ทำความรู้จัก Cotti Coffee กาแฟจีนที่ถูกเลือกเสิร์ฟให้นักกีฬาในบอลโลก 2022

TEXT: วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์

Main Idea

  • กลางปี 2020 ชาร์ลส์ หลู ถูกปลดจากซีอีโอ Luckin Coffee แบรนด์กาแฟโด่งดังของจีน หลังพัวพันข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการปั้นตัวเลขยอดขายเท็จ

 

  • นั่นคือจุดจบของการบริหาร Luckin แต่เป็นจุดเริ่มต้นกับ Cotti Coffee กาแฟจีนที่ถูกเลือกเสิร์ฟให้นักกีฬาในบอลโลก 2022

 

     หากติดตามข่าวสารธุรกิจร้ากาแฟและคาเฟ่ในจีน หลายคนน่าจะรู้จัก “ลัคอิน คอฟฟี่” (Luckin Coffee) สตาร์ทอัพของจีนที่ดำเนินธุรกิจไม่กี่ปีก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดและผงาดขึ้นแท่นเชนร้านกาแฟที่มีสาขามากสุดในจีนแซงหน้าสตาร์บัคส์ที่ครองอยู่ 5,000 สาขา โดยล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมปีนี้ ลัคอินขยายจำนวนที่ 7,100 สาขา และทำรายได้เกือบ 500 ล้านดอลลาร์หรือราว 1.8 หมื่นล้านบาทในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ 

     ต้องยอมรับว่าการเติบโตของลัคอิน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการบริหารของหลู จางเหยา หรือ ชาร์ลส์ หลู นักธุรกิจจีนวัย 53 ปีผู้เข้ามาคลุกคลีช่วงลัคอินก่อตั้งไม่นานในฐานะ angel investor หรือนักลงทุนอิสระที่สนับสนุนเงินแก่สตาร์ทอัพขนาดเล็ก กระทั่งได้นั่งเก้าอี้ประธานบอร์ดบริหาร พร้อมควบตำแหน่งซีอีโอบริษัท

     จากลัคอินสาขาแรก ภายใต้การดูแลของหลู ลัคอินเติบโตกว่า 36,000 สาขาในระยะเวลาเพียง 2 ปีกลายเป็นร้านกาแฟที่เติบโตเร็วสุดในโลก และเขายังนำพาสตาร์ทอัพจากจีนรายนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็กเป็นผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม กลางปี 2020 หลูถูกปลดจากซีอีโอหลังพัวพันข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการปั้นตัวเลขยอดขายเท็จมูลค่า 340 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ลัคอินเปลี่ยนทีมผู้บริหารทั้งหมดก่อนที่บริษัทจะถูกถอดออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ในที่สุด 

เปิดร้านบะหมี่ แต่ไปไม่รอด

     หลังออกจากลัคอิน หลูก็วนเวียนอยู่กับธุรกิจอาหาร เขาเปิดร้านบะหมี่ “เฉียนเสียวเหมี่ยน” ที่ใช้โมเดลเดียวกับลัคอินในการรับออร์เดอร์และเดลิเวอรี่ แต่เปิดบริการแค่ 3 เดือน ร้านบะหมี่ก็ปิดตัวลง จากนั้นก็ซื้อหุ้นสตาร์ทอัพที่ทำ A-Bite Workshop แบรนด์อาหารพร้อมปรุงซึ่งขายแฟรนไชส์ได้ 6,000 รายใน 4 เดือนแรกของการก่อตั้งธุรกิจ แต่ท้ายที่สุดก็ไปไม่รอดต้องม้วนเสื่อพับกิจการ

     หลูกลับมาเล็งธุรกิจคาเฟ่ที่ดูเหมือนถนัดกว่า และเป็นตลาดที่ยังดูสดใส ข้อมูลจากบริษัทไอมีเดีย รีเสิร์ชระบุอุตสาหกรรมกาแฟในจีนจะยังเติบโตในอัตรา 27.2 เปอร์เซ็นต์ และมีมูลค่า 137 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4,900 ล้านบาทในปี 2025 หลูจึงได้ชักชวนเจนนี่ เฉียนซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งลัคอินและเป็นอดีตซีอีโอเช่นกันมาปั้นแบรนด์คาเฟ่ใหม่ ทั้งคู่ได้ตั้งบริษัทคอตติ คอฟฟี่ (เทียนจิน) จำกัดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านดอลลาร์ โดยมีเจนนี่เป็นตัวแทนผู้มีอำนาจลงนาม หลังจากนั้นก็ได้รวบรวมทีมงานขึ้นมา

     ตามคอนเซปต์ที่วางไว้ รูปแบบร้านคอตติ คอฟฟี่ (Cotti Coffee) จะแบ่งเป็น 2 แบบ แบบแรกเป็นร้านขนาดเล็ก พื้นที่ถึง 50 ตารางเมตร ไม่มีที่นั่งและให้บริการซื้อไปทานข้างนอก หรือสำหรับลูกค้าที่สั่งออนไลน์แล้วแวะมารับเครื่องดื่มเท่านั้น กับแบบที่ 2 เป็นร้านขนาด 80-200 ตารางเมตร มีที่นั่ง และให้บริการเครื่องดื่มพร้อมอาหารคาวหวาน

     ล่าสุด คอตติ คอฟฟี่สาขาแรกได้เปิดให้บริการแล้วที่ฝูโจว เมืองหลวงของมณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกของจีน โดยร้านใหญ่มีที่นั่งในร้าน ช่วงเช้าให้บริการกาแฟ บิสกิต และขนมหวานต่าง ๆ กลางวันมีบริการอาหาร ช่วงบ่ายมีของว่างบริการ และช่วงเย็น ทางร้านมีเสิร์ฟไวน์ด้วย ส่วนร้านเล็กที่เป็นเหมือนซุ้มกาแฟเปิดจำหน่ายออนไลน์และเดลิเวอรี่ มีเครื่องดื่มให้เลือกกว่า 40 รายการ อาทิ กาแฟ ชา และสมูทตี้ ราคาอยู่ระหว่าง 18-32 หยวน (90-160 บาท) แต่ช่วงเปิดบริการใหม่ ทางร้านมีโปรโมชั่น เครื่องดื่มทุกชนิดจำหน่ายในราคาเดียวคือ 9.9 หยวนหรือแก้วละ 50 บาท  

มาแรงจนได้ไปเสิร์ฟให้นักฟุตบอล

     แม้จะเป็นแบรนด์กาแฟป้ายแดงในจีนที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่คอตติ คอฟฟี่ก็ได้ไปเฉิดฉายในมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กำลังมีขึ้นขณะนี้ที่กาตาร์ในฐานะเครื่องดื่มกาแฟที่จัดเสิร์ฟให้บรรดานักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนติน่า ถือเป็นกาแฟน้องใหม่ที่เปิดตัวได้แรงไม่เบาเลยทีเดียว หลูคาดหวังว่าคอตติ คอฟฟี่จะสามารถเบียดเข้ามาและเป็นเชนคาเฟ่ที่โดดเด่นในตลาดที่ร้านกาแฟมีจำนวนอุ่นหนาฝาคั่งอย่างจีน วัฒนธรรมการดื่มกาแฟในจีนนั้นมาแรงจนหลายแบรนด์กาแฟทั้งในและต่างประเทศต่างก็พยายามชิงส่วนแบ่งจากยักษ์ใหญ่ 2 ราย ได้แก่ลัคอิน และสตาร์บัคส์       

     หากมองปูมหลังของหลู ด้วยทรัพย์สิน 2,300 ล้านดอลลาร์ที่ครองอยู่ถือว่าไม่ธรรมดา เขาจบการศึกษาด้านระบบอัตโนมัติอุตสาหกรรมจากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีปักกิ่ง ปริญญาโทบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เป็นผู้ประกอบการที่ลงทุนและจับธุรกิจหลายอย่าง เขาก่อตั้งบริษัทรถเช่าในฮ่องกง และเป็นเจ้าของ “ยูคาร์” สตาร์ทอัพบริการแอปพลิเคชั่นเรียกรถ หลูมักลงทุนในสตาร์ทอัพที่เพิ่งก่อตั้งใหม่ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือลัคอินที่เขาได้เข้าไปนั่งเก้าอี้ซีอีโอ ฝากฝีไม้ลายมือบริหารจนธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว การคร่ำหวอดในวงการสตาร์ทอัพและประสบการณ์ที่คร่ำหวอดมานานจะทำให้หลูปั้นคอตติ คอฟฟี่ให้ทัดเทียมลัคอินได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามต่อไป

ที่มาhttps://pandaily.com/former-luckin-coffee-chairman-charles-lu-re-enters-coffee-market/

https://www.retailnews.asia/luckin-coffees-former-executives-introduce-first-store-of-new-coffee-brand/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย