สูตรเด็ด…ปั้นเครื่องดื่มกัญชาให้ปัง จากผู้เชี่ยวชาญด้านคราฟท์เบียร์เมืองโคราช

TEXT : จีราวัฒน์ คงแก้ว

 

     HOP Cola น้ำดำสัญชาติไทยทางเลือกของคนอยากดื่มน้ำอัดลมแบบรักสุขภาพ

     Sparking CBD Waterเครื่องดื่มสปาร์คกิ้งผสมฮอปสกัดและเทอร์พีน เพิ่มความอร่อยซ่า และอารมณ์ดี

     CBD Drinking Water น้ำดื่มผสมสารสกัดจากพืชกัญชา ที่มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ

     นี่คือ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากพืชกัญชา ภายใต้ บริษัท โคราชไมโครบรู จำกัด เจ้าของโรงเบียร์ HOP Beer House Korat ผู้เชี่ยวชาญด้านคราฟท์เบียร์แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ธุรกิจที่เกิดจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเครื่องดื่ม ที่สามารถต่อยอดความสำเร็จให้พวกเขาได้อย่างน่าทึ่ง

กูรูด้านคราฟท์เบียร์ สู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มจากพืชกัญชา

     HOP Beer House Korat คือ ชื่อของโรงเบียร์สดและร้านอาหารยุโรป Craft Beer Brewpub & Restaurant ในบรรยากาศธรรมชาติ แห่งเมืองโคราช ที่นี่เป็นแหล่งผลิตคราฟท์เบียร์ขึ้นชื่อ และยังเป็นสถานที่ฝึกอบรมทำคราฟท์เบียร์ที่ได้รับความสนใจจากผู้คนทั่วสารทิศ

     ผู้ก่อตั้ง HOP Beer House คือ มงคล ศรีธรรมมา และ ดร.ลำไพร ศรีธรรมมา ผู้ประกอบธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ร้านอาหารและ Brewpub (โรงเบียร์ประเภทที่มีโรงงานผลิตเบียร์อยู่ในร้าน ห้ามบรรจุขวดจําหน่ายนอกสถานที่) จึงก่อตั้ง HOP Beer House ขึ้นเมื่อประมาณปี 2561 ภายใต้ บริษัท โคราชไมโครบรู ซึ่งผลิตคราฟท์เบียร์โดยโรงเบียร์ขนาดเล็ก (Microbrewery)  สำหรับจำหน่ายภายในร้านอาหาร และผลิตภัณฑ์จากกัญชา

     ด้วยความที่  ดร.ลำไพร ศรีธรรมมา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคราชไมโครบรู จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเครื่องดื่ม โดยเธอเรียนจบมาทางด้าน Brewing and Beverage Technology จาก Technical University Munich ประเทศเยอรมันนี โดยตรง จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยการทำคราฟท์เบียร์ทำให้คุ้นเคยกับ ฮอปส์ (Hops) ซึ่งเป็นพืชที่ให้รสขมและกลิ่นหอมในเบียร์เป็นอย่างดี ซึ่งฮอปส์นั้นเป็นพืชไม้เลื้อยชนิดหนึ่งในพืชดอกวงศ์กัญชา (Cannabaceae) นั่นเอง

     “ก่อนหน้านี้ไม่ได้คิดว่าจะต้องทำอะไรเกี่ยวกับกัญชาเลย และไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกัญชา แต่เผอิญว่าธุรกิจของเราเริ่มต้นจากทำคราฟท์เบียร์ซึ่งหนึ่งในวัตถุดิบหลักก็คือฮอปส์ และเราก็รู้ว่าฮอปส์มีสรรพคุณทางยาหรือทางการแพทย์หลายอย่าง นอกเหนือจากการเป็นส่วนผสมในเบียร์แล้ว หลักๆ คือเป็นยาที่ช่วยให้ผ่อนคลาย แล้วก็นอนหลับสบาย เราก็เริ่มทำผลิตภัณฑ์ออกมา จนกระแสกัญชาเข้ามา ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้ว ฮอปส์กับกัญชานั้นเป็นพืชตระกูลเดียวกัน ที่เรียกว่า Cannabaceae  ทำให้เริ่มสนใจกัญชาขึ้นมา และเนื่องจากเรามีพื้นฐานเรื่องเครื่องดื่มอยู่แล้ว ทั้งกลุ่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างเช่น คราฟท์เบียร์ หรือกลุ่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ พวกเครื่องดื่มทั้งหลาย เลยเกิดความคิดอยากพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชงกัญชาขึ้น” เธอบอกที่มา

ธุรกิจปลายน้ำแต่ต้องใส่ใจตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบ

     ด้วยความที่โคราชไมโครบรู เป็นธุรกิจที่ผู้ก่อตั้งเป็นนักวิชาการที่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการ ดังนั้นพวกเขาจึงให้ความสำคัญและใส่ใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ต้นทางการผลิต 

     “ด้วยความที่กัญชาถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับบ้านเรา เพราะก่อนหน้านี้ยังเป็นอะไรที่ผิดกฎหมาย ทำให้ไม่มีข้อมูลอะไรในเชิงวิชาการหรือวิทยาศาสตร์มากนัก ตลอดจนไม่มีงานวิจัยอะไรที่จะใช้อ้างอิงได้เลย เรารู้ว่ากัญชามันดี แต่ว่านักวิชาการอย่างเราถ้าไม่มีหลักฐานหรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็จะอธิบายไม่ได้ว่ามันดีเพราะอะไร อันนี้คือความยากข้อที่หนึ่ง  สองพอเราจะทำเป็นเชิงพาณิชย์ ก็ต้องมาดูว่าจะใช้วัตถุดิบกัญชาจากที่ไหน ที่ไหนคุณภาพดีหรือไม่ดี เพราะว่ากัญชาเป็นพืชที่โตเร็ว เพราะฉะนั้นต้องระวังมากเรื่องของการปลูก อย่างถ้าในดินมีโลหะหนักหรือพวกสารพิษ ยาฆ่าแมลง อะไรอย่างนี้เขาก็จะดูดซับทุกสิ่ง เพราะฉะนั้นความยากคือเราจะหาแหล่งวัตถุดิบที่ไหนที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ และมีสารสำคัญในปริมาณที่มากพอสมควรด้วย” เธอบอกโจทย์

     แม้จะเริ่มด้วยโจทย์ยาก แต่ตัวปลดล็อกที่เข้ามาทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ คือความร่วมมือกับสถานศึกษาอย่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาเช่นเดียวกัน และมหาวิทยาลัยก็มีโครงการวิจัยเกี่ยวกับกัญชาอยู่พอดิบพอดี  ทางบริษัทฯ จึงได้ทำความร่วมมือเพื่อเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากกัญชา ตัดปัญหาความกังวลเรื่องวัตถุดิบลงไปได้ ทั้งยังมีความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกัญชาสู่เชิงพาณิชย์ร่วมกันอีกด้วย

     “ทำไมเราถึงต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นทางวัตถุดิบ มองว่าไม่ใช่แค่เป็นผลิตภัณฑ์จากกัญชาเท่านั้น แต่การแปรรูปสินค้าทุกอย่าง ถ้าเราเริ่มต้นจากวัตถุดิบที่ไม่ดี ในที่นี้คือไม่ได้มีสารสำคัญที่อยากได้ หรือมีพวกสารพิษปนเปื้อนหรือแม้กระทั่งมีโรคอะไรติดมากับวัตถุดิบ แบบนี้ต่อให้คนทำเก่งแค่ไหน หรือมีเครื่องมือที่ดีแค่ไหน เราก็ไม่มีทางที่จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพไปได้เลย เพราะฉะนั้นมันต้องเริ่มจากวัตถุดิบที่ดีเสมอ” ดร.ลำไพรสะท้อนความคิด

ต่อยอดสู่สินค้าทางเลือก เพื่อสุขภาพสู่ผู้บริโภค

     ด้วยความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่ม ทำให้พวกเขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาได้หลากหลาย โดยเริ่มต้นมีสินค้าอยู่ 3 กลุ่ม คือ

     1.เครื่องดื่มอัดแก๊ส (Carbonated Soft Drink ;CSD) ใช้ชื่อ Sparking CBD Water เครื่องดื่มสปาร์คกิ้งผสมฮอปสกัดและเทอร์พีน โดยทำออกมาเป็น 4 รสชาติ

     2.เครื่องดื่มน้ำดำ ใช้ชื่อ HOP Cola เพื่อเป็นทางเลือกของคนอยากดื่มน้ำอัดลมแบบรักสุขภาพ

     3.กลุ่มฟังก์ชันนอลดริงค์ (Functional Drink) ประเดิมด้วย  CBD Drinking Water น้ำดื่มผสมสารสกัดจากพืชกัญชา ที่มีสรรพคุณเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ

     “CBD Drinking Water เป็นตัวล่าสุดเลยที่เราเพิ่งเปิดตัวไป ไอเดียคือเราต้องการทำน้ำธรรมดาให้มีคุณสมบัติเป็นเครื่องดื่มเชิงหน้าที่หรือ Functional Drink  แทนที่จะดื่มน้ำเปล่า ก็มาดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชาและมีกลิ่นหอมเทอร์พีนที่มาจากกัญชาด้วย ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย โดยเราเป็นเจ้าแรกที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้”

     ดร.ลำไพรบอกว่า สินค้าของพวกเขาเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป โดยเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกให้กับกลุ่มที่ดื่มน้ำดำ น้ำอัดลม และน้ำดื่มอื่นๆ อยู่แล้ว ที่จะได้สัมผัสรสชาติความต่างของผลิตภัณฑ์จากโคราชไมโครบรู โดยปัจจุบันจำหน่ายทั้งแบบปลีกและส่ง ผ่านตัวแทนจำหน่าย พร้อมกระจายสินค้าทั่วประเทศ ในส่วนของการส่งออกนั้นเธอยอมรับว่ายังไม่มีความถนัด และทีมงานก็มีจำกัด จึงให้เป็นโอกาสของตัวแทนจำหน่ายที่สนใจ สามารถมารับไม้ต่อไปทำตลาดต่างประเทศให้แทนได้

ใช้นวัตกรรม ต่อยอดความสำเร็จ รับมือคู่แข่งขัน

     ในวันนี้มีผู้สนใจเข้ามาในตลาดกัญชาเป็นจำนวนมาก ทั้งรายใหญ่รายเล็ก เมื่อถามว่าเตรียมรับมือกับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นอย่างไร ดร.ลำไพร บอกเราว่า เป็นรายเล็กก็ต้องสู้แบบเล็ก

     “เราเป็นผู้ผลิตรายเล็ก แต่ต้องการเป็นรายเล็กที่เข้มแข็ง ยั่งยืน ฉะนั้นอันดับแรกเลยคือ ต้องมีสินค้าที่เป็นนวัตกรรม อย่างเราทำน้ำดื่ม CBD Drinking Water ไม่ใช่แค่เอาสารสกัดกัญชาใส่ลงไปในน้ำ มันคงไม่ง่ายแบบนั้น เพราะว่าสารสกัดกัญชาส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดจะละลายในน้ำมันหรือในตัวทำละลายที่มีขั้วอย่างพวกน้ำมันหรือแอลกอฮอล์ พวกนี้ ฉะนั้นการจะเอามาเติมลงในน้ำเราก็ต้องไปเตรียมเขาก่อนให้ละลายในน้ำได้และให้เป็นเนื้อเดียวกันไม่แยกชั้น แล้วร่างกายเอาไปใช้ประโยชน์ได้ทันที คือดื่มแล้วคนต้องรู้สึกได้ว่ามันต่างออกไปด้วย เราต้องใส่ความเป็นนวัตกรรม ใส่โนว์ฮาวเข้าไปในผลิตภัณฑ์ของเรา”

     ดร.ลำไพรบอกเราว่า ยังมีการวิจัยและพัฒนาเครื่องดื่มจากกัญชาอยู่ตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อีกหลายตัวที่ยังรออยู่ในลิ้นชัก เพื่อดูจังหวะที่เหมาะสมในการนำออกมาสู่ตลาด และนี่น่าจะเป็นแต้มต่อของพวกเขาที่ทำให้ยืนหยัดอยู่ได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าคู่แข่จะลงสนามเดียวกันมามากแค่ไหน

     “เราเป็นผู้ประกอบการรายเล็ก แต่เราก็ไม่ได้กังวลว่า จะต้องไปแข่งกับรายใหญ่ เพราะว่าธุรกิจกัญชา ถ้ามองในแง่ดีคือทุกคนสตาร์ทพร้อมกันหมดไม่ว่าจะรายใหญ่หรือรายเล็ก เพราะฉะนั้นเราก็จะใช้ความเล็กของเรา ใช้ความยืดหยุ่นของเราให้เป็นประโยชน์ รายใหญ่เขาเน้นผลิตจำนวนมาก ทำให้วัตถุดิบไม่พอ ในขณะที่เราเป็นรายเล็ก เราไม่ได้ทำเยอะ เรามีวัตถุดิบเพียงพอก็ทำเลย เพราะฉะนั้นจึงไม่ได้กังวลเรื่องการแข่งขันอะไรเลย”

     เมื่อถามถึงธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาในบ้านเรา ดร.ลำไพร บอกเราว่า โอกาสยังมีเสมอสำหรับคนที่อยู่ปลายน้ำหรือผู้ที่ใช้ประโยชน์จากกัญชามาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ เนื่องจากหลังรัฐบาลปลดล็อก จะทำให้มีแหล่งวัตถุดิบเยอะขึ้น มีทางเลือกในการใช้วัตถุดิบมากขึ้น ฉะนั้นหน้าที่ของผู้ประกอบการคือ จะทำอย่างไรถึงจะนำเทคโนโลยีหรือว่าโนว์ฮาวต่างๆ เข้ามาแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ทำธุรกิจตามลำพัง แต่ควรไปจับมือเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ และเป็นจุดแข็งให้อยู่รอดและเติบโตในตลาดนี้

     “สำหรับแผนในอนาคต เราไม่ได้คิดว่าจะต้องผลิตสินค้าเองทุกตัวหรือหลากหลาย แต่เรามีสูตร มีโนว์ฮาวก็อาจขายโนว์ฮาวออกไป ใครอยากให้เราช่วยพัฒนาเครื่องดื่มจากกัญชา เราก็ยินดีผลิตให้ รวมทั้งใครที่อยากมีแบรนด์ของตัวเองสนใจจ้างเราเป็นโออีเอ็ม เราก็ยินดีพัฒนาให้โดยผลิตในปริมาณที่ไม่ต้องมากนัก เพราะเราเติบโตมาจาก SME จึงเข้าใจดีว่า คนที่เริ่มต้นทำธุรกิจไม่ควรจะต้องมาเสี่ยงกับอะไรมากมาย รวมถึงการขายแฟรนไชส์ทั้งในส่วนของร้าน HOP Beer House และพิซซ่าซึ่งเป็นเมนูยอดนิยมในร้านของเราที่จะทำเป็นแฟรนไชส์ออกมาเช่นกัน เราพยายามมีหลายทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจ และเป็นการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของเราในอนาคตด้วย” เธอบอกในตอนท้าย

     “โคราชไมโครบรู” คือหนึ่งในผู้ประกอบการที่จะมาร่วมงาน PLANT BASED Festival 2022 มหกรรมอาหารแห่งอนาคต ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 9-10 กันยายนนี้ ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ ชั้น 5 ใครอยากรู้จักคนทำคราฟท์เบียร์ที่ต่อยอดมาทำเครื่องดื่มสายเขียวได้สุดว้าว! เตรียมพบกับพวกเขาได้

โคราชไมโครบรู

FB : hopbev

FB : HopHouseKorat

เว็บไซต์ : www.hopbev.com

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย