เรื่องราวธุรกิจเกือบ 100 ปีที่เริ่มต้นจากเงาะโรงเรียนต้นแรก จนกลายเป็นสินค้าแปรรูปที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 80-90% และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือ รัตนาพร บรรเทิงจิตร เจ้าของบริษัท นาสารฟู้ดโปรดักซ์ จำกัด เรื่องราวการธุรกิจจะเป็นอย่างไร ตามไปอ่านกันได้เลย
ที่มาของ เงาะโรงเรียน
เมื่อปี พ.ศ.2469 Mr.K Wong ชายชาวจีนสัญชาติมาเลเซีย ได้เข้ามาทำเหมืองแร่ที่อำเภอบ้านนาสาร เขาได้นำเงาะปีนังจากถิ่นบ้านเกิดมาปลูกไว้ 4 ต้น ข้างๆ บ้านพัก เมื่อเงาะโตขึ้นและออกผล ปรากฏว่าเงาะทั้งสี่ต้นนี้ มีต้นเดียวเท่านั้นที่มีรสชาติหวาน หอม เนื้อกรอบ เปลือกบาง และต่อมาเมื่อปี 2579 ชาวจีนคนนี้ได้เลิกกิจการทำเหมืองแร่ เขาจึงขายที่ดินให้กับกระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นได้พัฒนาปรับปรุงกลายมาเป็นโรงเรียนนาสาร และเมื่อประมาณปี 2489 มีผู้ตอนกิ่งไปขยายพันธุ์ได้เพียง 3-4 รายเท่านั้น
จุดเริ่มต้นจากเงาะโรงเรียนต้นแรก
หนึ่งในนั้นก็คือปู่ของ รัตนาพร ที่นำพันธุ์เงาะโรงเรียนต้นแรกมาปลูกที่สวน ซึ่งปู่ของเธอเริ่มทำสวนเงาะมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 รวมแล้ว 75 ปี และทำมาจนถึงรุ่นพ่อและรุ่นของเธอ แต่มีช่วงที่เงาะราคาถูกมาก อย่างที่เคยเห็นว่าชาวไร่นำเงาะไปเททิ้งกันจำนวนมาก
ต้องบอกก่อนว่าเงาะนาสาร นอกจากเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ยังได้รับ GI (Geographical Indications) เป็นเงาะที่ดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย
แต่ตอนนี้เงาะนาสารเริ่มค่อยๆ หายไป เพราะว่ามีทุเรียนเข้ามาเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และด้วยทุเรียนมีราคาที่ดีกว่าเงาะ คนจึงหันมาปลูกทุเรียนกันมากขึ้น ทำให้คนทำสวนเงาะน้อยลง เพราะนอกจากมีราคาถูกแล้ว ยังมีการแข่งขั้นที่สูง เพราะหนึ่งปีมีรายได้แค่ครั้งเดียว ทำให้เกษรตกรหลายคนซึ่งบางคนเปลี่ยนจากปลูกเงาะมาทำเป็นสวนยาง เพราะว่าสวนยางทำให้เขามีรายได้ตลอดทั้งปี
แต่แทนที่จะปล่อยให้เงาะโรงเรียนนาสารสูญหายไปตามกาลเวลา ปี 2553 เธอจึงหาวิธีที่จะนำเงาะโรงเรียนมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการเอาไปแปรรูป ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครทำเงาะแปรรูป มีแต่เงาะกระป๋องอย่างเดียว เมื่อต้องใช้องค์ความรู้ที่มากขึ้นเธอจึงได้ติดต่อและได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ถ่ายทอดเทคโนโลยีการทำผลไม้อบแห้ง จึงนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ จนได้มาเป็น “อัยยะ เงาะอบแห้ง” จากเงาะที่เคยขายในสวนราคากิโลกรัมละ 10-20 บาท ก็สามารถขายได้กิโลกรัมละ 1,000 บาท
นำความโดดเด่นของพื้นที่ มาสร้างความแตกต่าง
นอกจากเงาะนาสารแล้ว จังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีสินค้า GI อีกสองตัวคือ ไข่เค็ม และมะพร้าว รัตนาพร จึงมองว่าบริษัทสามารถนำผลิตภัณฑ์ GI ที่บ้านเกิดมาพัฒนาเป็นสินค้าตัวใหม่ๆ ขึ้นมา อาทิ ชามะพร้าว
“ซึ่งจะไม่ซ้ำกับพวกน้ำมันมะพร้าว ครีม เราพยายามหาความแตกต่างให้สินค้าที่สามารถขายได้ด้วยตัวของมันเอง คุณประโยชน์ของชามะพร้าวมีมหาศาล น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์อย่างไร ชามะพร้าวก็มีประโยชน์อย่างนั้น”
และสาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ รัตนาพร เลือกทำชามะพร้าวก็เพราะว่า มะพร้าวมีทุกฤดูกาล เก็บได้ตลอดทั้งปี
และนี่คือเรื่องราวการทำธุรกิจที่เริ่มต้นจากเงาะโรงเรียนต้นแรก แต่สามารถต่อยอดธุรกิจให้อยู่ได้มากว่า 75 ปี
TEXT: Momo
PHOTO : IYHA
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี