การเลือกผ้ามาทำแบรนด์เสื้อผ้าอาจทำให้หลายคนประสบปัญหามากมาย โดยพื้นฐานส่วนใหญ่เรามักจะรู้จักแต่, คอตตอน, ลินิน, ผ้าฝ้าย ฯลฯ แต่รู้ไหมว่าการสั่งผลิต หรือเลือกซื้อผ้าที่แท้จริงแล้ว โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการที่ต้องดีลกับโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อนำมาผลิตเป็นสินค้าต่างๆ เพื่อให้ได้ผ้าที่ถูกต้องตามต้องการ เราต้องรู้จักไปถึงองค์ประกอบของผ้า ได้แก่ โครงสร้างและวิธีการผลิตของผ้านั้นๆ ด้วย เพราะคอตตอน, หรือลินิน เป็นเพียงประเภทของวัตถุดิบหรือเส้นใยที่นำมาใช้ผลิตเท่านั้น
วันนี้ทาง SME THAILAND ONLINE จะไปทุกคนไปรู้เทคนิคเลือกผ้าที่ใช่ สำหรับธุรกิจแฟชั่น จาก แอ๋ม ธมลวรรณ วิโรจน์ชัยยันต์ Co-Founder, Moreloop แพลตฟอร์มขายผ้าออนไลน์คุณภาพ ที่เป็นตัวกลางรวบรวมผ้าเหลือใช้จากโรงงานต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ ได้ฝากเอาไว้เป็นความรู้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจและต้องการเลือกซื้อผ้า เพื่อนำสร้างสรรค์ผลิตสินค้าของตนเอง
อย่างแรกเลยก่อนที่คุณจะเลือกซื้อผ้า คุณต้องรู้ก่อนว่ามองหาผ้าไปทำโปรดักต์อะไร และผ้าที่ต้องการซื้อมันคือผ้าอะไร ซึ่งผ้าในวงการเสื้อผ้าแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
1. ผ้านิต (Knit) หรือภาษาไทยเรียกว่าผ้าถัก ตัวอย่างเช่น เสื้อยืดที่เราใส่กันหรือว่าเสื้อโปโล
2. ผ้าวูฟเว่น (Woven) หรือผ้าภาษาไทยเรียกว่าผ้าทอ ตัวอย่างเช่น เสื้อเชิ้ต หรือกางเกงสแล็คต่างๆ
โดยผ้าทั้งสองนี้แตกต่างกันตรงที่ลักษณะของการทอ
ผ้านิต ผ้าที่เกิดจากการใช้เข็ม (needles) ถักเพื่อให้เกิดเป็นห่วงของด้ายที่มีการสอดขัดกัน (interlocking loops) โดยจะมีเส้นที่อยู่แนวตั้ง (Wales) และเส้นที่อยู่ในแนวนอน (courses)
ผ้าทอ ผ้าที่เกิดจากกระบวนการทอโดยมีเส้นยืน (warp yarn) และเส้นพุ่ง (filling or weft yarn) ที่ทอขัดในแนวตั้งฉากกัน และจุดที่เส้นทั้งสองสอดประสานกัน (interlacing) จะเป็นจุดที่เส้นด้ายเปลี่ยนตำแหน่งจากด้านหนึ่งของผ้าไปด้านตรงข้าม
ก่อนจะสั่งซื้อผ้า ต้องรู้อะไรบ้าง
- ต้องรู้ว่ามันคือเส้นใยอะไร
- เอาเส้นใยชนิดนั้นไปทอในลักษณะไหน
การที่คุณรู้ว่าผ้านั้นเป็นเส้นใยอะไรจะมีประโยชน์คือ เวลาคุณจะสั่งซื้อผ้าชนิดหนึ่ง บอกกับคนขายว่าอยากได้คอตตอน
“ในมุมของมอร์ลูปเองหรือโรงงานเอง คำว่าคอตตอน (Cotton) ในที่นี้หมายถึงเส้นใย มันไม่ได้บอกว่าคุณต้องการผ้าอะไร แล้วจะทำยังไงให้คอตตอนกลายเป็นผ้า พอถึงตอนนี้คุณต้องบอกด้วยว่าจะเอาผ้าไปทอในลักษณะไหน อย่างเช่น เลือกเส้นใยคอตตอน 100% เอาไปทอในลักษณะของซิงเกิลเจอซี (Single Jersey) ก็จะออกมาเป็นผ้ายืดที่เราใส่กันในปัจจุบัน” ตัวอย่างเช่น ลาย Pique นิยมเอามาทำเป็นผ้าโปโล หรือลายทอป็อปลิน ( Poplin) นิยมทำเป็นเสื้อเชิ้ต เป็นต้น
พอถึงตรงนี้แล้วคุณก็จะรู้ว่า การรู้จักเส้นใยนั้นสำคัญอย่างไรต่อการสั่งซื้อผ้า
มาทำความรู้จักเส้นใยผ้ากัน
เส้นใยแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1. เส้นใยที่ทำจากธรรมชาติ100% (Natural fiber)
- เส้นใยไหม (Silk) มีความนุ่ม เนื้อผ้ามีความเงางามจับตาไม่ยับง่าย คงสภาพของผ้าได้ดี สามารถปรับตัวได้ในอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง
- เส้นใยลินิน (Linen) มีความคงทน ยับง่าย ผิวเรียบแข็ง
- เส้นใยฝ้าย (Cotton) ยับง่าย รีดยาก หด ย้วย แต่บางเบาหากผลิตเป็นเครื่องนุ่งห่ม จะใส่สบาย
- เส้นใยขนสัตว์ (Wool) และถ่ายเทความชื้นได้ดี เวลาสวมใส่จึงให้ความอบอุ่นได้ดี
2. เส้นใยสังเคราะห์จากสารเคมี (Chemical Synthetic fiber)
- สแปนเด็กซ์ (Spandex)เป็นผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่นใช้ตัดชุดชั้นใน มาทดแทนยางธรรมชาติที่อายุการใช้งานใช้ไม่ได้นานนัก
- ไนลอน (Nylon)ไนลอน คุณลักษณะของผ้าไนลอนนั้น มีความทนทานมาก รูปร่างของผ้าทรงตัวได้ดี แต่เวลาใส่ไม่ค่อยสบายตัวนัก
- โพลีเอสเตอร์ (Polyester เป็นเส้นใยยาวนุ่ม เงามัน ดูดความชื้นได้น้อย ผ้ามีความเบาบาง ยับยากจับจีบได้ แต่เมื่อใส่ไประยะนานผ้าจะเกิดขุยได้
3. เส้นใยสังเคราะห์จากวัสดุธรรมชาติ (Natural Synthetic fiber)
- เรยอน (Rayon) มีความนุ่ม มันเงา สามารถระบายความร้อน และดูดความชื้นได้
รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น นอกจากจะทำให้เรารู้จักผ้าได้ดียิ่งขึ้น ไปจนถึงสามารถจดจำ และนำไปใช้เลือกซื้อผ้าต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องลองผิดลองถูกให้เสียเวลา และในอนาคตหากมีโอกาสได้ติดต่อกับโรงงานผลิตอีกหรือแม้แต่รายเล็กๆ ที่วันหนึ่งก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ที่เติบโต ก็สามารถนำทักษะความรู้เหล่านี้มาใช้สั่งผ้าได้เลย
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=9ZajcdDcFLU
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี