TEXT / PHOTO : ชาญชัย หาสสุด
Main Idea
- "TEMP" คือ ร้านกาแฟกึ่งแกลอรี่ที่อยากสร้างพื้นที่ให้ศิลปินในภูมิภาคอีสาน โดยใช้กาแฟเป็นจุดเชื่อมให้คนทั่วไปได้ซึมซับงานศิลป์ ตั้งตัวอยู่ที่จ.อุดรธานี
- แกลอรี่ที่มีกาแฟเป็นบัตรเชิญ ส่งลูกค้าเข้าชมงานของศิลปินอย่างเนียนๆ เพราะเชื่อว่าทุกคนซ่อนศิลปะอยู่ในหัวใจ
กระจกใสหน้าร้านสว่างพอให้มองเห็นบรรยากาศภายในจากข้างนอก มองเข้าไปผมเห็นว่า "TEMP" ไม่ได้หวงพื้นที่อย่างร้านกาแฟอื่น ที่นี่ไม่ได้ยัดโต๊ะ เก้าอี้ ให้แน่น เพื่อให้ได้ปริมาณลูกค้าสูงสุด เมื่อผลักประตูเข้าไป ที่นี่ไม่เป็นอย่างร้านกาแฟทั่วไป แต่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนแกลอรี่ที่ขายกาแฟมากกว่า
พีเจี้ยน-รักอิสระ มุกดาม่วง เจ้าของความคิดที่จะสร้างพื้นที่ให้คนทำงานศิลปะ เพราะเชื่อในความสำคัญของการแสดงผลงานของศิลปิน
“ผมมีความคิดแค่ อยากทำแกลอรี่แสดงงาน ขายโค้กกระป๋องเพื่อให้ได้ค่าเช่า แต่มันเป็นความคิดเมื่อวัยหนุ่ม ต่อมาเมื่อโตขึ้น เรารู้คำตอบว่ามันไม่ใช่ แกลอรี่อย่างเดียวจะอยู่ไม่รอด ทั้งที่เรารู้อยู่แล้วว่าความต้องการในงานศิลปะของคนบ้านเรา ยังไม่เบ่งบานหรือสุกงอมพอ”
พีเจี้ยนเริ่มต้นบอกเล่าความฝันในวัยรุ่น ที่เมื่อวันหนึ่งการเติบโตของวัยทำให้เราตกตะกอนและฉุกคิดอะไรได้รอบด้านขึ้น
“ผมเคยฝึกงานที่ A Day รุ่น a team junior 11 และทำงานเป็นช่างภาพของทั้ง A Day, The Cloud และ WWF จนถึงเวลาหนึ่งจึงเข้าใจว่า ศิลปินต่างต้องการพื้นที่แสดงงาน เมื่อกลับมาอยู่อุดร ได้ตระเวนหาพื้นที่โชว์ภาพเป็นปีๆ แต่หาไม่ได้ ที่มีก็ขาดๆ เกินๆ ยิ่งถ้าเป็นพื้นที่เอกชนก็มีค่าใช้จ่ายสูงและเงื่อนไขเยอะเกินไป จนวันหนึ่งมีทุนทรัพย์มากพอ จึงเปิดร้านสนองความต้องการตัวเอง หาพื้นที่ในอุดมคติ”
TEMP คือ พื้นที่แสดงความเป็นตัวตนของพีเจี้ยน ที่ต้องกาเอาร้านกาแฟกับศิลปะมาอยู่ด้วยกัน เพราะเห็นถึงพฤติกรรมการไปคาเฟ่ของคน ซึ่งยังมีความต้องการสูงอยู่และเป็นเรื่องง่ายที่จะดึงคนทุกเพศทุกวัยเข้ามาในพื้นที่ให้ได้ก่อน
“ผมเลยใช้วัฒนธรรมแบบคาเฟ่มาเชื่อมโยงแกลอรี่กับคนที่ชอบและไม่ชอบศิลปะ อย่างน้อยให้เขาได้เห็นก่อน แล้วค่อยๆ ซึมซับทีละนิดๆ เพราะผมเห็นว่าคนสนใจศิลปะมากขึ้น ผ่านการถ่ายรูป พาตัวเองไปอยู่กับงานศิลปะ มันเป็นคาแรคเตอร์ในการท่องเที่ยวไปแล้ว”
พีเจี้ยนยังสร้างพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นสตูดิโอถ่ายภาพให้เช่า ซึ่งลูกค้าส่วนนี้ยังสามารถเชื่อมโยงมายังร้านกาแฟได้อีกและจบที่การได้มองศิลปะ
พีเจี้ยนสรุปให้ฟังว่า สุดท้ายลูกค้าทั้งหมดทั้งส่วนของร้านกาแฟ แกลอรี่และสูตูดิโอ ต่างมีทางเดินนำไปสู่ศิลปะ จึงเชื่อว่าจะต้องเกิดการหล่อหลอมให้เกิดชุมชนและพัฒนาให้ศิลปะได้เติบโตต่อ
“ศิลปินที่เราเลือกมา ต้องเป็นคนอุดรหรือภูมิภาคอีสาน ที่ทำงานเกี่ยวกับการสะท้อนความเป็นท้องถิ่นและภูมิภาค ดึงตัวตนของบ้านเกิดออกมาเป็นงานศิลปะ
“ตั้งแต่เปิดร้านมา เรามีการแสดงงานไปแล้ว 3 ครั้ง ครั้งแรกเป็นงานภาพถ่ายของผม ครั้งที่ 2 เป็นงานเปิดตัวสินค้าที่ต้องการเชื่อมแบรนด์กับสินค้า และครั้งล่าสุดตอนนี้เป็นงานของครูเตย ที่ใช้ชื่อว่า 'THE FLOWER OF LIFE : solo art exhibition by NHAMM'
“งานทุกครั้งมีเสียงตอบรับที่ดี มีคนสำคัญผ่านมาร่วมงานด้วย แต่มีแนวโน้มต้องสู้ต่อ อยู่ที่ผมด้วยว่าจะขยันขนาดไหน ถ้าทำต่อเนื่องและต้องมีคนสนใจเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
"Art Space คือ ภาพรวมของที่นี่ เพราะผมเชื่อว่า ความจริงใจ ความใส่ใจ จนถึงสัมผัสที่มี รูป รส กลิ่น เสียง ทุกอย่างถือเป็นศิลปะ ที่นี่อาจจะไม่ได้ดีเท่าหอศิลป์ในกรุงเทพ แต่เราต้องการสื่อสารให้อยู่ในมาตรฐานอย่างซื่อสัตย์ จริงใจในความเป็นศิลปะ”
วันนั้นถ้าผมไม่ตั้งใจผลักประตูกระจกบานใสนั้นเข้าไป TEMP คงเป็นแค่ร้านกาแฟทั่วไปที่พยายามสร้างคอนเซปต์ให้ตัวเองแตกต่าง แต่หลังจากที่ได้คุยกับพีเจี้ยน ผมยิ่งดิ่งลึกในความคิดของเขาและสัมผัสได้ถึงจิตวัญญาณของ TEMP
หมายเหตุ
นิทรรศการ “THE FLOWER OF LIFE”
solo art exhibition by NHAMM
ระยะเวลาจัดแสดง : 1 กรกฏาคม - 30 กันยายน 2566
เวลาทำการ • เปิดทุกวัน
จ-ศ 08.00-17.00 น.
ส-อ 09:00-18:00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี