TEXT : ภัทร เถื่อนศิริ
ในยามที่ทุกอย่างถาโถม บางทีเจ้าของธุรกิจอาจจะมองไม่เห็น คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรดีที่จะผ่านพ้นปัญหาตรงนี้ออกไปได้ หลายๆ ครั้งผมได้มีโอกาสพูดคุยให้คำปรึกษากับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เจ้าของธุรกิจหลายๆ ท่านในช่วงภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีที่ผ่านมา จึงรวบรวมมาเป็นแนวคิด 8 RE ซึ่งท่านอาจจะใช้บางข้อ ใช้ทั้งหมดก็ได้ทั้งนั้น เพื่อให้ท่านสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้
1. Re : Think : เป็นสิ่งแรกเสมอที่ผมจะแนะนำเลย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมากๆ ป่วยทางกายยังรักษาได้ แต่ถ้าป่วยทางใจนี้รักษาได้ยากเลย ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องปรับเปลี่ยนคือ “ความคิด” เพราะ ความคิดเป็นตัวกำหนดการกระทำ ความคิดไม่เปลี่ยนการกระทำไม่เปลี่ยน หากที่จะผ่านช่วงเวลาไม่พึงประสงค์ เราต้องเข้าใจตนเองว่าต้องการอะไร และยอมรับความจริงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ยึดติดกับอดีต เปลี่ยนความคิดรูปแบบเดิมๆ วางกลยุทธ์แนวทางใหม่ๆแล้วก้าวเดินไปข้างหน้า
2. Re : Learn : สิ่งสำคัญมากๆอีกนึงอย่างคือการที่เราจะก้าวข้ามปัญหา หรือก้าวออกจากสถานการณ์เดิมๆได้ ต้องอาศัยความรู้/ทักษะใหม่ๆ บางทีความรู้/ทักษะที่เรามีอาจไม่เพียงพอหรือไม่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ความรู้/ทักษะใหม่ๆ เพื่อที่จะนำพาธุรกิจของเราให้ไปต่อ มันอาจจะไม่ได้เกิดจากความรู้/ทักษะเพียงแค่ทักษะเดียว ไม่ใช่ทุกความพยายามจะประสบความสำเร็จ แต่ทุกความสำเร็จเกิดจากความพยายาม ดังนั้นพยายามเรียนรู้เพิ่มเติมความรู้/ทักษะหลายๆ อย่างๆ เพื่อนำพาองค์กรให้ฟันฝ่าไปให้ได้
3. Re : Business : ปรับวิธีการหารายได้จากธุรกิจรูปแบบใหม่ บางทีสถานการณ์ภายนอกบีบบังคับให้เราไม่สามารถดำเนินธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ ได้ ดังนั้นบางทีเราต้องมองว่าเรายังมีทรัพยากรอะไรที่มีคุณค่า และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจใหม่ให้สอดคล้องกับสิ่งที่เรามี หรือจะเป็นการทำเพิ่มเพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ก็ได้เช่นกัน
4. Re : Target : เปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย เสริมกลุ่มเป้าหมายใหม่เข้ามา หลายครั้งที่รูปแบบธุรกิจยังไปได้ เพียงแต่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทำให้เรามีความจำเป็นต้องขยายกลุ่มเป้าหมายธุรกิจให้มากขึ้น ทดลองจับกลุ่มเป้าหมายใหม่ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเรายังเดินทางต่อไป
5. Re : Channel ปรับเปลี่ยนช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น จากเดิมขายหน้าร้านอย่างเดียว เป็นขายผ่านออนไลน์ จากสถานการณ์ที่หลายคนทำงานจากบ้าน ทำให้ทราฟฟิคการจับจ่ายใช้สอยหน้าร้านน้อยลงไป การที่เราเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกสบายในโลกออนไลน์ให้มากขึ้นเป็นอีกช่องทางนึง ยิ่งเป็นผลดีกับธุรกิจ เพราะหน้าร้านก็มีมีความน่าเชื่อถือ ขายออนไลน์สั่งสะดวกก็ได้ ทำให้ส่งเสริมกันส่งผลให้ธุรกิจสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่อไปได้
6. Re : Communication ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและวิธีการในการทำงานในปัจจุบันผ่านเทคโนโลยี การสื่อสารผ่านออนไลน์หรือการใช้ดิจิทัลในการทำธุรกิจแทน เนื่องจากปัจจัยภายนอกบังคับให้โลกเปลี่ยนไปด้วยอัตราเร่งที่เร็วขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปต้องการความสะดวกสบายและความรวดเร็วมากขึ้น ประกอบกับการสื่อสารผ่านออนไลน์สามารถใช้งบประมาณที่น้อยตามกำลังของเรา สามารถวัดผลได้ว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร ซึ่งทำให้เรามีข้อมูลประกอบการตัดสินใจต่างๆ ในการขยับขยายธุรกิจได้อย่างดี นำไปสู้ความเสี่ยงที่ลดลงของการตัดสินใจในธุรกิจด้วย
7. RE : Process เปลี่ยนกระบวนท่าการทำงาน เป็นฝ่ายเข้าหาลูกค้ามากยิ่งขึ้น และสร้าง Customer Experience ที่ดี หลายๆวิธีข้างต้นเป็นรูปแบบที่จะเป็นลักษณะ Push Marketing ซะส่วนใหญ่ แต่ข้อนี้จะเป็นแนว Pull Marketing คือปรับเปลี่ยนพัฒนากระบวนการภายใน เพื่อสร้างประสบการณืที่ดีให้แก่ลูกค้าจนเปลี่ยนไปเป็นสาวกของแบรนด์เรา ซึ่งจากรายงานลูกค้ามากกว่า 85% ยินดีจ่ายมากขึ้น เมื่อได้รับประสบการณืที่ดี อีกทั้งการที่ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีก็จะบอกต่อความรู้สึก/ชักชวนแก่คนรอบข้าง เป็นการช่วยลด Cost of Acquisition / เพิ่ม Conversion rate ให้แก่ธุรกิจเราด้วย
8. RE : Unite รวมใจองค์กร เพื่อฟันฝ่าอุปสรรคให้ก้าวผ่านวิกฤตไปได้ หลายครั้งที่สุดท้ายเมื่อเราวางกลยุทธ์ ปรับเปลี่ยนวิธีการต่างๆ เรียนรู้เพิ่มเติมทักษะและความรู้แล้ว แต่ต้องเข้าใจว่าธุรกิจของหลายๆท่านขับเคลื่อนโดยพนักงานภายในองค์กร ดังนั้นการที่จะฟันฝ่าวิกฤตไปได้นั้นต้องอาศัยการรวมใจองค์กร ให้จับมือกัน ช่วยกันปรับเปลี่ยน แก้ไข และพัฒนาองค์กรร่วมกัน
สุดท้ายนี้ไม่ว่าทุกท่านจะหยิบใช้ข้อได้ไปปรับเปลี่ยน ก็อยากให้ทุกท่านสามารถ REBirth ธุรกิจ ให้กลับมาเติบโต มั่นคง ยั่งยืนต่อไปได้ครับ
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี