ไอเดียเปลี่ยน Pain Point ลูกค้าให้เป็นเงิน ปิ่นโตชวนฉัน มิติใหม่ธุรกิจสายบุญ

TEXT : Surangrak Su.

PHOTO : สุขทุกคำ

 

     บางครั้งโอกาสธุรกิจก็มักมาในรูปแบบของปัญหา หรือ Pain Point ที่เกิดขึ้นจากความต้องการของลูกค้า เหมือนกับโมเดล “ปิ่นโตชวนฉัน” ที่ขยายจากการทำอาหารชุดปิ่นโตส่งให้กับผู้บริโภคตามบ้านเรือนต่างๆ มาเป็นการจัดทำอาหารชุดปิ่นโตถวายพระของแบรนด์ “สุขทุกคำ” จนเกิดเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคสายบุญที่อยากทำบุญเลี้ยงพระ แต่ไม่ค่อยมีเวลาในการตระเตรียมอาหาร สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจกว่าวันละ 40 – 50 ชุด ตกเดือนๆ หนึ่งพันกว่าชุด

     สมศักดิ์ เจียรสมบูรณ์ เจ้าของแบรนด์สุขทุกคำ ธุรกิจจำหน่ายผักและผลไม้อินทรีย์ออนไลน์แบบครบวงจรที่มีให้เลือกตั้งแต่ผัก ผลไม้สด, บริการทำอาหารผูกปิ่นโต ไปจนถึงรับจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นเจ้าของไอเดียดังกล่าวเล่าที่มาให้ฟังว่า

     “จริงๆ เราไม่ได้ตั้งใจที่ทำธุรกิจตัวนี้ขึ้นมาเลย โดยปกติธุรกิจของเราจะให้บริการอยู่ 3 ส่วน คือ 1. จัดส่งผัก ผลไม้อินทรีย์ และวัตถุดิบเนื้อสัตว์ อาหารปลอดสารเคมีต่างๆ ส่งให้ลูกค้าตามบ้าน 2. การทำอาหารเพื่อสุขภาพแบบผูกปิ่นโต และ 3. ธุรกิจรับจัดเลี้ยงโดยเน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหาร สำหรับ ปิ่นโตชวนฉัน เกิดขึ้นมาจากการที่เราก็ไปรับจัดเลี้ยงตามปกติ ก็เริ่มมีลูกค้าถามว่าไม่มีบริการรับจัดเลี้ยงทำบุญเลี้ยงพระบ้างเหรอ เราก็เริ่มปรับทำเป็นชุดขันโตก ต่อมาลูกค้าก็เริ่มเพิ่มความต้องการขึ้นมาว่าอยากได้แบบเป็นชุดปิ่นโตถายพระให้นำกลับไปฉันที่วันด้วย ซึ่งตอนนั้นเรามีแต่ชุดปิ่นโตส่งตามมา เราก็เลยได้ไอเดียทำเป็นชุดปิ่นโตชวนฉันขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปถวายพระได้ ซึ่งก็เหมาะกับลูกค้าที่ไม่ค่อยมีเวลา และอยากได้อาหารดีๆ ไปถวายพระ เพราะเราทำสดใหม่ทุกวัน เครื่องปรุงเราก็เลือกใช้ส่วนผสมที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ” สมศักดิ์เล่าจุดเริ่มต้นของไอเดียให้ฟัง

จัดส่งครบวงจร ส่งถึงวัด ส่งถึงงานบุญ

     โดยในปิ่นโตชวนฉัน 1 ชุด จะเริ่มต้นที่ราคา 459 บาท ประกอบไปด้วยข้าว 1 ถ้วย, อาหาร 3 อย่าง, ขนม 2 รายการ, ผลไม้ 1 อย่าง และน้ำสมุนไพร 1 แก้ว โดยจะบรรจุมาในถ้วยกระดาษพิเศษที่มีความคงทน ขณะเดียวกันก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (หากต้องการวัตถุดิบอินทรีย์เพิ่มสำรับละ 150 บาท) นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่ต้องการถวายเป็นปิ่นโตจริง เพื่อให้พระท่านสามารถนำไปใช้งานต่อได้เลย ก็มีฟังก์ชั่นให้เลือกได้ตามความต้องการและเหมาะสมอีกกว่า 9 ชุด เช่น หากเป็นพระผู้ใหญ่อาจเลือกใช้เป็นปิ่นโตสแตนเลส หรือหากเป็นพระชั้นผู้น้อยลงมาอาจเลือกเป็นปิ่นโตสีพาสเทลแบบเรียบๆ ราคาสำหรับชุดปิ่นโตจริงเริ่มต้นที่ 619 – 739 บาท โดยลูกค้าสามารถสั่งให้ไปจัดส่งได้ตามอาคารบ้านเรือนสำนักงานที่ต้องการทำบุญเลี้ยงพระ หรือวัดต่างๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลก็ได้

     สำหรับการบริหารจัดการด้านขนส่งนั้น สมศักดิ์จะเลือกใช้บริการขนส่งเอกชน เช่น Lalamove, Grab เป็นต้น โดยคิดค่าส่งจริงตามระยะทาง

     “ปกติถ้าเป็นการจัดส่งปิ่นโตตามบ้านสำหรับลูกค้าทั่วไปเราจะมีรถมอเตอร์ไซต์ประจำที่ใช้บริการอยู่ 5 คัน แต่เนื่องจากเมื่อเป็นชุดปิ่นโตสำหรับให้ลูกค้านำไปทำบุญเลี้ยงพระ ส่วนใหญ่ถ้าไม่สั่งสำหรับทำบุญเลี้ยงพระเช้า ก็จะเป็นเลี้ยงพระเพลไปเลย คือ ต้องไม่เกิน 11 โมง ดังนั้นเวลาลูกค้าสั่งมาพร้อมกัน ซึ่งก็อยู่คนที่ทั้งหมด เราจัดส่งให้ไม่ทัน ก็เลยเปลี่ยนมาใช้บริการขนส่งเอกชนแทน ซึ่งลูกค้าก็แฮปปี้เพราะสะดวกไม่ต้องเตรียมทำอาหารเองให้ยุ่งยาก แพ็กเกจที่เราใช้ก็ดูดี แถมไปส่งให้ได้ถึงวัดถึงที่จัดงานเลย เรียกว่าครบวงจรครบจบในที่เดียว ตอนนี้ถือเป็นตัวที่ขายดีที่สุดของแบรนด์เราเลย” สมศักดิ์เล่าให้ฟัง

ทำรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละพันชุด

     สำหรับชุดปิ่นโตดังกล่าวที่คิดขึ้นมา สมศักดิ์กล่าวว่านอกจากจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้าได้แล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกได้มากยิ่งขึ้น ยังช่วยสร้างรายได้เพิ่มเติมเข้ามาให้กับธุรกิจ เดือนๆ หนึ่งไม่ต่ำกว่าหลักพันชุดเลย

     “ถ้าเป็นวันธรรมดา ปกติวันหนึ่งก็จะได้อยู่ที่ประมาณ 4 – 5 งาน งานหนึ่งก็ 9 – 10 ชุด ถ้าสั่งสำหรับเลี้ยงพระพุทธด้วย ถ้าเป็น ถ้าเสาร์-อาทิตย์ หรือวันพระก็จะเยอะหน่อยประมาณ 10 งานได้ เฉลี่ยแล้ว คือ ขั้นต่ำอย่างน้อยวันละ 40 - 50 ชุดได้ ซึ่งถ้าพูดถึงโอกาสผมมองว่าการทำบุญเลี้ยงพระเป็นเรื่องที่คนไทยนิยมทำกันอยู่แล้วเป็นปกติ ดังนั้นโอกาสจึงยังมีอยู่อีกมาก การทำธุรกิจถ้าเราสามารถหาลูกค้าได้เจอ และทำให้ดี มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ ยังไงก็สามารถทำเป็นธุรกิจที่ดีขึ้นมาได้แน่นอน” สมศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย

สุขทุกคำ

FB : สุขทุกคำ

โทร. 08 6332 8366

https://www.healthmedelivery.com/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย