TEXT / PHOTO : ชาญชัย หาสสุด
Main Idea
- หลักข้อหนึ่งในการทำธุรกิจที่มักถูกพูดถึงเสมอ ก็คือ ให้ทำในสิ่งที่รัก และทุกอย่างจะออกมาดีเอง เพราะอย่างน้อยก็ได้ทำในสิ่งที่รัก
- นี่คือ สิ่งที่สามารถสัมผัสได้จาก “บ้านจันทร์เพ็ญ” ร้านขนมไทยหน้าตาทันสมัยในจังหวัดพังงา ที่โด่งดังมาจากทำขายในโลกออนไลน์ ได้รับความนิยมล้นหลาม จนต้องต่อยอดขยายกิจการเปิดหน้าร้านขึ้นมาในที่สุด
- ล่าสุดได้ส่วนผสมที่ลงตัว จากบาร์กาแฟเล็กๆ ที่ผลิตคั่วเมล็ดเองภายใต้แบรนด์ “อร่อยชิปหายการคั่ว” จากดีกรีแชมป์ Home Brewer Cup 2022 by KINTO Thailand ก็ยิ่งส่งเสริมร้านให้โดดเด่น น่าสนใจ ถูกใจคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น จนใครมาพังงา ต้องแวะมาลองให้ได้สักครั้ง
พังงา เมืองเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางภูเขา เรามักจะคุ้นเคยกับภาพหมอกขาวบางๆ ลอยต่ำปกคลุมตัวเมืองในยามเช้า “บ้านจันทร์เพ็ญ” ร้านขนมไทยน่าลิ้มลอง ตั้งอยู่ตรงข้างเขาช้าง เขาหินปูนมีรูปร่างคล้ายช้างที่คนทั่วไปมองเป็นแลนด์มาร์กใจกลางเมือง
ด้วยความที่เติบโตมากับครอบครัวที่มีฝีมือด้านการทำอาหาร ทำให้ หนิง - พัชราภรณ์ จันทร์เพ็ญ ซึมซับรสมือที่สืบต่อกันมาตั้งแต่จำความได้
“พ่อมีร้านข้าวมันไก่ที่อำเภอทับปุด ย่ามีพื้นฐานการทำอาหารใต้ บ้านแม่ที่ตรัง มียายทำขนมไทยขาย ส่งเสียเลี้ยงลูกๆ มา”
หนิงเท้าความ แล้วเล่าให้ผมฟังว่า ชื่อร้านก็ตั้งมาจากนามสกุล ก่อนเริ่มทำบ้านจันทร์เพ็ญในปัจจุบัน เคยขายขนมไทยออนไลน์ ชื่อ “จันทร์เพ็ญ ขนมไทย” โดยมีน้องชาย (โหน่ง - ฤกษ์กฤษ จันทร์เพ็ญ) ช่วยทำตลาดออนไลน์ให้จนคนรู้จักร้าน มียอดสั่งจำนวนมากเกินจากที่คาดหวัง ขนมชูโรงของร้าน คือ สัมปันนี
“เชื่อไหมพี่ คนที่อื่นรู้จักขนมของเรามากกว่าคนในพื้นที่อีก ความโดดเด่นของขนมสัมปันนีที่ร้าน คือ หน้าตาการนำเสนอน่าสนใจ พิมพ์ด้วยลายสวยๆ จัดพร้อมแพ็กเกจด้วยชะลอมไม้ไผ่ มีความเป็นไทยๆ เมื่อลูกค้าได้ชิมจะพบว่า สัมปันนีของเราจะถูกปรับสูตรให้เหมาะกับคนทั่วไปมากขึ้น กรอบ ละลายในปากและหวานน้อย”
หนิงอธิบายถึงส่วนสำคัญที่สามารถชนะใจลูกค้าได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้ใช้เวลาในการศึกษาเพิ่มเติมมากพอสมควร ซึ่งผมได้รู้มาว่าขนมสัมปันนี หลักๆ มี 2 สูตร คือ สูตรนิ่มกับกรอบ บ้านจันทร์เพ็ญเลือกสูตรแบบกรอบ ซึ่งจริงๆ แล้ว สัมปันนีมีส่วนผสมไม่ซับซ้อน ใช้แค่แป้งมันสำปะหลัง น้ำตาลและกะทิ แต่ต้องใช้ความละเอียดในการเตรียมส่วนผสม เริ่มจากการคั่วแป้งมันสำปะหลังที่ต้องใช้เวลา แล้วจึงนำมานวดกับน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำกะทิให้ได้ที่ แล้วจึงเข้าพิมพ์และจบด้วยการอบเป็นขั้นตอนสุดท้าย
“ที่เลือกทำขนมไทย เพราะดูเป็นเรื่องที่คนทั่วไปรู้จักอยู่แล้ว แต่ขณะเดียวกันก็อยากหาอะไรที่แตกต่างไปจากร้านขนมทั่วไป อยากสืบทอดขนมไทยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงง่าย นอกจากสัมปันนีแล้ว ที่ร้านยังมีกลีบลำดวนที่ปรับรสชาติให้กินง่าย โดยเลือกใช้ควันเทียนที่กลิ่นไม่แรง มีความหอมนุ่มโทนดอกไม้สีขาว”
ด้วยเสียงตอบรับมากมายจากยอดสั่งออนไลน์ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลอย่างปีใหม่ หนิงและโหน่งบอกว่า ปีแรกที่ขายทำยอดได้ 100 กว่ากล่อง ในปีต่อมาเมื่อปีใหม่ 2564 ยอดเพิ่มแบบก้าวกระโดดถึงห้าร้อยกว่ากล่อง ซึ่งปีใหม่ล่าสุดก็ยังคงอยู่ที่จำนวนห้าร้อยกว่ากล่องเหมือนเช่นเดิม เพราะเป็นจำนวนที่เต็มขีดความสามารถของบ้านจันทร์เพ็ญแล้ว
“แค่ 15 กล่องใช้เวลาไปถึง 4 ชั่วโมงแล้ว ไม่รวมคั่วแป้ง เรารับแค่ในปริมาณที่ควบคุมคุณภาพได้ ถ้าเกินกว่านี้ แล้วคุณภาพด้อยลง เราขอพอดีกว่า” หนิงยืนยันถึงขีดจำกัดของปริมาณกับคุณภาพที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจได้
หนิงเล่าว่า ด้วยความอยากขยายร้านให้กว้างขึ้น จึงปิดร้านเก่า ซึ่งเป็นที่ผลิตเล็กๆ และเน้นขายออนไลน์ แล้วย้ายมาเปิดหน้าร้านเต็มตัวที่โรงแรมหลักเมือง 2 เป็นบ้านจันทร์เพ็ญในปัจจุบัน นอกจากขนมไทยที่ตั้งใจ ที่ร้านยังมีอาหารพื้นเมืองขายด้วย มีเมนูหลากหลายด้วยรสชาติดั้งเดิม ตามสูตรที่หนิงและครอบครัวทำกินเองประจำที่บ้าน ตลอดจนมีเมนูพิเศษเฉพาะเทศกาลด้วย
ความพิเศษอีกอย่างที่ผมไม่อยากให้ใครที่ชอบดื่มกาแฟพลาด นอกจากหนิงที่ทำอาหารให้เราลิ้มลองฝีมือแล้ว ปอนด์ - ปิยมิตร ทัพบำรุง แฟนของหนิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกาแฟรสชาติดีเยี่ยม เจ้าของแบรนด์ “อร่อยชิปหายการคั่ว” ดีกรีแชมป์ Home Brewer Cup 2022 by KINTO Thailand เล่าให้ฟังถึงการเปลี่ยนชีวิตตัวเอง จากการเป็นเชฟสู่สังคมกาแฟ
“ไม่ได้คาดหวังอะไรจากการแข่งขันเลยพี่ ด้วยความที่เพิ่งหายจากโรคซึมเศร้า เพิ่งเปลี่ยนจากชีวิตเชฟมาเป็นบาริสต้า เพราะรู้สึกว่าตอบโจทย์มากกว่า ร่วมรายการแข่งขันเรื่อยๆ เลยยิ่งหลงเสน่ห์ของสังคมกาแฟ ชีวิตเปลี่ยนเมื่อเครื่องชั่งกาแฟที่ร้านพัง เลยเรียนรู้การชงกาแฟจากการดมกลิ่นโดยบังเอิญ อาศัยประสบการณ์และเรียนรู้เพิ่มเติม ยิ่งมีข้อมูลยิ่งทำให้อยากศึกษาจนถึงขั้นตอนการผลิตเมล็ดจากเกษตรกร ทำให้ยิ่งรู้ลึกยิ่งชอบกาแฟ มีสังคมมากขึ้น มีความสุขมากขึ้น”
หลังจากนั่งฟังหนิงและปอนด์เล่าเรื่องชีวิตและความชอบ ทำให้เห็นถึงโครงสร้างน่าสนใจที่แสนลงตัวของบ้านจันทร์เพ็ญ คนหนึ่งมีความชำนาญด้านขนมไทย อาหารพื้นบ้าน อีกคนมีความรู้เกี่ยวกับทำอาหารมาก่อนและเชี่ยวชาญเรื่องกาแฟ
“เราอยากเปิดคอร์สทำขนมไทย อยากให้คนเห็นคุณค่า”
หนิงส่งท้ายด้วยความฝันตัวเอง และผมมั่นใจว่า เป็นไปได้แน่นอน
บ้านจันทร์เพ็ญเปิดโลกให้ผมรู้จักขนมไทยมากขึ้น เห็นขั้นตอนการทำ ได้ชิม อาจจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับคนทั่วไปในการสร้างสรรค์ให้ได้โปรดักต์อย่างที่ตั้งใจแบบนี้ แต่ผมเห็นถึงสิ่งสำคัญมากกว่านั้น คือ ความตั้งใจทำในสิ่งที่รัก สิ่งใดก็ตามที่เราทำออกมาด้วยความรู้สึกที่ดี ผลลัพธ์จะสื่อถึงความรักนั้นให้คนพบเห็นสัมผัสได้เสมอ
บ้านจันทร์เพ็ญ https://www.facebook.com/Bannchanpenlm2 อร่อยชิปหายการคั่ว |
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี