TEXT / PHOTO : ชาญชัย หาสสุด
Main Idea
- "เฒ่าทะเล" แพพักกลางป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์ระดับโลก สร้างด้วยงบไม่เกิน 5,000 บาท รับนักท่องเที่ยวมาแล้วกว่า 5 ปี ด้วยความตั้งใจให้ผู้มาเยือนได้ใช้ชีวิตเรียบง่าย อิงธรรมชาติให้มากที่สุด
- โดยแพที่พักควบคุมคุณภาพของการบริการ รับนักท่องเที่ยวแค่วันละกลุ่มและไม่เกิน 15 คน แต่ไม่กำหนดขั้นต่ำ มาแค่ 2 คนก็รับ
ถ้าเอ่ยถึง ระนอง น้อยคนนักจะนึกถึงอย่างอื่น นอกจากน้ำพุร้อนและเกาะทะเลพม่า ด้วยลักษณะของภูมิประเทศเป็นพื้นที่ราบชายฝั่ง ทำให้ระนองกลายเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าชายเลนมากเป็นติด 1 ใน 5 ของประเทศและมีความอุดมสมบูรณ์ติดอันดับโลก ความน่าสนใจทางธรรมชาติที่นี่ดึงดูดให้ผมได้รู้จักแพพักกลางป่าโกงกางในลำน้ำคลองเขายั่ว ชื่อว่า “เฒ่าทะเล”
จากกระชังเลี้ยงหอยแมลงภู่เล็กๆ เมื่อ 8 ปีก่อน มาวันนี้ เฒ่าทะเล ค่อยๆ เติบโตด้วยสองมือของ ตา-ประสิทธิ์ ไกรสิทธิ์ จนกลายเป็นแพพักรูปทรงแปลก โครงแพเป็นไม้ ไร้ผนัง ยกเว้นส่วนที่เป็นที่พักของเจ้าของกับห้องน้ำของคนพัก หลังคาบิดเบี้ยวไปตามโค้งเว้าที่ตาอยากให้เป็น ชายคาถูกสร้างให้ลงต่ำจนเกือบชนกับพื้นแพ ให้เป็นมิตรมากที่สุดกับสายฝนและลมแรงช่วงฤดูมรสุม
“เมื่อประมาณสัก 12-13 ปีก่อน ผมเคยทำงานเป็นนักข่าวที่ภูเก็ตมาก่อน” ตาเริ่มแนะนำตัว เมื่อเรานั่งล้อมวงคุยกัน
“ตอนที่ย้ายมาอยู่ระนองใหม่ๆ เริ่มจากทำขนำเล็กๆ ในที่ดินของครอบครัว ทำสวนผัก แต่ไปไม่รอด เพราะภัยธรรมชาติ ย้ายมาอยู่บนนี้กับเพื่อน เมื่อก่อนทำแค่กระชังเลี้ยงหอยแมลงภู่ อยู่ๆ ไปเพื่อนสอบเข้าราชการได้ เลยยกให้ เมื่อเริ่มใช้ชีวิตอยู่จริงจัง จึงรู้สึกชอบ”
หลังจากฟังความเป็นมาในชีวิตของตาก่อนเริ่มทำเฒ่าทะเล ผมพบว่ามันเป็นแค่เรื่องราวสูตรสำเร็จชีวิตของคนที่รู้สึกอิ่มตัวแล้วเริ่มเบื่อเมือง ต้องการหาความสงบให้ตัวเอง แต่รายละเอียดลึกลงไป ผมพบว่าทุกอย่าง คือ ความตั้งใจที่เกิดจากพลังของคนคนหนึ่งจริงๆ
“สามปีแรก ผมตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง ทิ้งโทรศัพท์เลย ค่อยๆ หาเศษไม้ ขยับขยายเป็นกระชังเลี้ยงปลา เก็บเล็กเก็บน้อยกับแฟน จากงบประมาณแค่ 5,000 บาท ใช้เวลาไปเกือบ 8 เดือนในช่วงหน้าฝน ผมกับแฟนต่างมีความสุขที่ได้อยู่ตรงนี้และใช้ชีวิตแบบนี้ จนเวลาผ่านไปสัก 3 ปี จนเพื่อนตามมาเจอ และหลายคนกลับมาเยี่ยมมานอนค้าง มีเพื่อนๆ และกลุ่มอาสาจากกรุงเทพฯ ลงมาช่วยต่อเติมด้วย จนได้แพเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็น เฒ่าทะเลจึงกลายเป็นที่พัก และเริ่มรับนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่นั้น”
ตาเล่าว่า ช่วงที่เฒ่าทะเลมีกระแสมากๆ เกิดจากช่วงโควิด ผู้คนเดินทางไปไหนไม่ได้ ที่นี่เลยกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอิงธรรมชาติติดใน Bucket List ของหลายคนในระนอง ทำให้เกิดการส่งต่อความประทับใจผ่านทั้งโซเชียลและปากต่อปาก จนแพร่หลายไปยังคนนอกจังหวัด
“แพจะรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดแค่ 15 คนต่อกลุ่มต่อครั้ง และไม่มีกำหนดขั้นต่ำ มาแค่ 2 คนเราก็รับ เพราะอยากให้ทุกคนได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ถ้ากลุ่มไหนสนใจกิจกรรมแบบไหน เราก็สามารถจัดให้ได้ตามความสนใจ ส่วนกิจกรรมยอดนิยมของที่นี่ คือ การตักหมึก มีช่วงเวลาเหมาะสมประมาณปลายฝนต้นหนาว ยาวไปจนถึงปลายมีนาคม”
ตาบอกว่าช่วงแรกคิดราคาแค่ 200-300 บาทต่อคนต่อคืน มีอาหารให้ด้วย จนลูกค้าทนไม่ไหวกับความใจดี จึงตั้งราคาใหม่ให้ตามความคุ้มค่าที่ได้รับ
“ตอนนี้ผมทำที่พักเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ยอดจองยังมีอยู่ต่อเนื่อง ด้วยความที่เราเน้นจุดเด่นเรื่องความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายในธรรมชาติ อยู่ด้วยกันแบบมาพักกับเพื่อน ต่อไปถ้าทำไหวก็อาจจะเพิ่มกิจกรรมให้หลากหลายขึ้น”
“เฒ่าทะเลมีความโชคดีอย่างหนึ่ง คือ รอบๆ นี้ไม่มีการเลี้ยงกุ้ง ทำให้น้ำสะอาดไม่มีมลพิษปนเปื้อน ธรรมชาติ ป่าชายเลนยังบริสุทธิ์ สัตว์ทะเลจึงสมบูรณ์”
เหมือนอย่างที่ตาบอก แค่นั่งนิ่งๆ ใช้เวลามองน้ำขึ้นน้ำลง ผมเห็นฝูงปลามากมายว่ายผ่านตรงหน้า ในขณะที่เพื่อนอีกกลุ่มออกไปตกปลา ใช้เวลาไม่นาน เราก็ได้อาหารสดใหม่จากท้องทะเลให้ลิ้มลอง
จานกุ้งหอยปูปลาสดๆ เต็มโต๊ะตรงหน้ากับภาพความสวยงามของพระอาทิตย์ตกหลังป่าชายเลนในเย็นนั้น ทำให้เราได้คำตอบของความสุขอีกแบบ ผมจึงนึกภาพต่อไปออกไม่ยากว่า หากช่วงหนึ่งช่วงใดที่แพเฒ่าทะเล ว่างเว้นจากผู้มาเยือน มันไม่ลำบากเลยที่จะใช้ชีวิตให้อยู่รอด บางครั้งชีวิตที่เรียบง่ายธรรมดาที่นี่อาจจะดีกว่าชีวิตสุขสบายกลางเมืองของพวกเราด้วยซ้ำ
เฒ่าทะเล https://www.facebook.com/profile.php?id=100063704192567 โทร. 093 681 4002 |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี