เชื่อหรือไม่ คุณสมบัติผู้หญิง ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้

TEXT : กองบรรณาธิการ

 

     ปัจจุบันไทยมีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย หรือ MSMEs รวมทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านราย คิดเป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99.53 ของธุรกิจในประเทศทั้งหมด ก่อให้เกิดการจ้างงานมากถึงร้อยละ 69.48 โดยในจำนวนนี้พบว่าเป็นผู้ประกอบการหญิงเป็นส่วนใหญ่!

     ผลการสำรวจของแกรนท์ ธอนตัน ในปี 2563 จากการสอบถามผู้บริหารระดับอาวุโสในบริษัทขนาดกลาง 5,000 แห่งจาก 30 ประเทศทั่วโลก พบว่าไทยมีจำนวนผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้หญิงสัดส่วนอยู่ที่ 32 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับ 27 เปอร์เซ็นต์ และหากดูเฉพาะตำแหน่ง CEO พบว่ามีสัดส่วนอยู่ที่ 24 เปอร์เซ็นต์ มากเป็นอันดับ 3 ของโลก

     หลายองค์กรชั้นนำทั้งของไทยและระดับโลกต่างหันมาให้ความสำคัญกับการให้ผู้หญิงก้าวขึ้นมารับตำแหน่งระดับสูงในธุรกิจเพิ่มมากขึ้น ตัวอย่างล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปแบบสดๆ ร้อนๆ ก็คือ ซีอีโอคนล่าสุดของบริษัท แมคไทย จำกัด “กิตติวรรณ อนุเวชสกุล” ผู้ดูแลร้านแมคโดนัลด์ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นซีอีโอหญิงคนแรกของบริษัท

     นอกจากนี้ยังว่ากันว่าหากผู้หญิงและผู้ชายมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันในฐานะผู้ประกอบการ GDP โลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 6 เปอร์เซ็นต์ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโลกได้ 2.5 - 5 ล้านล้านดอลลาร์ทีเดียว

     อะไรทำให้ผู้หญิงก้าวขึ้นมามีบทบาทมากขึ้น ในธุรกิจ หรือแท้จริงแล้วคุณสมบัติอะไรในตัวผู้หญิงที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพอะไรในการดำเนินธุรกิจได้บ้าง ลองไปดูคำตอบพร้อมๆ กัน

ทำไมหลายธุรกิจจึงให้ความสำคัญกับผู้หญิงมากขึ้น

     ตั้งแต่ปี 2010 eBay ได้มีนโยบายนำผู้หญิงจำนวนมากขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูง เช่นเดียวกับที่ IBM, General Motors และ Mondelēz International มีการแต่งตั้ง CEO หญิงเพื่อมาดำรงตำแหน่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมาจากกระแสการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศ วัฒนธรรม อายุ เชื้อชาติ ฯลฯ ที่เกิดขึ้นในสังคม องค์กรที่มองการณ์ไกลหลายแห่งจึงต่างหันมาสนับสนุน และให้ความสำคัญกับสัดส่วนของผู้บริหารระดับสูงที่เป็นผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งเพื่อภาพลักษณ์องค์กร

     แต่อีกส่วนหนึ่งหลายธุรกิจมีความเชื่ออีกว่าการสร้างความหลากหลายให้เกิดขึ้นในองค์กรได้ คือ การพัฒนาองค์กรที่แท้จริง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการทำงานได้ดี จึงทำให้องค์กรหลายแห่งพยายามสร้างความหลากหลายให้เกิดขึ้น ตั้งแต่สัดส่วนระดับพนักงาน ไปจนถึงผู้นำระดับสูง โดยมีการวิจัยจาก McKinsey บริษัทที่ปรึกษาเบอร์ต้นๆ ของโลกกล่าวไว้ว่า ธุรกิจที่มีความหลากหลายทางเพศในองค์กร มีแนวโน้มที่จะมีผลประกอบการดีขึ้นกว่าค่ามัธยฐาน (ค่ากลาง) ทางการเงินที่เคยทำได้ถึง 15 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

     เช่นเดียวกับที่ Jack Ma เจ้าพ่อแห่งอาลีบาบา กรุ๊ป แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์แบบ B2B สัญชาติจีน กล่าวไว้ในงานประชุมเศรษฐกิจโลก (WEF) ปี 2018 ว่าเคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจอย่างหนึ่งของเขา คือ การมีผู้หญิงอยู่ในทีมด้วย โดย Alibaba มีผู้หญิงร้อยละ 37 อยู่ในทีมผู้บริหารระดับสูง และมีพนักงานหญิงทั้งหมดร้อยละ 49  โดยเขาได้ยกย่องว่าผู้หญิงเป็นเพศที่มีความละเอียดอ่อน ใส่ใจคนรอบข้าง จึงเหมาะกับงานของอาลีบาบา ซึ่งเป็นธุรกิจบริการ

     นอกจากนี้เขายังให้แง่คิดไว้อย่างน่าสนใจอีกว่าใน 30 - 50 ปีข้างหน้านั้น ความคิดแบบมีตรรกะที่เป็นเหตุเป็นผลของผู้ชาย อาจถูกท้าทายและแทนที่ด้วยปัญญาประดิษฐ์ก็ได้ แต่ความเพียรพยายามและอดทนอย่างผู้หญิงนั้น แม้แต่หุ่นยนต์ก็ยังไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

คุณสมบัติผู้หญิงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจได้ยังไง

     เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของผู้หญิงว่าสามารถช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ วันนี้เราได้รวบรวมผลสำรวจ การวิเคราะห์ การแสดงความคิดเห็นจากหลายองค์กรและผู้นำทางความคิดมาให้อ่านกันดังนี้

  • ผู้หญิงช่วยให้การค้าขายแบบ B2B ประสบความสำเร็จมากกว่า

     

     Xactly บริษัทผู้ให้บริการซอฟท์แวร์ด้านการขาย สัญชาติสหัฐอเมริกาพบว่ากว่า 86 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงสามารถทำยอดขายได้ตามโควต้าของการขายแบบ B2B ได้สูงกว่าผู้ชายที่ทำยอดขายได้ตามโควต้าเพียง 78 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยเหตุผลที่ทำให้การขายของพนักงานหญิงแตกต่างจากพนักงานชายนั้น เป็นเพราะพวกเธอเน้นสร้างความสัมพันธ์อย่างยั่งยืนมากกว่า ด้วยการพยายามทำความเข้าใจกับลูกค้า และช่วยกันหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหาได้มากกว่า ซึ่งความจริงแล้วในยุคดิสรัปเทคโนโลยีเช่นนี้ ผู้ซื้อสินค้าสามารถแสวงหาข้อมูลมากขึ้นได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว พวกเขาแทบไม่จำเป็นต้องพึ่งพาข้อมูลเหล่านี้จากพนักงานขาย แต่สิ่งที่ลูกค้ายังคงต้องการจากพนักงานขาย ก็คือ ความจริงใจในการให้ความช่วยเหลือในสิ่งที่พวกเขาต้องการนั่นเอง

  • ผู้หญิงสามารถนำทีมให้มีความสุขได้

     

    ด้วยคุณลักษณะของผู้หญิงที่มีความยืดหยุ่นและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น จึงทำให้หลายบริษัทที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำพนักงานจะรู้สึกมีความสุขในการทำงานมากกว่า โดยจากการศึกษาของ Payscale และ Redfin บริษัท ซอฟต์แวร์ผู้ให้ข้อมูลด้านค่าตอบแทนในตลาดแรงงานของอเมริกา พบว่าในแผนกงานหรือบริษัทที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำจะส่งผลให้มีพนักงานชายและหญิงเพิ่มขึ้นกว่า 18 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่จำนวนการลาออกจากงานก็ลดลงกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ด้วย

  • ผู้หญิงสามารถโน้มน้าวใจได้ดีกว่าผู้ชาย

     

     Caliper บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการแห่งเมืองพรินซ์ตัน สหรัฐอเมริกา ได้ทำการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้นำสตรี 59 คน จากบริษัทชั้นนำในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา โดยมาจาก 19 ภาคธุรกิจที่แตกต่างกัน ได้แก่ การเงิน 26 คอมพิวเตอร์ การศึกษาและการให้คำปรึกษา ผลิตภัณฑ์และบริการด้านสุขภาพ และอสังหาริมทรัพย์ อายุตั้งแต่ 30 ปี จนถึง 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่แต่งงานแล้ว 69 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้การวิเคราะห์สมบูรณ์มีการนำฐานข้อมูลตัวแทนผู้ชายในตำแหน่งที่คล้ายกันมาเปรียบเทียบให้เห็นด้วย

     โดยดร.กรีนเบิร์กผู้นำในการทำสำรวจครั้งนี้ พบว่าในการโน้มน้าวใจคนนั้นผู้บริหารหญิงมีคะแนนสูงกว่าผู้นำชาย ซึ่งด้วยคุณสมบัติของผู้หญิงที่มีความใส่ใจผู้อื่น ละเอียดรอบคอบ เป็นผู้คอยรับฟัง เฝ้ามองมากกว่าที่จะลงไปตัดสิน หรือชี้นำ จึงช่วยให้ผู้หญิงสามารถโน้มน้าวใจคนได้ดี ในขณะที่ผู้นำชายมักจะเริ่มต้นนำเสนอด้วยมุมมองความคิดจากตัวเองก่อน มากกว่าที่จะแลกเปลี่ยนและรับฟัง การโน้มน้าวใจของพวกเขาจึงออกไปในเชิงแกมบังคับ หรือผลักดันให้ผู้อื่นคิดเห็นตามอย่างเขามากกว่าที่จะรอให้ผู้อื่นเห็นด้วย

  • ทำไมผู้หญิงถึงเข้าใจผู้อื่น ได้ดีกว่าผู้ชาย

     

     นอกจากผลการสำรวจ หรือเก็บข้อมูลต่างๆ แล้ว หากว่าด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ากันว่าที่ผู้หญิงสามารถเข้าใจผู้อื่นได้ดีกว่าผู้ชายนั้น เป็นเพราะในสมองผู้หญิงจะมีส่วนที่เรียกว่า Insula (อินซูลา) ซึ่งเป็นส่วนที่รับรู้สัญญาณจากร่างกายทั้งหมด เมื่อเรากำลังเห็นใจใครสักคน สมองของเราจะเลียนแบบความรู้สึกของบุคคลนั้น และนี่คือ ความลับว่าเพราะเหตุใดผู้หญิงจึงเข้าใจผู้อื่นได้ดีกว่าผู้ชาย

  • ผู้หญิง คือ คลังข้อมูลตัวจริง

     

     ในจำนวนผู้บริโภคจากทั่วโลกนั้นพบว่ากว่า 85 เปอร์เซ็นต์มาจากการซื้อของผู้หญิงแทบจะทั้งหมด ไม่ว่าการช้อปปิ้งสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางเพื่อตัวเอง หรือแม้แต่การซื้อของกินของใช้เข้าบ้าน ผู้หญิงมักเป็นผู้ตัดสินใจเกือบทั้งหมด ดังนั้นผู้หญิงจึงเป็นเหมือนตัวแทนของอำนาจทางเศรษฐกิจมหาศาล รวมถึงการให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญของผู้บริโภคด้วย การมีผู้หญิงไว้เป็นหนึ่งในทีมบริหาร จึงเปรียบเสมือนมีคลังข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจ

  • มีผู้หญิงเป็นผู้นำทีมบริหารช่วยให้ธุรกิจมีกำไรมากขึ้น

     

     จากการสำรวจบริษัทสตาร์ทอัพมากกว่า 350 ราย ของ Mass Challenge และ BCG พบว่าเมื่อนักลงทุน VCs (การนำเงินลงทุนเข้าร่วมถือหุ้นในบริษัท) ลงทุนในธุรกิจที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำ พวกเขาสามารถทำเงินได้มากขึ้น โดยธุรกิจที่ดำเนินกิจการโดยผู้หญิงสามารถสร้างรายได้สูงกว่ามากกว่าสองเท่าของการลงทุนต่อดอลลาร์

     เช่นเดียวกับรายงานของ MSCI ESG ที่กล่าวว่าบริษัทที่มีผู้นำหญิงที่แข็งแกร่งสร้างผลตอบแทนจากผู้ถือหุ้นได้ถึง 10.1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เมื่อเทียบกับบริษัททั่วไปที่ทำได้ 7.4 เปอร์เซ็นต์ โดยพบว่าเมื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 1000 ที่นำโดยซีอีโอหญิงกับบริษัทของ S&P 500 (ดัชนีตลาดหุ้นที่ใช้วัดประสิทธิภาพหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ 500 แห่งในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ) ระหว่างปี 2545 - 2557 บริษัทที่มีผู้หญิงเป็นผู้นำได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าอย่างน่าประหลาดถึง 226 เปอร์เซ็นต์

     นอกจากนี้จากการเก็บข้อมูลของ First Round บริษัทร่วมทุนที่เชี่ยวชาญด้านการจัดหาเงินทุนขั้นต้นให้กับเหล่าสตาร์ทอัพที่เคยทำสถิติเก็บรวบรวม 10 ปี (2548 - 2558) ที่ก่อตั้งบริษัทมา พบว่าบริษัทสตาร์ทอัพที่มีผู้ก่อตั้งหญิงอย่างน้อยหนึ่งรายจะมีประสิทธิภาพเหนือกว่าบริษัทที่ไม่มีผู้ก่อตั้งที่เป็นผู้หญิงหากคิดตามการวัดผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) โดยมีการวิเคราะห์จากบริษัท 300 แห่ง ซึ่งมีผู้ก่อตั้งและผู้ร่วมก่อตั้งเกือบ 600 ราย พบว่าการลงทุนในบริษัทที่มีผู้ก่อตั้งหญิงอย่างน้อยหนึ่งคนนั้นมีประสิทธิภาพดีกว่าการลงทุนในบริษัทที่มีผู้ก่อตั้งชายล้วน

ที่มา :

https://www.hult.edu/blog/women-in-business-advantages-challenges-and-opportunities/

https://pttgweb4.pttgrp.com/PTTDigital-Connect/article/woman-with-challenges-in-the-technology-industry-and-energy

https://www.salika.co/2021/08/12/women-power-in-business-2021/

https://www.mba.com/business-school-and-careers/women-in-business/why-women-are-successful-in-business

https://www.psychologytoday.com/us/blog/the-brain-and-emotional-intelligence/201104/are-women-more-emotionally-intelligent-men

https://www.forbes.com/sites/forbesbusinesscouncil/2021/11/02/three-reasons-why-women-led-startups-are-flourishing-and-and-how-leaders-can-support-them/?sh=233a1184613c

https://www.canadapost-postescanada.ca/blogs/business/ecommerce/the-power-of-female-small-business-owners-and-leaders/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย