก้าวกระโดด
จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 4-5 ปีก่อน ในวันนี้อุ้ยและใหม่วางแผนธุรกิจเพื่ออยากเติบโตต่อเนื่องไปในระยะยาว โดยมองว่าการทำให้สินค้าสามารถกระจายเข้าสู่ผู้บริโภคได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยให้ธุรกิจเกิดความมั่นคงได้มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งล่าสุดได้ขยายตลาดเข้าวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดได้แล้ว
“ปีนี้เรียกว่าเป็นการเติบโตอีกก้าวของแบรนด์ที่สามารถเข้าวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดได้ ซึ่งปกติเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ทั้งเงื่อนไข และค่าใช้จ่าย แต่หากสามารถเข้าได้ สินค้าของเราก็จะถูกกระจายออกไปได้ไกลขึ้น ยอดขายโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่เราได้เข้าร่วมโครงการกับทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ที่เป็นตัวกลางจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ทำให้เราได้เข้าไปพรีเซนต์สินค้ากับห้างโลตัสโดยตรง ได้นำเสนอสินค้าเรามีจุดเด่นอย่างไร ได้เอาสินค้าให้เขาดูจริงๆ เขาได้ให้คอมเมนต์กลับมา ซึ่งแค่นี้ก็นับเป็นโอกาสมากแล้ว เราจะได้รู้ว่าควรพัฒนาอะไร แต่โชคดีที่เราได้รับคัดเลือกด้วย จึงทำให้ยอดขายเติบโตขึ้นกว่า 30% ทีเดียว และยังสร้างความเชื่อมั่นของแบรนด์ให้กับลูกค้าได้มากขึ้นในการต่อยอดธุรกิจผลิตสินค้า OEM ให้กับลูกค้าท่านอื่นๆ ด้วย”
นับเป็น 3 แนวทางในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ราคาดี สินค้าดี ดีไซน์ดี ช่องทางจำหน่ายดี แล้วแบบนี้ยอดขายจะหนีไปไหนล่ะ…ว่าม่ะ!
“Miss & Kiss” โทร. 090 628 9421 FB :Miss&Kiss Perfume IG :missandkiss_perfume |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี