TEXT : อรุษา กิตติวัฒน์
GIRLBOSS หมายถึง สาวแกร่ง ผู้หญิงที่สร้างตัวขึ้นมาด้วยตัวเอง ทำธุรกิจของตัวเอง เป็นเจ้านายของตัวเอง ควบคุมชีวิตของตัวเอง และเป็นชื่อหนังซีรีส์ Netflix ที่ฉายในปี 2017 เนื้อหาดัดแปลงจากหนังสือ #GIRLBOSS ตีพิมพ์ในปี 2014 (ฉบับภาษาไทยชื่อ “เพราะเป็นผู้หญิงไม่แคร์ใคร ฉันถึงได้เป็นนายคน” โดยสำนักพิมพ์ WE LEARN) เขียนโดย โซเฟีย อมอรูโซ เล่าถึงช่วงหนึ่งในชีวิตที่เปลี่ยนจาก “คนไม่ได้เรื่อง” ค้นพบเส้นทางชีวิต ก่อตั้งร้านเสื้อผ้า นาสตี้กาล วินเทจ (Nasty Gal Vintage) บนอีเบย์ และสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง เธอกลายเป็นนักธุรกิจหญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดก่อนอายุ 30 ปี
ในปี 2014 เธอเป็นผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของนาสตี้กาล บริษัทค้าปลีกสินค้าแฟชั่นที่มีมูลค่ากว่าร้อยล้านดอลลาร์ มีพนักงาน 350 คน และกลายเป็นธุรกิจเสื้อผ้าออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดในสหรัฐอเมริกา นาสตี้กาล ก้าวจากจุดที่ทำเงินได้ 150,000 ดอลลาร์ต่อปี มาเป็น 150,000 ดอลลาร์ต่อวัน
เมื่อธุรกิจเติบโตถึงจุดหนึ่ง เข้าสู่วงจรของการบริหารงานแบบบริษัทใหญ่ มีการสั่งผลิตสินค้าจำนวนมาก เกิดปัญหาเรื่องการส่งคืนสินค้าที่มีคุณภาพไม่เท่ากับในเว็บไซต์ ในปี 2016 นาสตี้กาล ถูกฟ้องล้มละลาย โซฟียอมรับความผิดพลาด และเดินหน้าต่อไป นาสตี้กาลถูกเปลี่ยนมือ โซฟีก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้งสมกับเป็นสาวแกร่งตัวจริง ในปีที่เรื่องราวการสร้างธุรกิจของเธอปรากฏให้เห็นผ่านหนังซีรี่ส์ เธอเริ่มต้นธุรกิจใหม่ Girlboss Media ใช้ความถนัดส่วนตัว และประสบการณ์ที่ผ่านมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและผลักดันให้ผู้หญิงก้าวขึ้นมาเป็น Girlboss หากอยากรู้เรื่องราวในปัจจุบันของเธอ เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ https://www.sophiaamoruso.com/
ต่อจากนี้คือเรื่องราวและบทเรียนจากช่วงเวลาเริ่มต้นนาสตี้กาลผ่านหนังสือและหนังซีรีส์
1. ก่อนที่จะค้นพบเส้นทางอาชีพ โซเฟียเป็นสาวแสบที่ไม่มีพื้นฐานธุรกิจใดๆ เธอออกจากโรงเรียนกลางคัน มีนิสัยชอบลักเล็กขโมยน้อย ต่อต้านระบบทุนนิยม ทำงานพาร์ทไทม์ไปวันๆ ถูกไล่ออกจากงานบ่อยๆ เพราะขี้เกียจ เอาเวลางานไปเล่นอินเตอร์เน็ตเรื่อยเปื่อย ขายของเล็กๆ น้อยๆ (ที่เธอขโมยมา) ในเว็บประมูลอย่าง อีเบย์ ไม่มีใครคิดว่าคนอย่างเธอจะประสบความสำเร็จได้
หลังจากถูกไล่ออกจากงานอีกครั้ง เธอเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้ามือสอง เพื่อเยียวยาตัวเอง และได้ค้นพบเสื้อแจ็คเกตตัวหนึ่งที่เปล่งประกายอยู่ในกองเสื้อผ้ามือสอง เมื่อลองสวมแล้วมองดูตัวเองในกระจก เธอได้ไอเดีย ทำฉากหลังและจัดไฟแบบง่ายๆ แต่งหน้า ทำผม ตั้งกล้อง โพสต์ท่า ถ่ายภาพตัวเอง ใช้โปรแกรมแต่งภาพปรับเล็กน้อย แล้วโพสต์ขายเสื้อแจ็กเกตหนังลูกวัว อีสต์-เวสต์ ของแท้ยุค 1970 สภาพสมบูรณ์แบบ ที่ซื้อมา 9 ดอลลาร์ในราคาประมูลเริ่มต้น 10 ดอลลาร์ ไม่กี่นาทีต่อมา ราคาประมูลค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนไปจบที่ 600 กว่าดอลลาร์
โซเฟียรู้แล้วว่าตัวเองอยากทำอะไรในชีวิต เธอเอาหนังสือคู่มือการเริ่มต้นธุรกิจบนอีเบย์มาอ่าน เลือกหาแหล่งสินค้า เริ่มต้นธุรกิจในอีเบย์ จากอพาร์ทเมนต์รกๆ ที่แสนสบายของตัวเอง เธอพบว่าตัวเองสนุกกับงานและความท้าทายต่างๆ ทุกวันผ่านไปอย่างมีความสุข จึงบอกได้ว่าบางทีถ้าคุณเบื่อและเกลียดสิ่งนั้น นั่นอาจเป็นสัญญาณสำคัญว่าคุณคงอยู่ผิดที่ผิดทาง คุณต้องละทิ้งนิสัยหรืออะไรก็ตามในชีวิตที่ฉุดรั้งคุณไว้ และรู้จักสร้างโอกาสให้ตัวเอง
2. การคิดชื่อร้านจึงถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจ “เมื่อเราขายอะไร คือ เรากำลังขอให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวเรา” การไปเปลี่ยนทีหลังอาจส่งผลเสียมากกว่า ดังนั้นแม้จะมีสินค้าจำนวนมากพอที่จะเปิดร้านได้ โซเฟียยังไม่ลงขายจนกว่าจะคิดชื่อร้านออก ต้องเป็นชื่อร้านที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเอง Nasty Gal Vintage ได้แรงบันดาลใจจากชื่อเพลงในอัลบั้มของ เบตตี้ เดวิส นักร้องหญิงแนวฟังก์ในตำนานและผู้หญิงสุดก๋ากั่น เธอไม่สนว่าใครจะคิดอย่างไร พูดจาโผงผาง มีเพลงที่แต่งเนื้อร้องและทำนองเอง ทำเพลงเอง ซึ่งหาได้ยากในบรรดานักร้องหญิงยุค 70 เธอดูล้ำสมัยจนเกินไปทำให้ไม่ประสบความสำเร็จตามแบบฉบับของยุคสมัยนั้น ชื่อนี้ถ่ายทอดตัวตนของโซเฟียได้ดี
3. ดึงทุกเรื่องในชีวิตออกมาใช้ประโยชน์ ตอนวัยรุ่นโซเฟียใส่แต่เสื้อผ้าแนวย้อนยุค ฟังเพลงเก่า ขับรถรุ่นเก่า เธอหลงใหลของวินเทจและเรื่องราวของมัน เธอชอบเสื้อผ้ามือสองมากกว่าเสื้อผ้าใหม่ เคยอยากเป็นช่างภาพ อยากเรียนศิลปะ และอยากอยู่ในวงดนตรี การลงมือทำอย่างสะเปะสะปะ ลองทำสิ่งใหม่ๆ และค้นหาว่าตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง ได้หลอมรวมกันเป็นสิ่งที่มีความหมายเมื่อเริ่มเปิดร้านในอีเบย์
ความสนใจด้านการถ่ายภาพทำให้ได้เปรียบผู้ขายรายอื่นๆ ที่ไม่สนใจเรื่องการจัดแสงหรือองค์ประกอบของภาพ เธอใส่แต่เสื้อผ้าแนววินเทจจึงรู้จักมันเป็นอย่างดีและเป็นมือหนึ่งในด้านการคุ้ยหาของดี และการที่เคยเป็นพนักงานเอื่อยเฉื่อยในร้านขายซีดีเพลงก็ทำให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมและดนตรีอย่างลึกซึ้ง สิ่งเหล่านี้มีประโยชน์ในการสร้างความเป็นนาสตี้กาลให้ออกมาดูแหวกแนวและน่าประหลาดใจ
หลังจากร้าน นาสตี้กาล วินเทจ ปรากฏตัวขึ้นในอีเบย์ และเริ่มกระหน่ำปล่อยของไม่หยุด ไม่นานก็กลายเป็นหนึ่งในร้านที่ประสบความสำเร็จที่สุดในหมวดเสื้อผ้าวินเทจ สิ่งที่ทำให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่สินค้าที่ขาย แต่เป็นวิธีการนำเสนอที่เหนือชั้นกว่าผู้ขายรายอื่น โซเฟียทุ่มเททำให้ร้านของตัวเองมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุด
4. ให้ความสำคัญกับทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกคำบรรยายสินค้า แม้แต่สีหน้าของนางแบบ สิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้มีผลต่อธุรกิจ แนวทางที่โซเฟียใช้ในการเริ่มธุรกิจตอนแรกๆ โดยมีหลักสำคัญ 2 ประการ ดังนี้ 1) ใส่ใจลูกค้าให้มากที่สุด 2) หาวิธีทำการตลาดแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น ทำงานให้ดี , รักษาสัญญา และ ทำให้ลูกค้าอยากแบ่งปันประสบการณ์
การขายของบนอีเบย์ต้องทำตามตารางเวลาอย่างเคร่งครัดที่สุด เพราะระยะเวลาในการเปิดประมูลถูกกำหนดไว้แล้ว ถ้าพลาดไป ลงไม่ทัน ลูกค้าที่รอซื้อของก็จะผิดหวังและอาจหนีไปซื้อร้านอื่น หากตอบคำถามลูกค้าช้า ลูกค้าก็จะเปลี่ยนใจไม่ซื้อ หรือถ้าส่งของช้า เรทติ้งก็จะไม่ดี และมีผลในการขาย
นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้เรื่องการวางแผนในการจัดสินค้า ถ้าไม่รีดชุดทั้งหมดเตรียมไว้ในเรียบร้อยในคือก่อนวันถ่ายแบบ ก็ไม่มีทางถ่ายแบบเสร็จในวันเดียว ชุดที่ลงขายต้องไม่แข่งกันเองและเผยเสน่ห์ของแต่ละชุดออกมาให้มากที่สุด เธอควบตำแหน่งช่างภาพ และดูแลเสื้อผ้าหน้าผมไปพร้อมกัน แม้จะหานางแบบผ่านทางมายสเปซ ด้วยการเลี้ยงอาหารหนึ่งมื้อ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องจัดท่าทางของนางแบบ ให้ทรวดทรงของเสื้อผ้าออกมาดูสวยที่สุด เพราะลูกค้าใช้เวลาไล่ดูแต่ละรูปบนหน้าเว็บไซต์แค่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น และสิ่งที่สะดุดตาคนได้ง่ายที่สุดก็คือทรวดทรงที่สวยงามของเสื้อผ้า
โซเฟียค้นพบสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีและพร้อมที่จะทุ่มเททำต่อไป แต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไป เธอทำงานได้เร็วขึ้น เก่งขึ้น และเข้าใจว่าความต้องการของลูกค้า ชุดแบบไหนขายได้ก็จะรีบหามาเพิ่มทันที ถ้าขายไม่ได้ก็จะไม่แตะต้องชุดแนวนั้นอีกเลย กิจการ นาสตี้กาล วินเทจ เติบโตรวดเร็วมาก มีผู้ติดตามในอีเบย์ที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ และสามารถปิดการประมูลด้วยราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เธอมองเห็นว่าธุรกิจนี้มีโอกาสมากกว่าที่เคยคิดไว้
ขณะที่กำลังเตรียมเปิดเว็บไซต์ของตัวเอง จู่ๆ อีเบย์ก็สั่งระงับบัญชี นาสตี้กาล วินเทจ เนื่องจากอีเบย์มีนโยบายห้ามใส่ลิงค์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น คู่แข่งรายหนึ่งไปแจ้งอีเบย์ว่าเธอทิ้งที่อยู่เว็บไซต์ใหม่ไว้ตรงส่วนแสดงความคิดเห็นของลูกค้า
เมื่ออีเบย์ปิดร้านก็เหมือนทุกอย่างจบสิ้น ช่องทางเดียวที่ขายสินค้าหายไป โซเฟียไม่มีอีเมล์ของลูกค้าเลยสักคน แต่ในมายสเปซของเธอมีเพื่อนอยู่ถึงหกหมื่นคน ซึ่งกลายเป็นช่องทางติดต่อลูกค้า การที่เธอพูดคุยกับลูกค้าเสมือนเพื่อน คอยให้คำปรึกษาเรื่องการแต่งตัว ทำให้เธอมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น
ที่ผ่านมาหากไม่ได้ออกไปหาสินค้า เธอจะอยู่บ้านหาเพื่อนในมายสเปซเพิ่ม โดยหาสาววัยรุ่นสวยๆ ที่แต่งตัวเก่ง แล้วเข้าไปดูรายชื่อเพื่อน จากนั้นก็ส่งคำขอเป็นเพื่อน ทำให้มีเพื่อนในมายสเปซหลายหมื่นคน และใช้สิ่งนี้กระตุ้นให้คนเข้าไปดูร้านของในอีเบย์มากขึ้น เธอจะเขียนลงในมายสเปซและเขียนบล็อกทุกครั้งเมื่อมีการประมูลสินค้าของร้าน ตอบกลับข้อความของทุกคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น หลายบริษัทอาจต้องเสียเงินเป็นล้านๆ ดอลลาร์ไปกับการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย แต่เธอแค่ทำตามสัญชาติญาณ และปฏิบัติต่อลูกค้าเหมือนเพื่อน ลูกค้าจะบอกว่าต้องการอะไร การรับฟังลูกค้าส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย เป็นวิธีทำการตลาดแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ทันทีที่เปิดตัวเว็บไซต์ของนาสตี้กาลวินเทจ ทุกอย่างก็ขายหมดภายใน 24 ชั่วโมง
หลังจากขายแต่สินค้าแนววินเทจอยู่สองปี โซเฟียอยากตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น และเริ่มเหนื่อยกับการตระเวนหาสินค้ามือสองทุกสัปดาห์โดยไม่มีวันหยุด จึงกลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง ในเมื่อเธอเก่งเรื่องหาเสื้อผ้าย้อนยุคที่สวยสะดุดตา ก็น่าจะหาสินค้าใหม่ๆ ได้ด้วย ร้านนาสตี้กาลที่เคยขายแต่เสื้อผ้าย้อนยุค ก็กลายเป็นร้านออนไลน์ที่ทีทั้งเสื้อผ้าย้อนยุคและเสื้อผ้าราคาพอเหมาะที่ถูกจับมานำเสนอในรูปแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน เรียกว่ามิกซ์แอนด์แมทช์ในสไตล์ของตัวเอง มีคนเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของนาสตี้กาลวินเทจ เพื่อหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัว โซเฟียตระหนักว่าตัวเองกำลังให้คำแนะนำเรื่องการแต่งตัวเพราะกับขายเสื้อผ้าไปด้วย เพราะจะจับคู่เสื้อผ้าและสินค้าอื่นๆ ให้ออกมาดูดีที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้า
5. สถานภาพทางการเงินที่ดีจะเปิดประตูพาคุณไปสู่สิ่งต่างๆ การรู้จักบริหารจัดการเงินเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดที่ควรทำ เงินให้อิสรภาพในหลายๆ ด้าน ถ้ารู้จักควบคุมการใช้เงิน ก็จะไม่ต้องติดแหงกอยู่กับงาน สถานที่ หรือความสัมพันธ์ที่ไม่ชอบ เพียงเพราะไม่มีเงินพอที่จะพาตัวเองออกไปได้ ตอนที่ยังขายสินค้าทางอีเบย์ แม้ว่าจะได้กำไรเป็นสิบเท่าของราคาที่ซื้อมา โซเฟียก็จะเก็บเงินไว้ใช้ลงทุนกับธุรกิจ ไม่เอาไปใช้ซื้อสิ่งฟุ่มเฟือย
เธอจัดซื้อแบบง่ายๆ โดยเชื่อในสัญชาติญาณของตัวเอง และยึดมั่นกับหลักการสองข้อ คือ ขายของให้ได้ราคาดีกว่าที่ซื้อมา และ เก็บเงินให้มากกว่าที่ใช้ หลักทางการเงินสองข้อนี้ทำให้นาสตี้กาลเติบโตจนมีรายได้ 28 ล้านดอลลาร์ โดยไม่เคยกู้ยืมเงินจากที่ไหน
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี