TEXT : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
ธุรกิจเกษตรในเมืองหรือ Urban farming โดยเฉพาะการทำการเกษตรบนดาดฟ้าอาคารอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ในแง่ของการใช้พื้นที่ที่มีจำกัดให้เป็นประโยชน์มากที่สุด แต่ถ้าพูดถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ดูเหมือนจะมีอยู่ที่แห่งหนึ่งที่แตกต่างออกไป นั่นคือ Rooftop Republic สวนผักลอยฟ้าในฮ่องกงที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม
Rooftop Republic เปิดตัวเมื่อปี 2015 โดยมี แอนดรูว์ ซุย วิศวกรหนุ่มวัย 44 ปีเป็นหัวหอกนำทีมพร้อมทีมงานอีก 2 คนได้แก่มิเชล หง และพอล ฟาเบรคา แอนดรูว์เติบโตมาใน 2 ที่คือฮ่องกง และสิงคโปร์ที่มีความเป็นเมืองสูงมากและต้องพึ่งกาการนำเข้าอาหารจากภายนอกเหมือนกัน ปูมหลังของเขาคือเป็นวิศวกรและทำงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์
จากข้อมูลที่ว่าร้อยละ 90 ของอาหารที่ประชากรฮ่องกงทั้งหมด 7.5 ล้านบริโภคนำเข้าโดยเฉพาะจากจีน และบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้มีการก่อขยะจากอาหาร 3,500 ตันต่อวันหรือเทียบเท่ารถบัส 2 ชั้นถึง 250 คัน แอนดรูว์มองว่าหากวางแผนทำเกษตรในเมือง ฮ่องกงสามารถปลูกพืชผักเพื่อการบริโภคเองได้ส่วนหนึ่ง
แม้การปลูกผักบนเกาะที่ประชากรหนาแน่นอย่างฮ่องกงจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนักแต่แอนดรูว์เชื่อในศักยภาพของพื้นที่เมืองในฮ่องกงว่าสามารถสร้างประโยชน์ได้ เขาจึงริเริ่ม Rooftop Republic เพื่อทำเป็นตัวอย่างให้เห็นและกระตุ้นผู้คนให้ตื่นรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้
บริษัท Rooftop Republic ให้บริการออกแบบ ก่อสร้างและดูแลโครงการฟาร์มบนดาดฟ้าให้กับบริษัทต่าง ๆ ร้านอาหาร และลูกค้าที่เป็นประชาชนทั่วไป โดยโครงการที่ทำมีหลายขนาดขึ้นอยู่กับพื้นที่ ส่วนพืชผักที่ปลูกก็เน้นที่บริโภคในชีวิตประจำวัน เช่น ผักใบเขียว แตงกวา มะเขือ สมุนไพร และผลไม้
ดูเหมือนเป้าหมายที่วางไว้จะดำเนินไปด้วยดีเมื่อบริษัทของแอนดรูว์ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการออกแบบฟาร์มบนดาดฟ้ากว่า 70 แห่งรวมถึงบนตึกแบงค์ออฟอเมริกา ตึกโรงแรมอีสต์ฮ่องกง และอาคารแมนูไลฟ์ ไฟแนนเชี่ยล เซ็นเตอร์
แอนดรูว์เผยว่าพื้นที่ราว 7 ล้านตารางเมตรได้ถูกแปรเป็นฟาร์มการเกษตรไปแล้ว แต่ก็ยังเหลือพื้นที่อีกมากกว่า 6 ล้านตารางเมตรบนดาดฟ้าที่ยังไม่ถูกใช้งาน ดังนั้น โอกาสที่จะเพิ่มผลผลิตเท่าตัวจึงยังมี สิ่งที่ท้าทาย Rooftop Republic คือการออกแบบฟาร์มในเมืองให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนและกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันผู้คน
ด้วยเหตุนี้ Rooftop Republic จึงเพิ่มเป้าหมายของการทำเกษตรลอยฟ้าโดยเน้นให้ประชาชนและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นด้วยการออกแบบฟาร์มให้เป็นสถานที่หย่อนใจ พื้นที่สีเขียวบนที่สูง นอกจากช่วยลดอุณหภูมิลงได้ 3.6-11.3 องศาเซลเซียสในวันที่อากาศร้อนที่สุด ยังช่วยลดความเครียดได้ด้วย พื้นที่เป้าหมายจะเป็นดาดฟ้าอาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก
ยกตัวอย่าง “Sky Farm” สวนผักลอยฟ้าพื้นที่ 1,200 ตารางเมตรของ Rooftop Republic ซึ่งตั้งอยู่บนดาดฟ้าเมโทรพลาซ่า ช้อปปิ้งมอลล์ในไควฟง ถือเป็นโอเอซิสกลางใจเมืองที่รายล้อมด้วยพืชผักสมุนไพร ผลไม้ และแปลงดอกทานตะวัน โดยที่นี่มีนโยบายจ้างงานผู้สูงวัยหรือคนที่เกษียณแล้ว หนึ่งในคนงานเป็นอากงวัย 79 ที่มาทำหน้าที่ดูแลต้นไม้สัปดาห์ละ 3 วัน ร่วมกับคนงานอีกคนวัย 66 ปี ทั้งคู่มีความสุขกับการทำงานท่ามกลางธรรมชาติในสวนลอยฟ้าอย่างยิ่ง นอกจากทำให้แข็งแรงยังส่งผลให้สุขภาพจิตดีอีกด้วย
Rooftop Republic ทำการสำรวจพบกว่า 70 เปอร์เซนต์ของคนที่มาทำกิจกรรมบนฟาร์มลอยฟ้าจะรู้สึกผ่อนคลาย แอนดรูว์แสดงทัศนะว่าฮ่องกงเป็นเมืองหนึ่งที่ผู้คนทำงานหนัก และเกิดความเครียด การได้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับต้นไม้จึงเป็นการคลายเครียดได้อย่างหนึ่ง
แนวคิดนี้ได้ส่งต่อไปยังองค์กรต่าง ๆ และมีหลายแห่งขานรับ เช่น บริษัทไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ที่แปลงดาดฟ้าอาคารให้เป็นสวนลอยฟ้าเพื่อให้เป็นสถานที่หย่อนใจของพนักงาน ซึ่งนั่นก็มีผลทำให้พนักงานทำงานดีขึ้น ได้งานเยอะขึ้น สอดคล้องกับผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ระบุออฟฟิศที่มีพื้นที่สีเขียวจะช่วยกระตุ้นระดับความคิดความเข้าใจราว 26 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่มหาวิทยาลัยเอ็กซีเตอร์ระบุจะช่วยเพิ่มผลผลิตจากการทำงาน 15 เปอร์เซ็นต์
แอนดรูว์กล่าวว่าใน 5 ปีข้างหน้าเขาคาดหวังจะขยายธุรกิจ Rooftop Republic ไปยังประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ไทย เวียดนาม สิงคโปร์ และจีน (เซี่ยงไฮ้) สำหรับคนที่สนใจทำธุรกิจเกษตรในเมืองประเภทฟร์มลอยฟ้า เขามีคำแนะนำว่าสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น หรือไม่ก็ลงมือทำด้วยตัวเอง ประโยชน์จากการทำเกษตรแบบนี้มีมากมาย ยังไงก็กระตุ้นให้เกิดความสนใจอยู่แล้ว
ที่มา
https://hivelife.com/hong-kong-rooftop-farm-revolution/
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี