แม่หนิง ภูดอย จากขนมบ้านๆ สู่ของหวานขึ้นโต๊ะอาหารการประชุมระดับโลก เอเปค 2022

 

 

      หากไม่ยอม ก็ยังไม่แพ้ และอาจไม่มีวันแพ้ เหมือนกับ เรื่องราวของ “เกศรินทร์ กลิ่นฟุ้ง” หรือ หนิง แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 43 ปี ที่หนีความวุ่นวายจากเมืองกรุงหอบหนี้กว่าสองแสนกลับไปสู้ชีวิตที่ลำปางบ้านเกิด เริ่มจากทำขนมขายที่บ้าน ไม่กลัวการเรียนรู้ใหม่ๆ จากขนมห่อละ 35 ที่ลงทุนพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานอย. จนทำให้คนรอบตัวตั้งคำถามว่า “ขนมห่อละ 30 กว่าบาทจะทำไปทำไม”

      ในวันนั้นเธอเองก็ไม่มีคำตอบ รู้แค่ว่าว่าต้องทำ ผ่านไป 8 ปี วันนี้เธอได้คำตอบที่พร้อมบอกกับทุกคนแล้วว่า เธอทำสิ่งเหล่านั้นไปทำไม เมื่อขนมบ้านๆ ของเธอกลายเป็นของหวานขึ้นโต๊ะอาหารในการประชุมระดับโลกอย่าง เอเปค 2022 ที่มากกว่าความภูมิใจคือการเปลี่ยนสายตาคนรอบข้าง

ชีวิตจริงไม่สวยหรูดังภาพฝัน

      เกศรินทร์ ก็คงเหมือนเด็กสาวต่างจากหวัดส่วนใหญ่ที่มีภาพฝันอยากสร้างครอบครัวที่สวยหรูตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพฯ แต่เมื่อชีวิตครอบครัวเดินมาถึงทางตัน ไม่สามารถไปต่อด้วยกันได้ หนิงตัดสินใจอย่างไม่ลังเล หันหลังให้กับความวุ่นวายในเมืองใหญ่ หอบหิ้วลูกชายน้อง “ภูดอย” กลับบ้านเกิดที่จังหวัดลำปาง หวังตั้งต้นใหม่ แม้ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แถมด้วยแพ็กเกจหนี้สินกว่า 2 แสนบาท

      ภาระที่หนักรออยู่ทำให้หนิงไม่นิ่งดูดาย เมื่อถึงลำปางเธอจึงมองหารายได้เสริมทันทีโดยนำสิ่งที่ตนชอบคือ การเป็นคนชอบกิน มาทำขนมขาย เป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ในชีวิต เริ่มศึกษาและทดลองทำขนมคุ้กกี้กินกันในครอบครัว แจกจ่ายให้คนรู้จักลองชิม กว่าจะได้สูตรที่ลงตัวเธอต้องยอมทิ้งขนมไปเยอะมาก จนสูตรขนมถูกพัฒนาแล้วทุกคนบอกว่าอร่อย ก็มีความมั่นใจในระดับหนึ่งเอาไปฝากขาย

      แม้เริ่มมีความมั่นใจเรื่องของรสชาติ แต่หนิงก็ได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากคำพูดของพ่อที่ติงมาว่า “ขนมของเธอไม่เห็นแตกต่างจากคนอื่น จะขายได้สักเท่าไหร่และไปได้สักแค่ไหน”

      อาจเรียกได้ว่ากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของหนิง ทำให้เธอต้องศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเอง หลังจากนั้นจึงได้นำความรู้จากการเข้าอบรมในโครงการวิสาหกิจและคุณธรรมชุมชนรักษ์น้ำของเอสซีจี มาต่อยอดพัฒนาสร้างเอกลักษณ์สินค้า ซึ่งหากพูดถึงลำปาง ก็ต้องนึกถึงไก่ขาว และสับปะรดก็เหมือนเป็นพืชเศรษฐกิจของลำปาง จนได้เป็นขนมคุกกี้กุ๊กไก่ไส้สับปะรด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเลือกบรรจุภัณฑ์ เปลี่ยนจากถุงพลาสติก มาเป็นกระปุก จนสุดท้ายกลายเป็นกระปุกคุกกี้ที่มีฝาดึง นอกจากเพิ่มความสวยงามแล้วก็ยังสามารถช่วยยืดอายุของขนมได้อีกด้วย

ออเดอร์เปลี่ยนชีวิต

      จากการที่ปรับตัวสินค้าทำให้โอกาสเดินเข้ามาหาเธอแบบไม่รู้ตัวเมื่อมีผู้ใหญ่ให้โอกาสให้ทำขนมของฝากสำหรับเป็นของขวัญปีใหม่เอาไปแจกลูกค้า 500 กระปุก

      “หนิงเรียกว่าเป็นออเดอร์เปลี่ยนชีวิตเลย จากขนมธรรมดาห่อละ 35 บาทกลายเป็นมีเงินเข้ามาหลักแสนมันฟูฟ่องหัวใจมาก นอกจากยอดเงินสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนคือสายตาคนรอบข้าง อันนี้ทำให้หนิงภูมิใจมากกว่าเม็ดเงินที่เข้ามาอีก”

      จากออเดอร์ใหญ่ ผลของความพยายามของเธอก็เริ่มออกดอกผลที่สวยงามยิ่งขึ้น เมื่อได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ให้ทำขนมไปเป็นของว่างสำหรับการประชุม เอเปค 2022

      “ความฟูฟ่องมันมาตั้งแต่ออเดอร์แรกแล้ว ส่วนผลที่ตามมาหนิงถือว่าเป็นกำไรของชีวิตแล้ว”

อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่

      เกศรินทร์ เล่าถึงความรู้สึกที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ได้ว่า ต้องขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจเดินกลับบ้านเมื่อ 8 ที่แล้ว ต้องขอบคุณตัวเองที่กล้าหิ้วขนมที่ทำไปฝากขาย ทั้งๆ ที่เป็นคนปฏิเสธเรื่องงานขายมาโดยตลอด ต้องขอบคุณตัวเองที่ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ไม่หยุดพัฒนาสินค้า และไม่กลัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

     “ในการขออย. ก็ต้องใช้เงินทุนมาปรับปรุงสถานที่การผลิต ซึ่งตอนนั้นเรายังเป็นหนี้ไม่สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ถ้าเราไม่กล้าเดินไปหาพัฒนาชุมชนก็ไม่รู้ว่ามีช่องทางหาแหล่งเงินทุนใหม่ๆ หรือถ้าเราไม่ไปอบรมเราก็จะไม่ได้รับความรู้และโอกาสดีๆ เราเดินทางมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะไม่ถอย ทุกครั้งที่ได้รับโจทย์ หรือทุกครั้งที่เจอปัญหา เราไม่เคยถอย ไม่ว่าจะเจอปัญหา หรือเหนื่อยแค่ไหน”

       ความสำเร็จมักเป็นของผู้ที่ไม่ยอมแพ้

 

ข้อมูลติดต่อ

Facebook: พอDคำ by แม่หนิง ภูดอย

 

Text: Neung Cch.

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

พลิกตำรายา 150 ปี สู่อาณาจักรสุขภาพแห่งอนาคต ทายาทขุนอภิบาลบ่อพลับ ร่วมสร้างธุรกิจครอบครัว

เป้าหมายการทำธุรกิจของหลายคนอาจเป็นเรื่องรายได้ แต่สำหรับ ต๊อก-ปีรัชด์ อนันตพันธ์ และ แต๊ก-ปานชาติ มิตรกูล มีเป้าหมายสร้างแบรนด์ "อภิบาลบ่อพลับ" เพื่อให้ทุกคนได้ระลึกถึงตำรายาไทย 150 ปี จากบรรพบุรุษของเขาที่ชื่อ ขุนอภิบาลบ่อพลับ

tISI แบรนด์แฟชั่นย้อมสีธรรมชาติ ส่วนผสมลงตัวงานคราฟต์ไทยกับดีไซน์ร่วมสมัย ที่ฝันว่าวันหนึ่งจะไปตั้งขายอยู่กลางกรุงปารีส

ปัญหาหนึ่งของงานคราฟต์ไทย ที่ทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร แม้จะเป็นงานทรงคุณค่า ก็คือ ไม่สามารถนำมาประยุกต์ใช้จริงอยู่ในชีวิตประจำวันได้ แต่อาจไม่ใช่กับ tISI (ธิซายด์) แบรนด์แฟชั่นไทยน้องใหม่ที่มองว่าไม่จำเป็นต้องอนุรักษ์ หากสิ่งนั้นเป็นที่ต้องการอยู่แล้ว

สานต่อตำนาน 70 ปี ทายาทรุ่น 3 ปัดฝุ่น รร.แสงทองเฮอริเทจ สู่แลนด์มาร์คใหม่แห่งนครพนม

เพราะความฝันที่จะสานต่อโรงแรมเก่าแก่ "แสงทอง" ที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น กรรณิการ์ หนูห่วง ทายาทรุ่นที่ 3 จึงตัดสินใจกลับ จ.นครพนม เพื่อหวังฟื้นฟูโรงแรมที่มีสถาปัตยกรรมโบราณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ท่ามกลางความไม่เห็นด้วยของครอบครัว และโจทย์หินมากมาย