“Laal Singh Chaddha” เส้นทางธุรกิจมหาเศรษฐี ฟอร์เรสท์ กัมพ์ ฉบับอินเดีย

TEXT : อรุษา กิตติวัฒน์

Main Idea

  • Laal Singh Chaddha หรือ “วิ่ง ลาล วิ่ง” หนังน้ำดีจาก Netflix นำเสนอเรื่องราวของหนุ่มอัจฉริยะปัญญานิ่มจากเค้าโครงเรื่องฟอร์เรสท์ กัมพ์ นำมาสร้างใหม่ในสไตล์อินเดีย

 

  • โดยเปลี่ยนจากเอกลักษณ์จากถือกล่องช็อกโกแลตไว้ในมือ กับคำคมที่พูดติดปากว่า “ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลต คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะได้รสอะไร” มาเป็นกล่องปานีปูรี อาหารว่างที่คนอินเดียนิยมชมชอบ พร้อมคำสอนจากแม่ของเขาว่า "ชีวิตก็เหมือนปานีปูรี ถึงท้องจะอิ่ม แต่ใจก็ร่ำร้องอยากกินอีก"

     ใครที่เคยประทับใจกับหนังรางวัลที่ได้รับความนิยมมาตลอด 28 ปี เรื่อง ฟอร์เรสท์ กัมพ์ อัจฉริยะปัญญานิ่ม ปีนี้ Netflix มีหนังเรื่องใหม่ Laal Singh Chaddha หรือ “วิ่ง ลาล วิ่ง” ที่นำเรื่องราวของหนุ่มอัจฉริยะปัญญานิ่มมาสร้างใหม่ในสไตล์อินเดีย โดยยังคงเค้าโครงเดิมไว้ เพิ่มเติมบริบทสังคม ความขัดแย้งทางศาสนา การเมือง และสงครามในหน้าประวัติศาสตร์ของอินเดียเข้าไป

     และเปลี่ยนจากการถือกล่องช็อกโกแลตไว้ในมือ พร้อมกับคำคม “ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อกโกแลต คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะได้รสอะไร” มาเป็นหนุ่มซิกข์หนวดโง้งชื่อว่า ลาล ซิงห์ จั๊ดด้า ซึ่งกำลังโดยสารรถไฟเดินทางไปหาหญิงสาวคนรัก ในมือมีกล่อง ปานีปูรี อาหารว่างที่คนอินเดียนิยมชมชอบ พร้อมคำสอนจากแม่ของเขาว่า "ชีวิตก็เหมือนปานีปูรี ถึงท้องจะอิ่ม แต่ใจก็ร่ำร้องอยากกินอีก" และนี่คือเรื่องราวของชายหนุ่มผู้มองเห็นแต่ด้านสวยงามของชีวิตที่กลายเป็นมหาเศรษฐี 

    1.เด็กชาย ลาล เกิดมาไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ รองเท้าคู่แรกของเขาเป็นรองเท้าวิเศษที่ประกอบเข้ากับโครงเหล็ก ทำให้เดินได้เหมือนคนปกติ แม่ฝึกให้เขาทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และทำทุกวิถีทางให้ลาลได้เข้าโรงเรียนเด็กปกติ แม้ครูใหญ่จะบอกว่าเขาไอคิวต่ำกว่ามาตรฐาน ให้ไปโรงเรียนเด็กปัญญาอ่อน แต่แม่ก็ยืนยันว่าเขาควรได้รับโอกาสเหมือนเด็กคนอื่นๆ 

     ไปโรงเรียนวันแรก เขาได้นั่งข้างๆ เด็กหญิง รูปา ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิท เมื่อลาลถูกเด็กคนอื่นๆ รุมรังแก รูปาจะบอกว่า “วิ่ง ลาล วิ่ง” จากที่ต้องอาศัยรองเท้าวิเศษช่วยพยุง ลาลวิ่งจนเอาชนะข้อจำกัดทางร่างกายได้ ไม่ต้องอาศัยรองเท้าวิเศษอีกต่อไป เขาวิ่งไปทุกที่ วิ่งเร็วขึ้นๆ จนได้เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย และชนะเหรียญทอง

     2.เด็กหญิง รูปา เห็นพ่อทำร้ายแม่เพราะเรื่องเงิน จึงมักอธิษฐานขอให้รวย เพราะคิดว่าจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น วันหนึ่งพ่อถูกจับเข้าคุกเพราะพลั้งมือทำให้แม่ตาย เธอกลายเป็นเด็กกำพร้า ตำรวจพาเธอไปอยู่กับยายซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านที่บ้านลาล เมื่อแม่ส่งลาลกับรูปาไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เดลี เธอฝันอยากไปบอมเบย์ เป็นนางแบบ และก้าวสู่เส้นทางดารา จะได้โด่งดังและร่ำรวย หญิงสาวไม่อยากใช้ชีวิตอย่างคนธรรมดา

    3.ลาลสมัครเป็นทหารตามรอยบรรพบุรุษ ได้พบเพื่อนใหม่ที่พูดถึงเรื่องชุดชั้นในชายตลอดเวลา บาลา มีคุณตาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชุดชั้นใน ได้เย็บชุดชั้นในให้นักสู้เพื่อเสรีภาพ ผู้ชายทุกคนในหมู่บ้านใส่ชุดชั้นในที่คุณตาตัด คุณตาทวดก็ตัดชุดชั้นในให้คนอังกฤษ และคุณตาเทียดเคยเป็นช่างตัดชุดชั้นในให้พระราชาและเจ้าเมือง บาลาหัดตัดชุดชั้นในใส่เองตั้งแต่เด็ก เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชุดชั้นใน และวางแผนไว้ว่าพอรับใช้ชาติเสร็จ ก็จะเริ่มธุรกิจชุดชั้นใน

     บาลามองดูเสื้อกล้ามของลาลแล้วบอกว่าตัดผิดไปหมด "ตรงนี้หลวม ตรงนี้ดันคับ ดูของฉันสิ พอดีเป๊ะ ช่องแขนก็ไม่ย้วย ใส่สบายตัวสุดๆ” เขาอยากทำชุดชั้นในทุกประเภททั้งแบบที่ใส่หน้าหนาว ใส่หน้าร้อน ใส่เวลาเล่นกีฬา ใส่ตอนนอน และแบบเป็นคู่สำหรับคู่รักฮันนีมูน แล้วก็หันมาถามลาลว่า "สนใจรับวิชาไหม"

     บาลาสอนลาลเย็บชุดชั้นใน เขาตัดเสื้อกล้ามตัวแรกให้บาลาใส่ ตัวที่สองให้ผู้หมวด เสื้อกล้ามของลาลเป็นที่นิยมมาก  ลาลใช้เวลาทุกวันหยุดตัดเย็บให้ทุกคนในกองทัพใส่

     4.บาลาชวนลาลให้มาเป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจชุดชั้นในด้วยกันหลังจากรับใช้ชาติเสร็จ โดยมีแผนสุดบรรเจิด ให้ลาลดูแลการผลิต ส่วนบาลาจะเป็นคนทำการตลาด ด้วยเงินลงทุน 100,000 รูปี ซื้อจักรเย็บผ้าสามหลัง ลาลเย็บชั้นในวันละ 20 ชุด แล้วก็จ้างช่างเย็บสองคน เย็บคนละ 10 ชุด หนึ่งเดือนก็ได้พันชุด พอเดือนต่อมาเราก็จะขายได้ 800 ชุดสบายๆ แค่สามเดือนก็จะเห็นกำไร ลาลชอบแผนของบาลา ทั้งคู่ตกลงเป็นหุ้นส่วนกัน

     พวกเขาถูกส่งไปทำภารกิจจู่โจมข้าศึก แต่กลับถูกอีกฝ่ายโจมตี เมื่อบาลาบอกให้ลาลวิ่ง เขาออกวิ่งเร็วมาก พอรู้ตัวว่าวิ่งมาคนเดียว ก็รีบวิ่งกลับไปตามหาบาลา ระหว่างทางพบคนอื่นเรียกให้ช่วย เขาช่วยชีวิตคนไว้ได้ 5 คน แต่บาลาอาการสาหัสจึงไม่รอดชีวิต ลาลได้เหรียญกล้าหาญ เขาเองก็ถูกยิงที่ก้น อาการบาดเจ็บส่งผลถาวร ทำให้ได้ปลดประจำการกลับไปอยู่บ้าน

     โมฮัมหมัดหนึ่งในคนที่ลาลช่วยชีวิตไว้โดยไม่รู้ว่าเป็นฝ่ายข้าศึกถูกตัดขาสองข้าง เขามาเพื่อพลีชีพอย่างสมเกียรติ แต่ศัตรูกลับอุ้มไปหลบภัย เพื่อช่วยร่างที่ไร้ขาไว้ เขากลายเป็นคนหมดประโยชน์ กลับประเทศไม่ได้ ต้องเลี้ยงชีพด้วยการเฝ้าซุ้มขายมือถือที่สนามบินและกินเหล้าไปวันๆ เมื่อพบลาลอีกครั้ง ลาลเลี้ยงเหล้าโมฮัมหมัด และเล่าแผนธุรกิจของบาลาที่เขาจะสานต่อเอง โมฮัมหมัดหัวเราะที่คนปัญญานิ่มอย่างลาลจะทำธุรกิจชุดชั้นใน แถมยังผลิตและทำการตลาดเองด้วย เพราะผู้จัดการการตลาดตายตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น จึงบอกว่าถ้าลาลเป็นผู้ผลิตได้ ก็จะยอมเป็นผู้จัดการการตลาดให้   

     ลาลทำตามสมุดบันทึกของบาลาที่มีทั้งเรื่องรายละเอียดของชุดชั้นและเขียนแผนธุรกิจทั้งหมดไว้ เขากลับไปตั้งโรงงานที่บ้าน ซื้อจักรเย็บผ้าสามตัว ซื้อผ้า และจ้างช่างตัดเย็บสองคน เย็บชุดชั้นในได้ 1,000 ชุดในหนึ่งเดือน เขาเขียนจดหมายถึงโมฮัมหมัดและรูปาเล่าถึงการตั้งโรงงานผลิตชุดชั้นใน BALA

     5.ธุรกิจเป็นไปตามแผนที่บาลาวางไว้ทุกอย่าง เว้นแต่หน้าสุดท้ายที่บาลาเขียนไว้ว่าจะขายเดือนละ 800 ชุด ลูกค้าคนเดียวที่ซื้อชุดชั้นในไปก็คือแม่ที่ซื้อไว้ให้เขาใส่เอง ลาลไม่รู้ว่าทำไมถึงขายไม่ได้เดือนละ 800 ชุด แล้วโมฮัมหมัดก็เดินทางมาทำตามสัญญา เป็นผู้จัดการการตลาดให้ และได้เห็นภาพชุดชั้นในแบรนด์ BALA ที่ผลิตออกมาแต่ขายไม่ได้  กองเต็มจนแทบล้นโรงงาน เขาแนะนำให้เริ่มจากข้อเสนอซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง แต่ขายไม่ได้สักชิ้น จึงเปลี่ยนมาเป็นซื้อหนึ่งแถมสอง และหนึ่งแถมสาม ซึ่งก็ยังขายไม่ได้อีก พวกเขาต้องหยุดการผลิตไว้ก่อน

     แล้วระหว่างที่นั่งดูรายการทีวี มีสาวสวยมาร้องเล่นเต้นระบำท่ามกลางหมู่ชาย โมฮัมหมัดก็ปิ๊งไอเดียว่าสินค้านี้ต้องใช้ชื่อผู้หญิง เพราะสิ่งที่ผู้ชายต้องการก็คือผู้หญิง หลังจากเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น RUPA สินค้าก็ติดตลาดขายดิบขายดี ลาลเพิ่มจักรเป็น 9 หลัง จากนั้นก็ย้ายไปอยู่โรงงานที่ใหญ่ขึ้น และขยายโรงงานออกไปอีกหลายแห่ง ตั้งสำนักงานใหญ่บริษัท รูปา คอร์ปอเรชั่น ในเมืองเดลี เขาและโมฮัมหมัด ได้ขึ้นปกนิตยสาร อินเดีย ทูเดย์ ในฐานะผู้ประกอบการดีเด่นแห่งปี และกลายเป็นมหาเศรษฐี ลาลแบ่งกำไรของบริษัทครึ่งหนึ่งให้ครอบครัวของบาลา และโมฮัมหมัดก็นำกำไรในส่วนของลาลไปลงทุนในธุรกิจเลี้ยงวัวนม เพื่อไม่ให้ลาลต้องกังวลเรื่องเงินอีก

     ลาลเรียนรู้ ลงมือทำไปเรื่อยๆ มองโลกอย่างใสซื่อ เห็นแต่ความสวยงาม และทำแต่สิ่งดีๆ ให้คนอื่น อย่างเป็นธรรมชาติ ตอนเด็กๆ เขาอธิษฐานให้รูปาร่ำรวยสมดังหวัง เพราะอยากให้เธอมีความสุข ในวันที่รูปาฝันสลาย กลายเป็นนกปีกหัก ลาลบอกหญิงสาวได้ว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเงินอีกต่อไป เขามีให้เธอเท่าที่เธอต้องการ แต่รูปาที่ผ่านบทเรียนชีวิตมาอย่างบอบช้ำกลับไม่สนใจเรื่องเงินอีกแล้ว

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย